ข่าวจากสหรัฐอเมริกา ระบุว่า Volkswagen Group เปิดตัว SSP สถาปัตยกรรมสำหรับรถไฟฟ้าหลากหลายสไตล์ ในรูปแบบ Scalable Systems Platform (แบบโมดูลาร์ที่ปรับขนาดได้ และรองรับการใช้งานหลายรูปแบบ) ซึ่งควรจะพร้อมใช้งานแล้ว แต่ติดปัญหาด้านซอฟท์แวร์จึงทำให้ล่าช้าไปจนอาจถึงปลายทศวรรษนี้
เดิมพแลทฟอร์มแบบ SSP ถูกออกแบบสำหรับใช้สำหรับรถไฟฟ้า (BEV) แต่สามารถติดตั้งเครื่องยนต์ได้ โดย VW Group จะใช้ระบบขยายระยะทาง (Range Extenders) ใช้เครื่องยนต์ปั่นเจเนเรเตอร์สร้างกระแสไฟฟ้าให้แบทเตอรี ซึ่งเป็นรูปแบบเดียวกับ BMW i3, Mazda MX-30 (Rotary) และ Ramcharger ซึ่งเครื่องยนต์ไม่ได้ทำหน้าที่ขับเคลื่อนเหมือนกับเทคโนโลยี e-Power ของ Nissan ที่ใช้เครื่องยนต์สร้างกระแสไฟไห้แบทเตอรีอย่างเดียว
Volkswagen ให้ความสำคัญกับระบบขยายระยะทางมาก โดยจะนำมาใช้กับรถแบรนด์ใหม่ คือ Scout ที่มีทั้งรูปแบบรถกระบะ และรถเอสยูวี ใช้เครื่องยนต์แบบหายใจธรรมดาทำหน้าที่ผลิตกระแสไฟ ปัจจุบันในประเทศจีนได้เปิดตัวรถแนวคิด Volkswagen ID.Era เอสยูวีเบาะ 3 แถว โดยใช้เครื่องยนต์ทำหน้าที่ผลิตกระแสไฟ ภายใต้การพัฒนาโดย SAIC
พแลทฟอร์ม SSP ถือเป็นการริเริ่มที่สำคัญของ Volkswagen Group ที่ใช้เป็นรากฐานสำหรับรถหลายรุ่น ในทุกแบรนด์ในเครือ และจะใช้ทดแทนพแลทฟอร์มรถไฟฟ้าที่ใช้อยู่ในปัจจุบัน โดยสามารถใช้กับรถ 5 รูปแบบ ตั้งแต่รถแฮทช์แบคสำหรับใช้ในเมืองจนถึงรถเอสยูวีขนาดใหญ่ และอาจมีรุ่นย่อยได้ถึง 8 รุ่น คาดว่ารถไฟฟ้าเจเนอเรชันใหม่ที่ใช้พแลทฟอร์มนี้จะเปิดในปี 2569 ที่ประเทศจีน และเปิดตัวที่ยุโรปในปี 2570
อย่างไรก็ตาม Thomas Schäfer ซีอีโอ Volkswagen มีแนวคิดว่ารถพลัก-อิน ไฮบริด (PHEV) เป็นตัวเลือกที่คุ้มค่ากว่า ขณะที่ระบบขยายระยะทางมีต้นทุนสูงกว่า ปัจจุบันรถพลัก-อิน ไฮบริด มีระยะเดินทางมากพอ และใช้เวลาชาร์จน้อยลง ซึ่งหากบริษัทฯ ต้องผลิตรถถึงสองแบบเพื่อจำหน่ายอาจไม่คุ้มทุน
พแลทฟอร์ม SSP จะนำมาใช้กับรถไฟฟ้า Volkswagen Golf เจเนอเรชันที่ 9 โดยมีกำหนดเปิดตัวในช่วงปลายของทศวรรษนี้ (ก่อนปี 2573) และจะวางขายคู่กับ Volkswagen Golf MK8 อีกหลายปี (อาจถึงปี 2578) โดยจะใช้ฐานการผลิตที่ Wolfsburg ส่วน Volkswagen Golf รุ่นเครื่องยนต์สันดาปจะใช้ฐานการผลิตที่ประเทศเมกซิโก เริ่มผลิตในปี 2570
Oliver Blume ซีอีโอ Volkswagen Group กล่าวว่า ความยอดเยี่ยมของพแลทฟอร์ม SSP จะทำให้เราเป็นผู้ขับเคลื่อนเทคโนโลยีระดับโลกสำหรับอุตสาหกรรมยานยนต์ โดยพแลทฟอร์มใหม่นี้จะเป็นตัวบ่งบอกว่า บริษัทได้ก้าวมาถึงเป้าหมายของการพัฒนาพแลทฟอร์มสำหรับอนาคต และทุ่มเทอย่างเต็มพละกำลัง เพื่อนำมาใช้งาน