ธุรกิจ
Nissan ขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฟฟ้า
โตเกียว ประเทศญี่ปุ่น-Nissan (นิสสัน) เปิดตัวรถยนต์รุ่นใหม่ที่ได้คัดเลือกมาเพื่อเสริมความแข็งแกร่งให้แก่ตลาดภายในประเทศญี่ปุ่น ประกอบด้วย Elgrand (เอลกแรนด์) รุ่นใหม่, Patrol (พาทโรล) เอสยูวีพันธุ์แกร่ง ที่เตรียมวางขายในญี่ปุ่น และ Ariya (อารียา) รุ่นปรับโฉมใหม่ ซึ่งแต่ละรุ่นล้วนสะท้อนถึงแนวคิดอัจฉริยะของการเดินทาง และนวัตกรรมของ Nissan
Nissan ตอกย้ำกลยุทธ์ผลิตภัณฑ์ที่ได้รับการปรับปรุงใหม่ภายใต้แผนฟื้นฟูธุรกิจ Re:Nissan ร่วมกับรถยนต์ Leaf (ลีฟ) รุ่นใหม่ ที่เพิ่งเปิดตัวรถยนต์แบบ Kei อย่าง Roox (รุกซ์) และรถยนต์ซีดาน Skyline (สกายไลน์) ปี 2026 รุ่นปรับปรุงใหม่แล้ว โดยรถยนต์รุ่นใหม่เหล่านี้พร้อมสร้างความแข็งแกร่งให้แก่ Nissan ในญี่ปุ่น รวมถึงมีบทบาทสำคัญในการขับเคลื่อนการเติบโตของธุรกิจในอนาคต
ปฏิบัติการภายใต้แผนฟื้นฟูธุรกิจ Re:Nissan
Nissan มุ่งสร้างสรรค์อนาคตแห่งการขับเคลื่อน ผ่านแผนฟื้นฟูธุรกิจ Re:Nissan ที่มุ่งเน้นการนำเสนอผลิตภัณฑ์ด้วยนวัตกรรม เทคโนโลยีอัจฉริยะ และประสบการณ์ของลูกค้า แนวทางใหม่นี้จะสะท้อนให้เห็นถึงความมุ่งมั่นของบริษัทในการสร้างนวัตกรรม ความพึงพอใจของลูกค้า รวมถึงการเติบโตระยะยาวในตลาดญี่ปุ่น และตลาดอื่นๆ
ในญี่ปุ่น สิ่งเหล่านี้หมายถึงการปรับปรุงรถยนต์รุ่นหลัก การขยายสู่เซกเมนท์ใหม่ๆ และการเปิดตัวรถยนต์รุ่นที่สร้างความตื่นเต้น อันเป็นเอกลักษณ์ที่สะท้อนอารมณ์ความรู้สึกของลูกค้า ที่ได้รวบรวมนวัตกรรม และมรดกที่ดีที่สุดของบริษัทไว้ด้วยกัน วิสัยทัศน์แห่งอนาคตของ Nissan จะขับเคลื่อนด้วยเทคโนโลยีขั้นสูงที่สร้างขึ้นเพื่อวัตถุประสงค์เฉพาะ มุ่งเน้นไปที่การสร้างสรรค์รถยนต์อัจฉริยะที่สะท้อนอารมณ์ความรู้สึก ซึ่งผสมผสานมรดกทางวัฒนธรรมเข้ากับนวัตกรรมได้อย่างลงตัว ไปจนถึงสนับสนุนการเติบโตอย่างยั่งยืนทั้งในประเทศญี่ปุ่น และทั่วโลก
นวัตกรรม และระบบอัจฉริยะ คือ หัวใจสำคัญสำหรับอนาคตของ Nissan
