ทดสอบ(formula) 1 Dec 2015
FORD EVEREST 3.2 L TITANIUM PLUS 4x4 AT/ MITSUBISHI PAJERO SPORT GT-PREMIUM/ TOYOTA FORTUNER 2.8 V 4x4 AT
ท่ามกลางกระแสรถครอสส์โอเวอร์ ที่กำลังมาแรง บรรดาผู้กล้าทั้ง 3 ยี่ห้อ กลับมาพิสูจน์กันอีกครั้งว่า “ของจริง” ด้านความเป็นตัวลุย ภายใต้ความอเนกประสงค์ และการใช้งานที่หลากหลาย คือ สิ่งที่สามารถพบได้จาก เอสยูวี ในสไตล์ พีพีวี ยุคใหม่ เหล่านี้เท่านั้น !
EXTERIOR ภายนอก
แม้เป็น เอสยูวี ในสไตล์ พีพีวี ที่มีพื้นฐานจากรถกระบะกันถ้วนหน้า โดยทาง ฟอร์ด เอเวอเรสต์ ต่อยอดจาก เรนเจอร์ ด้าน มิตซูบิชิ ปาเจโร สปอร์ท พัฒนามาจาก ทไรทัน และ โตโยตา ฟอร์ทูเนอร์ มาจาก ไฮลักซ์ รีโว อย่างไรก็ตามด้วยราคาค่าตัว เอสยูวี ที่แพงกว่าตัวถังกระบะ ทางผู้ผลิตจึงสร้างความแตกต่างด้านรูปทรงเช่นกัน
รูปทรง เอเวอเรสต์ มีความคล้ายคลึงกับ เรนเจอร์ รุ่นปรับโฉมล่าสุด โดยเฉพาะชุดกระจังหน้าแบบใหม่ ถึงอย่างนั้น เอสยูวี สัญชาติอเมริกัน ก็เสริมความบึกบึนให้กับตัวถังจนมีความแตกต่างโดยสิ้นเชิง แถมล้อแมกที่ให้มามีขนาดถึง 20 นิ้ว ดูราวกับเป็นตัวลุยระดับหรูเลยทีเดียว
ปาเจโร สปอร์ท ออกแบบใหม่หมดจด แทบไม่เหลือเค้าเดิมของกระบะ ทไรทัน ชุดไฟหน้าทรงเหลี่ยมเฉียง ดูลงตัว สันเหลี่ยมต่อเนื่องจากบริเวณกระจังหน้า และแนวกันชน เสริมความบึกบึนด้วยสันโป่งล้อขนาดใหญ่ แต่บริเวณลำตัวช่วงประตูดูเรียบง่ายไปหน่อย แปลกตาด้วยชุดไฟท้ายแนวตั้ง ออกแบบให้มีความยาวลงมาในแนวดิ่ง ต่างจากรถสายพันธุ์ที่มักจะใช้ไฟท้ายสูงขึ้นไปในแนวตั้ง
รถที่มีการเปลี่ยนแปลงมากที่สุด คือ ฟอร์ทูเนอร์ จากเดิมรุ่นก่อนหน้านี้ เน้นความบึกบึน แข็งแกร่ง มาถึงรุ่นล่าสุด เส้นสายจะเพิ่มสัดส่วนของความปราดเปรียวมากขึ้น เห็นได้จากชุดไฟหน้า/ไฟท้าย ทรงเรียวแหลม แนวนอน เสริมความหรูด้วยกระจังหน้าโครเมียม ไว้ลายความเป็นตัวลุยด้วยสันเหลี่ยมตามจุดต่างๆ เช่น โป่งซุ้มล้อ และกันชนหน้า/หลัง
ใครที่ชอบรถ เอสยูวี แบบดั้งเดิม เน้นความแข็งแกร่ง บึกบึน ฟอร์ด เอเวอเรสต์ อาจเข้าทาง แต่หากต้องการตัวลุยที่ผสมผสานความทันสมัย มาดสปอร์ท มิตซูบิชิ ปาเจโร สปอร์ท เป็นตัวเลือกที่น่าสนใจ ขณะที่มาดสปอร์ท ผสมความหรูหรา ต้องยกให้ โตโยตา ฟอร์ทูเนอร์
INTERIOR ภายใน
ไม่ใช่แค่รูปทรงภายนอกเท่านั้น แต่การตกแต่งภายในห้องโดยสารก็มีความแตกต่างจากตัวกระบะทั้งหลาย ทาง เอเวอเรสต์ เพิ่มความรู้สึกหรูหรา และปลอดโปร่ง ด้วยโทนสีเบจ เติมเต็มวัสดุหนังแท้รอบคัน คอนโซลหน้าใช้วัสดุคุณภาพดี เสริมขอบโครเมียมบริเวณช่องแอร์ อย่างไรก็ตามแผงปุ่มควบคุมระบบปรับอากาศ และเครื่องเสียงดูธรรมดาไปหน่อย จุดที่ได้รับการปรับปรุงอย่างชัดเจน คือ ส่วนมาตรวัดความเร็ว ตรงกลางเป็นแบบแอนาลอกขนาดใหญ่ ประกบข้างแบบดิจิทอล ดูทันสมัย และสวยงาม
