บทความ
SOS ในรถช่วยเหลือฉุกเฉินกรณีเกิดอุบัติเหตุ

หากคุณกำลังเลือกรถคันใหม่ ระบบ SOS คือเบื้องหลังความปลอดภัยที่สำคัญที่สุด หนึ่งในอุปกรณ์ความปลอดภัยที่ไม่ควรมองข้ามอย่างยิ่งในรถยุคปัจจุบันHighlight
ในยุคที่รถยนต์ไม่ได้เป็นเพียงพาหนะเดินทาง แต่กลายเป็น “ผู้ช่วยเหลืออัจฉริยะ” ของผู้ขับขี่ ระบบ SOS หรือ Emergency Call คือหนึ่งในเทคโนโลยีความปลอดภัยที่สำคัญที่สุด โดยเฉพาะในกรณีเกิดอุบัติเหตุรุนแรง ที่วินาทีแรกหลังการชนอาจเป็นตัวตัดสินความเป็นความตาย
ระบบ SOS คือระบบแจ้งเหตุฉุกเฉินอัตโนมัติหรือกึ่งอัตโนมัติ ที่จะเชื่อมต่อรถยนต์กับศูนย์ช่วยเหลือเมื่อเกิดอุบัติเหตุ เช่น การชนรุนแรง ถุงลมนิรภัยทำงาน หรือเมื่อผู้ขับขี่กดปุ่ม SOS ด้วยตนเอง ระบบจะส่งข้อมูลสำคัญไปยังศูนย์ช่วยเหลือทันที
ในปี 2006 Volvo เป็นบริษัทรถยนต์รายแรกที่เปิดตัวระบบ SOS ในรถครอบคลุมใน Volvo รุ่นใหม่ทุกรุ่นหลังจากนั้น ในชื่อว่า Volvo On Call กลายเป็นออพชันสำคัญ และถูกติดตั้งครั้งแรกในรถยนต์ Volvo XC70
ซึ่งระบบนี้ช่วยให้ผู้ขับขี่สามารถติดต่อศูนย์บริการฉุกเฉินและแจ้งตำแหน่งที่ตั้งของรถได้อย่างแม่นยำในกรณีเกิดอุบัติเหตุและถุงลมนิรภัยหรือระบบดึงเข็มขัดนิรภัยทำงาน ระบบจะส่งสัญญาณเตือนอัตโนมัติไปยังศูนย์ควบคุม Volvo On Call ในทันที ช่วยลดอัตราความเสี่ยงของการบาดเจ็บร้ายแรงและอาจช่วยชีวิตได้
ข้อมูลที่ถูกส่งประกอบด้วย
ตำแหน่งรถแบบเรียลไทม์ (GPS)
เวลาที่เกิดเหตุ
ประเภทรถ และบางระบบระบุความรุนแรงของอุบัติเหตุ
สถานะผู้โดยสาร (ในบางรุ่น)
เมื่อรถตรวจพบแรงกระแทกเกินค่าที่กำหนด หรือถุงลมนิรภัยทำงาน
ตัวรถจะเชื่อมต่อศูนย์ช่วยเหลืออัตโนมัติ
เปิดการสื่อสารเสียงภายในรถ เพื่อให้เจ้าหน้าที่สอบถามอาการ
ส่งพิกัดและข้อมูลรถให้หน่วยกู้ชีพหรือเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง
ในกรณีที่ผู้ขับขี่หมดสติ หรือไม่สามารถโทรศัพท์เองได้ ระบบนี้จะทำหน้าที่แทน “การขอความช่วยเหลือ” โดยไม่ต้องพึ่งสมาร์ตโฟนหรือสัญญาณจากผู้ขับขี่
อุบัติเหตุบนทางเปลี่ยว หรือพื้นที่ไม่มีคนเห็นเหตุการณ์
การชนรุนแรงที่ผู้ขับขี่ไม่สามารถออกจากรถได้
เหตุการณ์ทางการแพทย์ฉุกเฉิน เช่น หน้ามืด หมดสติ
รถพลิกคว่ำ หรือเกิดอุบัติเหตุตอนกลางคืน
ในหลายกรณี ระบบ SOS สามารถลดระยะเวลาการเข้าถึงของหน่วยกู้ชีพได้อย่างมีนัยสำคัญ ซึ่งเพิ่มโอกาสรอดชีวิตของผู้ประสบเหตุ
สำหรับรถยนต์ในบ้านเราหากเกิดในกรณีที่สถานการณ์คับขันหรือเกิดอุบัติเหตุ การโทร 1669 หรือเบอร์ฉุกเฉินก็จะยังเป็นสิ่งจำเป็น แต่ระบบ SOS มีข้อได้เปรียบคือ
เราไม่ต้องอธิบายตำแหน่ง ตัวรถมีการระบุตำแหน่งรถไว้ผ่านแอพพลิเคชันหรือศูนย์ควบคุม
ระบบสามารถทำงานได้แม้ผู้ขับขี่พูดไม่ได้หรืออยู่ในสภาพไร้ความสามารถ
การติดต่อเชื่อมต่อผ่านระบบของรถโดยตรง
รถยนต์ยุโรปพรีเมียม ติดตั้งให้มาในทุกรุ่น เช่น Mercedes-Benz Emergency Call System,Volvo On Call, BMW Accident Call
รถยนต์ไฟฟ้าและรถรุ่นใหม่ (บางยี่ห้อ) เช่น Toyota Telemetics,Honda Connect,NissanConnect Services,GWM Application
ตรวจสอบว่ารถของคุณมีระบบ SOS ที่สามารถใช้งานได้หรือไม่ พร้อมทั้งศึกษาเงื่อนไขการใช้งาน
ผู้ใช้รถควรทราบตำแหน่งปุ่ม SOS ภายในว่ามีการติดตั้งไว้ที่บริเวณใด
ตรวจสอบการเชื่อมต่อสัญญาณเป็นระยะ หากรถของคุณเป็นระบบเชื่อมต่อผ่านแอพพลิเคชัน
ปฏิเสธไม่ได้ว่า ระบบ SOS ในรถยนต์ไม่ใช่แค่ออปชันเสริมอีกต่อไป แต่คือเทคโนโลยีที่ออกแบบมาเพื่อ ช่วยชีวิตในสถานการณ์ที่คุณช่วยเหลือตัวเองไม่ได้ ในโลกที่อุบัติเหตุเกิดขึ้นได้ทุกวินาที การมีระบบในรถยนต์ที่ “สามารถโทรขอความช่วยเหลือแทนคุณ” อาจเป็นความแตกต่างระหว่างการรอดชีวิตกับการสูญเสียได้เพียงเสี้ยววินาที


