บทความ
ศัพท์เทคนิค Formula 1 ที่คุณต้องรู้ !

หลัง ครม. ไฟเขียวให้ประเทศไทยเป็นเจ้าภาพจัดแข่ง Formula 1 โดยจะเริ่มปี 2571 เรียกได้ว่าเป็นกระแสให้พูดถึงในบ้านเราอย่างคึกคัก ก่อนอื่นมาเรียกน้ำย่อยทำความรู้จักศัพท์การแข่งขัน Formula 1 บางส่วนที่พบกันบ่อยๆHighlight
ไม่นานมานี้มีข่าว ครม. ไฟเขียวให้ประเทศไทยเป็นเจ้าภาพจัดแข่ง Formula 1 โดยจะเริ่มปี 2571 จนเรียกได้ว่าเป็นกระแสให้พูดถึงในบ้านเราอย่างคึกคัก รวมถึงจะมีหนัง F1 The Movie ที่ได้พระเอกสุดหล่ออย่าง แบรด พิตต์ มาร่วมแสดง แต่ก่อนอื่นวันนี้เรามาลองทำความรู้จักศัพท์การแข่งขัน Formula 1 บางส่วนที่พบบ่อยๆ เพื่อเป็นการเรียกน้ำย่อยสักหน่อย...
Aerodynamics
หลักวิศวกรรมเกี่ยวกับการไหลเวียนของอากาศที่มีผลต่อการเคลื่อนที่ของยานพาหนะ
Apex
ด้านในสุดของไลน์การขับที่ผ่านโค้ง โดยการขับเข้าใกล้จุดนี้มากที่สุด จะช่วยให้รถสามารถเข้าโค้งได้อย่างมีประสิทธิภาพ รวมถึงรักษาความเร็วสูงสุดขณะผ่านโค้ง เพื่อให้ได้เวลาต่อรอบเร็วที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้
Aquaplaning
อาการเหินน้ำของรถแข่ง เนื่องจากหน้ายางไม่สามารถรีดน้ำออกได้หมดจะทำให้เกิดแรงดันที่จะยกให้ยางลอยตัวขึ้นจากผิวทางวิ่ง
Backmarker
รถที่มีความเร็วช้ากว่าคันอื่น และจะถูกคันที่อยู่ในอันดับนำนอครอบ โดยเจ้าหน้าที่สนามจะโบกธงสีน้ำเงินเพื่อเป็นสัญญาณว่ามีรถเร็วกว่าใกล้เข้ามา และนักขับควรเปิดทางให้โดยปลอดภัย
Box
เป็นคำที่ใช้สื่อสารกันทางวิทยุของทีม นักแข่ง และวิศวกรมักใช้คำว่า "Box" แทน "Pit" เนื่องจากเป็นคำที่มีความโดดเด่น ชัดเจน และง่ายต่อการได้ยิน ซึ่งเป็นการเรียกเข้า Pit หรือขอเข้า Pit
Blistering
การเสื่อมสภาพของยางอันเป็นผลมาจากความร้อนสูงเกินไป ทำให้ยางแตกออกจากกัน
Bottoming
อาการที่ส่วนใต้ท้องของตัวรถกระแทกกับพื้นทางวิ่งขณะใช้ความเร็วสูง
Chicane
ทางโค้งที่กำหนดขึ้นในแทรค เพื่อเป็นการช่วยลดความเร็วของรถแข่งลง โดยเฉพาะในจุดที่มีแนวโน้มว่าจะเกิดอุบัติเหตุจากการใช้ความเร็วสูงเกินไป
Clean Air
มวลอากาศที่ไหลเข้าสู่ตัวรถโดยไม่ถูกรบกวนจากรถแข่งคันหน้า ซึ่งจะมีผลให้แผ่นดักลมสามารถทำงานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ
Cockpit
ส่วนของรถ F1 บริเวณภายในที่นักแข่งนั่งขับ ซึ่งขึ้นรูปตามสรีระเฉพาะตัวของนักแข่งแต่ละคน
Cost Cap