ปาเจโร สปอร์ท เน้นความทันสมัย ห้องโดยสารโทนสีดำ สลับโครเมียมแวววาว โดยเฉพาะบริเวณคอนโซลเกียร์ ปราศจากชุดตกแต่งลายไม้ใดๆ แผงคอนโซลใช้วัสดุขึ้นรูป เสริมชุดหนังแท้บางจุด รวมไปถึงเบาะทุกตำแหน่ง ทำให้ส่วนผู้ขับ ปาเจโร สปอร์ท มีความใกล้เคียงกับ ทไรทัน พอสมควร เหมาะกับคนที่ชอบความโฉบเฉี่ยว เร้าใจ แต่อาจขัดใจผู้ที่คาดหวังความหรูหราของห้องโดยสารจาก เอสยูวี ระดับนี้
ฟอร์ทูเนอร์ เน้นห้องโดยสารโทนสีดำเช่นกัน แต่ลดโทนความเข้มด้วย ชุดหนังสีน้ำตาลเข้มบริเวณคอนโซลหน้า และเบาะแต่ละตำแหน่ง ส่วนรอบคอนโซลเกียร์ ตกแต่งด้วยชุดลายไม้สีดำเข้ม (ในรุ่น ทอพ) บริเวณมาตรวัดเพิ่มชุดแสงไฟ เสริมความหรูได้ไม่น้อย แต่พวงมาลัยยังเหมือนกับตัวกระบะ ไฮลักซ์ รีโว
นอกจากเรื่องบรรยากาศในห้องโดยสาร ทุกรุ่นมีการอัพเกรดจากตัวกระบะ ความอเนกประสงค์และความกว้างขวาง ถือเป็นจุดสำคัญของรถประเภทนี้ ในหัวข้อนี้เรามีความรู้สึกว่า แต่ละยี่ห้อมีความกว้างขวางในระดับที่ทัดเทียมกัน เบาะนั่ง 3 แถว รองรับผู้โดยสาร 7 ตำแหน่ง แต่มีรายละเอียดปลีกย่อยแตกต่างกัน ทาง เอเวอเรสต์ ติดตั้งหลังคาซันรูฟแบบพาโนรามิค เบาะหลังพับได้ราบกับพื้นรถ พร้อมระบบพับเบาะแถว 3 ด้วยไฟฟ้า และยังมีประตูบานท้ายเปิด/ปิดด้วยไฟฟ้าอีกด้วย (เฉพาะรุ่น ทอพ) ส่วน ปาเจโร สปอร์ท บริเวณส่วนท้ายเพิ่มช่องเก็บของขนาดเล็ก เบาะแถว 2 และ 3 สามารถพับต่อเนื่องกันได้ แต่จำเป็นต้องพับหลายจังหวะ แยกส่วนระหว่างพนักพิงหลัง และเบาะรอง ส่วน ฟอร์ทูเนอร์ ยังใช้รูปแบบดั้งเดิม เหมือนรุ่นก่อนหน้านี้ นั่นคือ การพับเบาะแถว 3 เอาไว้ด้านข้าง และคล้องตะขอเอาไว้ การพับทำได้ง่ายดาย แต่ต้องออกแรงค่อนข้างมาก ไม่เหมาะสำหรับสุภาพสตรีเท่าใดนัก แถมต้องเสียพื้นที่ด้านข้างไปบางส่วน
ENGINE เครื่องยนต์
ทั้ง 3 รุ่นแบบตัวทอพ ต่างก็ใช้เครื่องยนต์ดีเซล เทอร์โบ โดย เอเวอเรสต์ มีขนาดถึง 3.2 ลิตร กำลังสูงสุด 200 แรงม้า เกียร์อัตโนมัติ 6 จังหวะ ถัดมา คือ ปาเจโร สปอร์ท ขนาด 2.5 ลิตร กำลังสูงสุด 181 แรงม้า เกียร์อัตโนมัติถึง 8 จังหวะ และ ฟอร์ทูเนอร์ ขนาด 2.8 ลิตร กำลังสูงสุด 177 แรงม้า เกียร์อัตโนมัติ 6 จังหวะ
อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. เอเวอเรสต์ ทำได้ที่ 12.8 วินาที ส่วน ปาเจโร สปอร์ท 12.4 วินาที และ ฟอร์ทูเนอร์ 12.5 วินาที จะเห็นได้ว่า ในช่วงตีนต้น อัตราเร่งของ เอสยูวี แต่ละรายมีความสูสีกันมาก ทาง ฟอร์ด มีแรงม้าเยอะสุด แต่ด้วยน้ำหนักตัวที่ค่อนข้างมาก อัตราเร่งจึงไม่โดดเด่นเท่าที่ควร
