ธุรกิจ
Shell ครองอันดับ 1 ผู้จำหน่ายน้ำมันหล่อลื่นระดับโลก

Shell (เชลล์) ครองตำแหน่งอันดับ 1 ผู้จำหน่ายน้ำมันหล่อลื่นระดับโลก เป็นปีที่ 18 ติดต่อกัน จากรายงาน Global Lubricants: Market Analysis and Assessment 2023 ฉบับที่ 22 ของ Kline & Company บริษัทวิจัยการตลาดชั้นนำระดับโลก ซึ่งเป็นรายงานการสำรวจตลาดผู้บริโภคน้ำมันหล่อลื่นชั้นนำทั่วโลก ทั้งในด้านข้อมูลการบริโภคภายในประเทศ และส่วนแบ่งตลาด ครอบคลุมผลิตภัณฑ์ทุกสูตร
รายงานดังกล่าวระบุว่า Shell ยังคงครองอันดับ 1 ในฐานะผู้จำหน่ายน้ำมันหล่อลื่น และสารหล่อลื่นสำหรับรถยนต์ และสำหรับอุตสาหกรรมรายใหญ่ที่สุดของโลกใน 3 กลุ่มผลิตภัณฑ์หลัก ได้แก่ น้ำมันหล่อลื่นสำหรับรถยนต์ (Consumer Automotive) น้ำมันหล่อลื่นสำหรับรถที่ใช้เพื่อการพาณิชย์ (Commercial Automotive) และน้ำมันหล่อลื่นสำหรับใช้ในอุตสาหกรรม (Industrial)
เจสัน หว่อง รองประธานบริหารธุรกิจน้ำมันหล่อลื่น บริษัท เชลล์ จำกัด (Shell plc.) กล่าวว่า การครองตำแหน่งอันดับ 1 ผู้จำหน่ายน้ำมันหล่อลื่นระดับโลกได้อย่างต่อเนื่องอีกครั้ง แสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นของ Shell ในการนำเสนอน้ำมันหล่อลื่น และสารหล่อลื่นคุณภาพสูงที่ตอบโจทย์ผู้บริโภค ด้วยผลิตภัณฑ์ที่ออกแบบมาเพื่อช่วยลดแรงเสียดทาน รวมทั้งควบคุมอุณหภูมิเพื่อลดความร้อนให้แก่เครื่องยนต์ ทั้งรถยนต์ส่วนบุคคล รถที่ใช้เพื่อการพาณิชย์ และเครื่องจักรสำหรับภาคอุตสาหกรรม
เราภูมิใจที่ได้ขับเคลื่อนความก้าวหน้าของโลกด้วยแบรนด์ เทคโนโลยี และบุคลากรของเรา เป้าหมายของเราตอนนี้ คือ การมั่นใจว่า เราจะยังคงรักษาความเป็นผู้นำในการจัดหาน้ำมันหล่อลื่น และสารหล่อลื่นที่มีคุณภาพสูง เพื่อตอบโจทย์ทุกความต้องการสำหรับอนาคต
การที่ Shell ยังคงครองตำแหน่งผู้นำระดับโลก และมีความได้เปรียบทางการแข่งขัน เป็นผลมาจากการลงทุนในผลิตภัณฑ์พรีเมียม ที่ออกแบบมาให้มีความโดดเด่น และมีความแตกต่าง โดยเฉพาะทางด้านคุณภาพ และเทคโนโลยี เช่น Shell Helix (เชลล์ เฮลิกส์) น้ำมันเครื่องยนต์สำหรับรถยนต์ส่วนบุคคล Shell Advance (เชลล์ แอดวานศ์) น้ำมันเครื่องสำหรับรถจักรยานยนต์ Shell Rimula (เชลล์ ริมูลา) น้ำมันเครื่องสำหรับรถบรรทุก และเครื่องยนต์สมรรถนะสูง รวมถึงน้ำมันหล่อลื่นสำหรับภาคอุตสาหกรรมอย่าง Shell Tellus (เชลล์ เทลลัส) และจาระบี Shell Gadus (เชลล์ กาดุส) ซึ่งทั้งหมดล้วนเป็นแบรนด์ที่ได้รับความไว้วางใจ และเป็นที่นิยมในตลาดสำคัญทั่วโลก
Shell เป็นหนึ่งในบริษัทแรกๆ ที่เปิดตัวกลุ่มผลิตภัณฑ์ E-Fluids ตั้งแต่ปี 2562 จนทุกวันนี้ผลิตภัณฑ์นี้เป็นส่วนหนึ่งในการเพิ่มประสิทธิภาพ ความปลอดภัย และความยั่งยืนของระบบขับเคลื่อนรถยนต์ไฟฟ้าทั่วโลก
อย่างไรก็ตาม E-Fluids นี้ยังสามารถนำไปประยุกต์ใช้งานในด้านอื่นๆ อีกด้วย เช่น ในฐานะส่วนหนึ่งของการพัฒนาผลิตภัณฑ์ครบวงจรสำหรับศูนย์ข้อมูล และระบบเก็บพลังงานแบทเตอรี (Battery Energy Storage Systems-BESS) Shell ได้พัฒนาผลิตภัณฑ์ของเหลวสำหรับการระบายความร้อน แบบแช่ (Immersion Cooling Fluids) ที่ออกแบบมาเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพ ประสิทธิผล และความยั่งยืน