ขีดจำกัดทางการเงินที่กำหนดว่าทีมสามารถใช้จ่ายในการพัฒนารถแข่งได้เท่าใดตลอดปีการแข่งขัน
Downforce
แรงกดที่เกิดจากหลักการทางอากาศพลศาสตร์ ช่วยกดตัวรถในส่วนที่ต้องการ เพื่อประสิทธิภาพการยึดเกาะสูงสุด
Drag
แรงฉุดเกิดขึ้นจากด้านอากาศพลศาสตร์ ซี่งจะเกิดในทิศทางตรงข้ามกับการเคลื่อนตัวของรถ หรือแรงต้านที่เกิดจากการที่รถแหวกอากาศขณะวิ่ง
Drive-Through Penalty
เป็นบทลงโทษที่กรรมการสามารถสั่งลงโทษนักแข่งในระหว่างการแข่งขัน นักแข่งต้องขับผ่านพิทเลนโดยไม่หยุด (ไม่เกินความเร็วที่กำหนด 80 กม./ชม.) ก่อนจะกลับเข้าสู่การแข่งขัน โทษนี้จะทำให้นักแข่งเสียเวลา และตำแหน่ง
Drs
ระบบลดแรงต้านอากาศ หรือ Drag Reduction System ระบบปีกหลังแบบปรับได้ เพื่อเพิ่มความเร็วปลาย และช่วยให้แซงได้ง่ายขึ้น โดยนักแข่งสามารถใช้งานได้เฉพาะในจุดที่กำหนด และเฉพาะเมื่อรถที่ตามหลังอยู่ในระยะไม่เกิน 1 วินาทีจากรถคันหน้า
Ers
Energy Recovery Systems หรือ Ers เป็นเทคโนโลยีอัจฉริยะที่นำพลังงานจลน์จากการเบรค และพลังงานความร้อนที่สูญเสียจากเทอร์โบชาเจอร์ มาเปลี่ยนเป็นพลังงานเสริมให้กับรถแข่ง
Fia (สหพันธ์ยานยนต์นานาชาติ)
Fia หรือ Federation International De L‘automobile คือ องค์กรควบคุมการแข่งขันรถยนต์แข่งนานาชาติหลายรายการ รวมถึง Formula 1
Flat Spot
การสึกของยางที่เกิดจากการเบรคอย่างรุนแรงจนล้อลอค มักจะเกิดขึ้นบนล้อหน้า
Flying Lap
การขับเพื่อให้ได้เวลาต่อรอบดีที่สุด
Formation Lap
การให้รถแข่งวิ่งรอบสนาม 1 รอบ (รอบวอร์ม/รอบเตรียมตัว) เพื่อเป็นการยืนยันว่าทุกคันสามารถเข้าร่วมการแข่งขันได้ หากคันใดไม่สามารถออกร่วม Formation Lap ได้ ต้องนำรถออกไปจากกริดสตาร์ท
Grip
แรงยึดเกาะของยางที่มีต่อทางวิ่ง ไม่ว่าขณะเลี้ยวโค้ง เร่งออก หรือเบรคก็ตาม
Jump Start
การตรวจจับรถแข่ง เมื่อนักแข่งเคลื่อนที่จากจุดเริ่มต้นก่อนที่ไฟทั้ง 5 ดวงจะดับลง ทำให้ต้องรับโทษปรับเวลา
Kerb
เส้นแสดงตำแหน่งขอบทางวิ่ง ซึ่งจะมีอยู่ทั้งด้านใน และด้านนอกของโค้ง
Marbles
เศษยางชิ้นเล็กๆ ที่หลุดออกจากหน้ายาง หากมีจำนวนมากจะทำให้ยางรถสูญเสียการยึดเกาะกับพื้นทางวิ่ง
Oversteer/Understeer
Oversteer คือ การที่ล้อหลังสูญเสียการยึดเกาะ เกิดจากการหักเลี้ยวมากเกินไป ขณะที่เร่งเครื่องจนล้อหลังสูญเสียการยึดเกาะ ส่วน Understeer คือ อาการรถเลี้ยวน้อยกว่าที่นักแข่งต้องการ ดื้อโค้ง ไม่เข้าไลน์ตามที่ควร