อีวาน เอสปิโนซา ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของ Nissan (Ivan Espinosa Nissan CEO) กล่าวว่า ตลาดญี่ปุ่นที่แข็งแกร่ง และคึกคักเป็นสิ่งสำคัญต่อความสำเร็จระดับโลกของ Nissan เรามุ่งมั่นที่จะจุดประกายจิตวิญญาณนั้นอีกครั้งด้วยการเชิดชูมรดก และความยิ่งใหญ่ที่มีมาของ Nissan ไม่ว่าจะเป็นการเปิดตัว Patrol ในฐานะรถยนต์หลักรุ่นใหม่สำหรับตลาดญี่ปุ่น การยกระดับความยิ่งใหญ่ของ Elgrand ผ่านการขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฟฟ้า และระบบขับขี่อัจฉริยะขั้นสูง รวมถึงขยายขอบเขตของเทคโนโลยีผ่านรถยนต์ไฟฟ้าของเรา เป้าหมายของเรา คือ การนำเสนอรถยนต์ที่หลากหลาย ตั้งแต่ Roox รถยนต์แบบ Kei ขนาดเล็ก ไปจนถึงรุ่นหลักของเรา ซึ่งไม่เพียงแต่ตอบสนองความต้องการในชีวิตประจำวันเท่านั้น แต่ยังสร้างแรงบันดาลใจด้านอารมณ์ และความภาคภูมิใจให้แก่ลูกค้าอีกด้วย
Elgrand ใหม่ พร้อมมอบความสะดวกสบาย ความปลอดภัย และความสุขให้แก่การเดินทางของครอบครัว
นับตั้งแต่เปิดตัวในปี 1997 Elgrand ได้ช่วยบุกเบิกกลุ่ม “รถมีนีแวนระดับพรีเมียม” ของญี่ปุ่น สร้างชื่อเสียงในด้านการตกแต่งภายในที่กว้างขวาง หรูหรา และมีสมรรถนะการขับขี่ที่เร้าใจ รถยนต์เจเนอเรชันที่ 4 นี้ ต่อยอดจากความสำเร็จ และความยอดเยี่ยมของรถยนต์รุ่นนี้ที่ผ่านมา โดยผสานรวมเทคโนโลยีระบบขับเคลื่อนไฟฟ้าล่าสุดของ Nissan เข้ากับดีไซจ์นอันล้ำสมัยที่พร้อมยกระดับความเพลิดเพลินในการขับขี่ และความสะดวกสบายสำหรับผู้โดยสารทุกคนบนรถ โดย Elgrand ใหม่ มีกำหนดเปิดตัวในญี่ปุ่นในช่วงฤดูร้อนปี 2026 พร้อมมอบประสบการณ์การขับขี่ที่นุ่มนวล เงียบ เหนือระดับ ที่พร้อมปลุกเร้าความตื่นเต้นเร้าใจ
การออกแบบที่เชิดชูวัฒนธรรมญี่ปุ่น
การออกแบบภายนอกของ Elgrand สะท้อนถึงภาษาการออกแบบ "Timeless Japanese Futurism" หรือแนวคิดการออกแบบที่ผสมผสานความงามแบบญี่ปุ่นดั้งเดิมเข้ากับวิสัยทัศน์แห่งอนาคตของ Nissan ซึ่งได้รับแรงบันดาลใจจากงานฝีมือ และสุนทรียศาสตร์ของญี่ปุ่น นำมารังสรรค์ใหม่ด้วยเทคนิค วัสดุ และเทคโนโลยีล่าสุดต่างๆ
Elgrand โดดเด่นด้วยรูปลักษณ์ที่สะดุดตา กระจังหน้าได้รับแรงบันดาลใจจากลวดลายแบบ Kumiko ของญี่ปุ่น ผสานเข้ากับเอกลักษณ์ของไฟหน้าอย่างลงตัว โดยมีสีภายนอกใหม่อาทิ สี Fuji Dawn เฉดสีที่ได้รับแรงบันดาลใจจากแสงอรุณรุ่งเหนือภูเขาไฟฟูจิ และสี Shigoku สีแดงม่วงเข้มที่สื่อถึงความสง่างาม