Shell ยังคงมุ่งมั่นพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมมากขึ้น โดยธุรกิจน้ำมันหล่อลื่นของ Shell มีบทบาทสำคัญในการสนับสนุนเป้าหมายของบริษัท ที่จะเป็นองค์กรด้านพลังงานที่ปล่อยแกสเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ภายใน
ปี 2593 ความก้าวหน้าในการไปสู่เป้าหมายนี้เกิดขึ้นมาจากการที่ Shell ลดการปล่อยคาร์บอนในกระบวนการดำเนินงานของบริษัทเอง พร้อมทั้งช่วยเหลือลูกค้าของเราให้ลดการปล่อยแกสเรือนกระจก และลดปริมาณของเสีย
จากการใช้ผลิตภัณฑ์ Shell ที่มีประสิทธิภาพสูง
นอกจากนี้ ธุรกิจน้ำมันหล่อลื่น Shell กำลังมุ่งลดปริมาณของเสียผ่านการพัฒนาบรรจุภัณฑ์ที่ยั่งยืน โดยใช้วัตถุดิบที่หมุนเวียนได้ พร้อมนำเสนอทางเลือกที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ผ่านผลิตภัณฑ์น้ำมันหล่อลื่นชนิดย่อยสลายได้ทางชีวภาพ (Biodegradable) รวมทั้งน้ำมันหล่อลื่นความหนืดต่ำ ด้วยเทคโนโลยีที่ล้ำสมัยของ Shell ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการประหยัดเชื้อเพลิงสำหรับกลุ่มรถยนต์ได้สูงสุดถึง 3 %1 และช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการใช้พลังงานในภาคอุตสาหกรรมได้สูงสุดถึง 4 %2 นอกจากนี้ ยังช่วยยืดอายุการใช้งานของเครื่องยนต์ และเครื่องจักร ส่งผลให้ลดการปล่อยแกสเรือนกระจกได้อีกด้วย
จากรายงานล่าสุดของ Kline & Company Shell ยังคงรักษาตำแหน่งผู้นำตลาดน้ำมันหล่อลื่นในระดับโลก ด้วยส่วนแบ่งตลาดที่ 11.6 % โดยในปี 2566 การจำหน่ายน้ำมันหล่อลื่นของ Shell ทั่วโลก แบ่งออกเป็นสัดส่วนเกือบเท่าๆ กันได้ 3 กลุ่มหลัก คือ น้ำมันหล่อลื่นสำหรับรถยนต์ส่วนบุคคล 36 % สำหรับภาคอุตสาหกรรม 33 % และรถยนต์เพื่อการพาณิชย์ 31 %
ความสำเร็จนี้สะท้อนถึงความแข็งแกร่งของ Shell ในทุกภาคส่วนของอุตสาหกรรม รวมถึงความไว้วางใจจากลูกค้าทั่วโลก
ที่เลือกใช้ผลิตภัณฑ์ของ Shell ในการขับเคลื่อนธุรกิจ และชีวิตประจำวัน Shell ยังคงเดินหน้าพัฒนานวัตกรรม และเทคโนโลยีใหม่ๆ อย่างต่อเนื่อง เพื่อพัฒนาน้ำมันหล่อลื่นที่มีประสิทธิภาพสูง และตอบโจทย์ทุกความต้องการในอนาคตอย่างยั่งยืน ด้วยเจตนารมณ์ของธุรกิจน้ำมันหล่อลื่น “ขับเคลื่อนความก้าวหน้าให้โลกในวันนี้ เพื่อวันพรุ่งนี้ที่ดียิ่งขึ้น-Keeping the World Progressing Today for Tomorrow”
เพื่อเป็นการฉลองการครองตำแหน่งยอดขายน้ำมันหล่อลื่นอันดับ 1 ของโลก ตลอด 18 ปีซ้อน น้ำมันเครื่อง Shell Helix จะมีการอัพเกรดมาตรฐานใหม่ให้เป็นมาตรฐานสูงสุด API SQ ซึ่งเป็นหนึ่งในน้ำมันหล่อลื่นสำหรับรถยนต์เจ้าแรกของโลกที่ได้มาตรฐาน API SQ พร้อมทำการปรับโฉมผลิตภัณฑ์ใหม่ให้มีความทันสมัย ให้ลูกค้าได้สัมผัสประสบการณ์น้ำมันหล่อลื่นเกรดพรีเมียมมาตรฐานสูงสุดของ Shell Helix เร็วๆ นี้