Pits
พื้นที่บนสนามแข่งที่อยู่ข้างทางตรงเริ่มต้น/เส้นชัย ซึ่งรถสามารถเปลี่ยนยาง หรือซ่อมแซมความเสียหายที่ไม่รุนแรงได้ระหว่างการแข่งขัน
Pit Board
แผ่นบอร์ดที่ทางทีมแข่งใช้ยกแจ้งให้นักแข่งทราบตำแหน่ง และช่วงห่างของเวลาของรถคันนำ/คันตาม รวมถึงรอบการแข่งขันที่เหลืออยู่
Pit Wall
พื้นที่ทำงานสำหรับผู้บริหารทีมแข่งในขณะทำการแข่งขัน ซึ่งทำการวางแผนการขับ และให้ข้อมูลที่จำเป็นแก่นักแข่ง
Safety Car
รถนำขบวนรถแข่งเพื่อควบคุมให้รถแข่งลดความเร็วลง และไม่อนุญาตให้มีการแซงเพื่อให้เจ้าหน้าที่สามารถทำการเคลื่อนย้ายสิ่งกีดขวางออกจากทางวิ่ง หรือลดความเร็วของรถแข่งลงเมื่อเกิดสถานการณ์อันตรายบนสนามแข่ง
Shakedown
การตรวจสอบสภาพความพร้อมของรถแข่งก่อนการแข่งขัน
ธงแดง
แสดงว่าการซ้อม หรือการแข่งขันถูกยุติชั่วคราว หรือสิ้นสุดทันที มักเกิดจากอุบัติเหตุรุนแรง หรือสภาพอากาศที่เป็นอันตราย
ธงน้ำเงิน
แจ้งให้ทราบว่ามีรถที่เร็วกว่าขึ้นมาด้านหลัง หากไม่ปฏิบัติตามอาจโดนลงโทษ
ธงเหลือง
เตือนให้ทราบว่ามีอันตรายเกิดขึ้น และห้ามแซงในช่วงสัญญาณธงเหลือง หากยกขึ้น หมายถึงให้ลดความเร็ว แต่ถ้าโบกธงเหลือง หมายถึงให้ลดความเร็ว และพร้อมสำหรับการหยุด
ธงเขียว
แจ้งให้ทราบว่าพ้นจากจุดอันตรายแล้ว และสามารถแซงได้
ธงดำ
แสดงให้กับนักแข่ง (พร้อมกับหมายเลขรถของนักแข่งคนนั้น) ที่ถูกตัดสิทธิ์จากการแข่งขัน และต้องกลับเข้าพิททันทีเพื่อออกจากการแข่งขัน มักเกี่ยวข้องกับการละเมิดกฎด้านเทคนิค หรือพฤติกรรมในสนาม
ธงลายตารางหมากรุกสีดำ-ขาว
โบกที่เส้นสตาร์ท/ฟินนิชเพื่อแสดงว่าสิ้นสุดการแข่งขันแล้ว
การแข่งขันฤดูกาลแรก จัดขึ้นในปี 1950 เป็นปีแรกของการแข่งขันที่เรารู้จักกันในชื่อ Formula 1 World Championship ในฤดูกาลนั้นมีการแข่งขันทั้งหมด 7 รายการ แต่ละรายการมีการให้คะแนนเพื่อนำไปรวมในการตัดสินแชมพ์
คณะรัฐมนตรี เห็นชอบนโยบายการเสนอตัวเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันรถยนต์สูตรหนึ่ง หรือ F1 โดยหลังจากนี้ ไทยจะเสนอตัวเป็นเจ้าภาพการแข่งขัน 5 ปี ตั้งแต่ปี 2571 วงเงินกว่า 40,000 ล้านบาท เเละจากการศึกษาสนามการแข่งขัน F1 จะจัดขึ้นในกรุงเทพฯ พื้นที่บริเวณสวนจตุจักร รวมระยะทางประมาณ 5.7 กิโลเมตร ทั้งหมด 3 วัน ได้แก่ วันศุกร์ วันเสาร์ และวันอาทิตย์ ซึ่งจากนี้จะมีการพิจารณากรอบการดำเนินโครงการเพื่อไปศึกษาโดยละเอียดต่อไป