ขณะที่ภายในห้องโดยสารมอบบรรยากาศระดับพรีเมียมแบบเลาน์จ์ ผู้โดยสารแถว 2 จะได้ดื่มด่ำกับความสบายของเบาะ Captain Seat แบบ Zero Gravity รวมถึงการใข้ Tailor Fit ซึ่งเป็นวัสดุสังเคราะห์ชนิดใหม่ที่มีความทนทานสูง และให้สัมผัสคล้ายกับหนัง Nappa พร้อมการตกแต่งด้วยหนัง และลายไม้ พร้อมลวดลายที่ได้รับแรงบันดาลใจจาก Kumiko บนแผงประตู และเบาะนั่ง เสริมความสมบูรณ์แบบด้วยจอแสดงผลคู่ขนาดใหญ่ 14.3 นิ้ว รุ่นแรกในเซกเมนท์ที่ผสานข้อมูลผู้ขับขี่ และระบบอินโฟเทนเมนท์เข้าด้วยกัน นอกจากนี้ ยังเสริมความหรูหราด้วยระบบเสียงระดับพรีเมียมจาก Bose พร้อมลำโพง 22 ตัว และไฟส่องสว่างภายในห้องโดยสารที่ปรับได้ถึง 64 สี ยกระดับประสบการณ์การเดินทางไปอีกขั้น
สมรรถนะ และพละกำลัง ความสะดวกสบาย และเทคโนโลยีขั้นสูง
Elgrand ใหม่ ขับเคลื่อนด้วยระบบ E-Power เจเนอเรชันที่ 3 ของ Nissan โดดเด่นด้วยเครื่องยนต์ที่พัฒนาขึ้นใหม่ และระบบขับเคลื่อนกำลังไฟฟ้าเป็นโมดูลาร์แบบ 5-in-1 เพื่อสมรรถนะที่เหนือกว่า ให้การทำงานที่เงียบยิ่งขึ้น และประหยัดน้ำมันยิ่งขึ้น
Elgrand จะเป็นรถยนต์รุ่นแรกในไลน์ผลิตภัณฑ์ระดับโลกของบริษัทที่มาพร้อมระบบขับเคลื่อน 4 ล้อไฟฟ้า e-4ORCE รุ่นปรับปรุงใหม่ล่าสุดของ Nissan ซึ่งออกแบบมาเพื่อมอบการควบคุม และให้เสถียรภาพในการขับขี่ที่น่าประทับใจยิ่งขึ้นในทุกสภาพถนน แรงบิดของมอเตอร์ไฟฟ้าด้านหลังช่วยลดการส่ายของรถขณะเร่ง และลดความเร็ว มอบการขับขี่ที่นุ่มนวล และสะดวกสบายสำหรับผู้โดยสาร รวมถึงลดโอกาสการเกิดอาการเมารถของผู้โดยสาร
สำหรับผู้ขับขี่ ระบบจะใช้ประโยชน์จากแรงบิดของมอเตอร์ด้านหลังขณะเข้าโค้ง เพื่อมอบประสบการณ์ที่สนุกสนาน และเร้าใจยิ่งขึ้น ระบบช่วงล่างอัจฉริยะแบบไดนามิค หรือ Intelligent Dynamic Suspension สามารถช่วยลดการโคลงของตัวถัง และรักษาตำแหน่งการทรงตัวให้คงที่ เสริมให้การขับขี่นุ่มนวล
Elgrand ใหม่ จะมาพร้อมกับระบบ Pro Pilot* รุ่นล่าสุดของ Nissan ซึ่งเป็นครั้งแรกที่รองรับการควบคุมรถโดยไม่ต้องใช้มือเมื่อความเร็วต่ำกว่า 50 กม./ชม. นอกจากนี้ ยังมีระบบ Pro Pilot 2.0 ที่มาพร้อมระบบช่วยขับขี่บนทางหลวงแบบแฮนด์ฟรี และระบบช่วยเปลี่ยนช่องจราจร ช่วยให้การเดินทางระยะไกลสะดวกสบาย และเพลิดเพลินยิ่งขึ้น
Nissan Patrol จะเปิดตัวในตลาดญี่ปุ่น
นอกจาก Elgrand รุ่นใหม่แล้ว Nissan ยังเตรียมเปิดตัวรถยนต์ระดับตำนานอย่าง Patrol ในญี่ปุ่นในช่วงครึ่งแรกของปีงบประมาณ 2027 รถเอสยูวีพันธุ์แกร่งสุดทรหดที่พร้อมลุยทุกสภาพถนน ถือเป็นการกลับมาสู่ตลาดในเซกเมนท์นี้อีกครั้ง หลังจากที่บริษัทไม่ได้ทำตลาดในกลุ่มนี้ นับตั้งแต่การผลิตรถยนต์รุ่น Safari สิ้นสุดลงในปี 2007
