ข่าวจากสหรัฐอเมริกา รัฐบาลสหรัฐฯ ใช้นโยบายกำแพงภาษีกับรถผลิตจากประเทศจีนอย่างได้ผล ทำให้ผู้ผลิตรถจากประเทศจีน ต้องหาทางเปิดตลาดรถยนต์ในส่วนอื่นของโลก แม้จะคว้าตำแหน่งประเทศผู้ผลิตรถยนต์นั่งอันดับ 1 แซงผู้ผลิตรถจากเยอรมนี และญี่ปุ่นไปแล้ว
ยอดขายรถยนต์จากประเทศจีนเติบโตอย่างก้าวกระโดด ในปี 2567 ทำยอดส่งออกถึง 4.7 ล้านคัน เติบโตมากถึง 3 เท่า เมื่อเทียบกับยอดส่งออกปี 2564 หากคิดยอดขายทั่วโลกแบรนด์ BYD สามารถโค่น Tesla สำเร็จจากยอดขายรถไฟฟ้า รวมกับรถไฮบริด และจากการวิเคราะห์ คาดว่าอีกไม่นานคงแซงทั้ง Volkswagen และ Toyota
แม้ผู้ผลิตจากประเทศจีนไม่สามารถบุกตลาดสหรัฐอเมริกา และยุโรป ด้วยการตั้งกำแพงภาษีอันหนักหน่วง ผู้ผลิตจากจีนจึงหันไปมองประเทศในซีกโลกใต้เพื่อระบายสินค้าที่มีอยู่ในมือ โดยเฉพาะในกลุ่มประเทศตะวันออกเฉียงใต้, ตะวันออกกลาง, ลาติน อเมริกา และแอฟริกา แม้ประเทศเหล่านี้มีกำลังซื้อไม่เท่ากับประเทศตะวันตก แต่มีการเติบโตตลาดรถยนต์ค่อนข้างสูง ทั้งมีกำลังผลิตรถในประเทศจำนวนจำกัด
ก่อนหน้านี้รถจากประเทศจีนแทบไม่มีส่วนแบ่งการตลาดในประเทศเหล่านี้เลย จนไม่กี่ปีต่อมาสามารถเพิ่มส่วนแบ่งการตลาดในกลุ่มประเทศตะวันออกกลาง และแอฟริกา 8 % ในอเมริกาใต้ 6 % และในตะวันออกเฉียงใต้ 4 %
ผู้ผลิตรถจากประเทศจีนพยายามอย่างหนักเพื่อบุกตลาดรถในภูมิภาคเหล่านี้ เนื่องจากการชะลอตัวของยอดขายรถในประเทศจีน ในปีที่แล้วยอดขายรถในประเทศจีนทำได้ 23 ล้านคัน ลดลงมากเมื่อเทียบกับก่อนหน้านี้ หากเทียบกับกำลังการผลิตของโรงงานในประเทศจีน ถ้าเดินหน้าผลิตเต็มกำลังจะผลิตได้มากถึง 45 ล้านคัน แต่ปัจจุบันมียอดการผลิตเพียง 60 % ของกำลังผลิตสูงสุดเท่านั้น
แม้ผู้ผลิตรถจากจีนประสบปัญหายอดผลิตรถเกินความต้องการในประเทศจีน แต่บริษัทเหล่านี้ยังต้องการสร้างฐานการผลิตในประเทศต่างๆ ปัจจุบันโรงงานผลิตรถแบรนด์จีนในต่างประเทศมียอดการผลิตมากถึง 2.5 ล้านคัน ซี่งสามารถหลีกเลี่ยงกำแพงภาษี และลดค่าขนส่งลง ปัจจุบัน BYD มีฐานการผลิตในประเทศไทย และอุซเบกิสถาน ทั้งมีแผนจะเพิ่มฐานการผลิตในบราซิล, อินโดนีเซีย, ฮังการี, ตุรเคีย และเมกซิโก ไม่เพียงแต่ BYD เท่านั้น ยังมีอีกหลายบริษัทผู้ผลิตที่กำลังบุกตลาดรถยนต์ในทิศทางเดียวกันทั้ง Chery, GWM, SAIC และ Changan
ในขณะนี้ยังไม่มีนโยบายที่ชัดเจนจากทางรัฐบาลจีน ไม่ว่าการชักจูงใจด้วยค่าชดเชยให้แก่รถต่างประเทศที่ผลิตในประเทศจีน รวมถึงการขยายฐานการผลิตไปยังประเทศอื่นทั่วโลกด้วย อย่างไรก็ตาม ผู้ผลิตรถจากประเทศจีน กำลังต้อนผู้ผลิตจากประเทศญี่ปุ่น และเกาหลีไต้เข้ามุม รวมถึงผู้ผลิตรถอเมริกัน และยุโรป ก็โดนแรงกดดันนี้ด้วยเช่นกัน