ธุรกิจ
OR เผยผลประกอบการไตรมาสแรก 2568

OR เผยผลการดำเนินงานไตรมาส 1 ปี 2568 มีกำไรสุทธิ 4,380 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 46 % จากไตรมาสก่อน คิดเป็นกำไร/หุ้น 0.36 บาท และมี EBITDA จำนวน 6,484 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 32.7 % จากไตรมาสก่อน โดยเพิ่มขึ้นจากทุกกลุ่มธุรกิจ พร้อมเดินหน้าขยาย และสร้างความแข็งแกร่งของของธุรกิจ เพื่อสร้างการเติบโตร่วมกันอย่างยั่งยืน
หม่อมหลวงปีกทอง ทองใหญ่ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ปตท. น้ำมันและการค้าปลีก จำกัด (มหาชน) หรือ OR เปิดเผยว่า ผลการดำเนินงานของ OR ในไตรมาสแรกของปี 2568 มีรายได้ขายและบริการ 182,422 ล้านบาท ลดลง 3,482 ล้านบาท หรือลดลง 1.9 % จากไตรมาสก่อนหน้า มีกำไรสุทธิ จำนวน 4,380 ล้านบาท ปรับตัวดีขึ้นจากไตรมาสก่อน 46 % และมี EBITDA จำนวน 6,484 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 1,597 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 32.7 % เมื่อเทียบกับไตรมาสที่แล้ว โดยเป็นการเพิ่มขึ้นจากทุกกลุ่มธุรกิจ โดยกลุ่มธุรกิจ Mobility เพิ่มขึ้น 39.6 % จากภาพรวมกำไรขั้นต้นเฉลี่ย/ลิตรที่ดีขึ้น กลุ่มธุรกิจ Lifestyle เพิ่มขึ้น 9.8 % จากเพิ่มขึ้นทั้งธุรกิจค้าปลีกอาหาร และเครื่องดื่ม และธุรกิจอื่นๆ เช่นเดียวกับกลุ่มธุรกิจ Global เพิ่มขึ้น 30.8% จากการฟื้นตัวของผลประกอบการในประเทศฟิลิปปินส์ ส่วนภาพรวมของค่าใช้จ่ายดำเนินงานสุทธิลดลง
ทั้งนี้ ในไตรมาส 1 ที่ผ่านมา OR ยังคงขยายธุรกิจด้านไลฟ์สไตล์อย่างต่อเนื่อง ทั้งด้านสุขภาพ และความงาม (Health & Beauty) โดยล่าสุดขยายเครือข่ายร้าน Found & Found เป็น 10 สาขา ครอบคลุมทั้งในกรุงเทพฯ และต่างจังหวัด สะท้อนความแข็งแกร่งของรากฐานสำหรับการเติบโตในอนาคต โดยในปีนี้ เปิดสาขาใหม่ที่ PTT Station พระราม 4 The Glass Market บางนา และเธอะมอลล์ บางแค พร้อมวางเป้าหมายขยายเป็น 50 สาขาภายในปี 2569 อีกทั้งยังได้จัดตั้งบริษัทย่อยเพื่อดำเนินธุรกิจ และการลงทุนที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจอาหาร และเครื่องดื่ม ซึ่งเป็นการเพิ่มศักยภาพในการแข่งขัน และสอดคล้องกับกลยุทธ์สร้างการเติบโตในธุรกิจ Lifestyle ในอนาคต นอกจากนี้ ยังได้เปิด Cafe Amazon Concept Store แห่งแรกในกัมพูชาด้วยเมนูเครื่องดื่ม และอาหารที่รังสรรค์มาเป็นพิเศษให้แก่ผู้บริโภคชาวกัมพูชา พร้อมเสริมสร้างความเจริญเติบโตที่ยั่งยืนร่วมกับประเทศกัมพูชาตามแนวคิด "They Grow-We Grow" ซึ่งเป็นแนวทางที่ OR ยึดถือในการดำเนินธุรกิจในต่างประเทศ และล่าสุด OR ได้รับการจัดอันดับเครดิทองค์กรที่ระดับ “AA+” จาก Tris Rating (Tris) ด้วยแนวโน้มอันดับเครดิทคงที่ (Stable) ต่อเนื่องเป็นปีที่ 3 สะท้อนถึงการบริหารสถานะทางการเงินที่เข้มแข็ง และความแข็งแกร่งของบริษัทในฐานะผู้นำตลาดค้าปลีกน้ำมันของประเทศ
หม่อมหลวงปีกทอง กล่าวเพิ่มเติมว่า OR จะมุ่งเน้นการขับเคลื่อนองค์กรอย่างรอบด้านด้วยการลงทุนพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน โดยเฉพาะเทคโนโลยีดิจิทอลเพื่อเพิ่มความสามารถทางการแข่งขัน พร้อมทั้งหาโอกาสต่อยอดทางธุรกิจ และขยายเครือข่ายลูกค้า โดยการผนวกผลิตภัณฑ์ และการบริการทางการเงินของ Virtual Bank เพื่อตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าได้มากยิ่งขึ้น และรองรับการเติบโตทางธุรกิจในอนาคตอย่างยั่งยืน