Patrol ถือเป็น “รถยนต์ที่เปี่ยมด้วยพลัง” อย่างแท้จริงของบริษัท ที่ตอกย้ำความมุ่งมั่นของ Nissan ในการนำเสนอรถยนต์ที่เปี่ยมด้วยความแข็งแกร่ง ทนทาน และมาพร้อมเทคโนโลยีขั้นสูง ซึ่งสามารถพิชิตภูมิประเทศอันหลากหลายของญี่ปุ่น และตอบสนองจิตวิญญาณแห่งการผจญภัยของผู้ขับขี่อย่างแท้จริง
นอกจากการขยายไปสู่เซกเมนท์ใหม่ๆ การเปิดตัว Patrol ยังตอกย้ำความเป็นผู้นำของ Nissan ในฐานะผู้นำของตลาดรถแบบเอสยูวี ด้วยความมุ่งมั่นในการนำเสนอรถยนต์ที่สร้างความมั่นใจ และความตื่นเต้น ตลอดจนความอเนกประสงค์ในการผจญภัยแบบออฟโรด และการขับขี่ในเมืองเมื่อใช้ในชีวิตประจำวัน
Ariya ปรับโฉมใหม่ : สไตล์ ด้วยการเชื่อมต่อ และความสะดวกสบาย
Ariya EV Crossover รุ่นปรับโฉมใหม่ เตรียมเปิดตัวในญี่ปุ่นปลายปีงบประมาณนี้ โดดเด่นด้วยรูปลักษณ์ภายนอกที่หรูหรามากยิ่งขึ้น ระบบอินโฟเทนเมนท์ที่ขับเคลื่อนด้วย Google** มีฟังค์ชัน Vehicle-to-Load (V2L) และถูกอัพเกรดช่วงล่างที่ออกแบบมาเพื่อเพิ่มความสะดวกสบายในการขับขี่มากยิ่งขึ้น การปรับเปลี่ยนเหล่านี้มุ่งมอบประสบการณ์การขับขี่ด้วยไฟฟ้าที่สามารถเชื่อมต่อ มีสไตล์ และสะดวกสบายยิ่งขึ้น ออกแบบมาเพื่อผู้บริโภคชาวญี่ปุ่นโดยเฉพาะ
เช่นเดียวกับ รถยนต์ Leaf รุ่นใหม่ Ariya รุ่นปรับโฉมใหม่นี้ผสานรวมฟีเจอร์ต่างๆ ที่สนับสนุนวิสัยทัศน์ของ Nissan เกี่ยวกับการเดินทางอัจฉริยะ ช่วยส่งเสริมระบบนิเวศทางพลังงานไฟฟ้าให้กว้างขึ้น รถยนต์ไฟฟ้าของ Nissan มีบทบาทสำคัญในการสร้างอนาคตที่ยั่งยืนยิ่งขึ้น ด้วยโครงการริเริ่มของ Nissan Energy จะแสดงให้เห็นถึงวิธีที่รถยนต์เหล่านี้สนับสนุนการจัดการพลังงาน ลดการพึ่งพาจากโครงข่ายไฟฟ้า และส่งเสริมไลฟ์สไตล์ที่แอคทีฟของผู้บริโภค ถือเป็นการตอกย้ำความมุ่งมั่นของบริษัทในการพัฒนาอย่างยั่งยืน
‘* Pro Pilot จะช่วยให้ผู้ขับขี่สามารถละมือจากพวงมาลัยได้เมื่อมีการจราจรติดขัด¹ (ภายใต้ความเร็วสูงสุดไม่เกิน 50 กม./ชม.) และมีระบบช่วยเปลี่ยนช่องจราจรหลังจากผู้ขับขี่เปิดไฟเลี้ยว ทำงานร่วมกับระบบนำทาง Navigation Link
‘** Google, Google Play และ Google Maps เป็นเครื่องหมายการค้าของ Google LLC