อัตราเร่งช่วงความเร็วสูง กับระยะ 0-1,000 ม. เอเวอเรสต์ ที่ 34.2 วินาที (151.9 กม./ชม.) ปาเจโร สปอร์ท 33.8 (156.7 กม./ชม.) และ ฟอร์ทูเนอร์ 33.9 วินาที (152.0 กม./ชม.) ในส่วนนี้ ปาเจโร สปอร์ท มีอัตราเร่งที่ดี แม้จะใกล้เคียงกับ ฟอร์ทูเนอร์ แต่ช่วงความเร็วตีนปลายดีกว่า จากการใช้เกียร์ถึง 8 จังหวะ
อัตราเร่งยืดหยุ่นที่ 60-100 และ 80-120 กม./ชม. เอเวอเรสต์ ทำได้ที่ 6.7 และ 9.0 วินาที ส่วน ปาเจโร สปอร์ท 6.4 และ 8.2 วินาที และ ฟอร์ทูเนอร์ 7.0 และ 8.9 วินาที ถึงจุดนี้แสดงให้เห็นว่าอัตราเร่งโดยรวมของทั้ง 3 รุ่น มีความใกล้เคียงกันมาก มีเพียง ปาเจโร สปอร์ท ที่ฉับไวกว่าเล็กน้อย แต่อาจไม่เห็นผลมากนักสภาพการใช้งานจริง
สุดท้าย คือ อัตราสิ้นเปลืองเชื้อเพลิง ที่ความเร็ว 60/80/100 กม./ชม. เอเวอเรสต์ คือ 17.6/14.2/11.2 กม./ลิตร ปาเจโร สปอร์ท ทำได้ที่ 21.4/17.6/13.7 กม./ลิตร และ ฟอร์ทูเนอร์ ได้ตัวเลขที่ 20.3/16.5/14.4 กม.ลิตร ผลจากการลดขนาดเครื่องยนต์ ทำให้อัตราสิ้นเปลืองของ ปาเจโร สปอร์ท และ ฟอร์ทูเนอร์ มีความโดดเด่นในช่วงความเร็วต่ำ ไปถึงช่วงความเร็วปานกลาง ต่างจาก เอเวอเรสต์ ที่ยังใช้เครื่องยนต์ขนาดใหญ่ อัตราสิ้นเปลืองจึงแตกต่างกันอย่างเห็นได้ชัด
ทุกรุ่นมีระบบขับเคลื่อน 4 ล้อติดตั้งมาให้ ทาง เอเวอเรสต์ เป็นแบบขับเคลื่อน 4 ล้อตลอดเวลา พร้อมโหมดขับเคลื่อนที่หลากหลาย แสดงผลเป็นรูปภาพบริเวณแป้นหมุน (ชวนให้นึกถึง เอสยูวี หรู ยี่ห้อ แลนด์ โรเวอร์) พร้อมระบบลอคเฟืองท้าย ในแง่ของการลุยทางสมบุกสมบัน เอสยูวี จาก ฟอร์ด ดูจะมีความได้เปรียบ ขณะที่ ปาเจโร สปอร์ท เป็นแบบดั้งเดิม (2H 4H 4HLC และ 4LLC) เสริมด้วยรูปแบบการขับเคลื่อนอีก 4 รูปแบบ ส่วน ฟอร์ทูเนอร์ รุ่นล่าสุด มีระบบขับเคลื่อน 4 ล้อแบบ พาร์ท ไทม์ (H2 H4 และ L4) มีชื่อว่า “ซิกมา 4” ซึ่งต่างจากรุ่นก่อนหน้านี้ขับเคลื่อน 4 ล้อตลอดเวลา
SUSPENSION ระบบรองรับ
แม้เป็นรถ เอสยูวี สไตล์ พีพีวี เหมือนกัน แต่ละรุ่นต่างก็มีบุคลิกของระบบรองรับแตกต่างกัน รวมถึงระบบความปลอดภัยที่ถือเป็นหนึ่งใน “ทีเด็ด” ที่แต่ละค่ายรถนำมาติดตั้ง
เริ่มด้วย ฟอร์ด เอเวอร์เรสต์ ปรับแต่งช่วงล่างเน้นความหนึบแน่น เหมาะกับตัวถังขนาดใหญ่ที่มีน้ำหนักมาก ความรู้สึกขณะขับบนทางเรียบ มีความมั่นคงอย่างน่าพอใจ รวมไปถึงขณะเข้าโค้ง ตัวรถมีการทรงตัวที่ดี ไม่รู้สึกโคลงมากเกินไป พวงมาลัยที่มีน้ำหนักค่อนข้างมาก ทำให้ เอเวอเรสต์ มีบุคลิกใกล้เคียงกับ เอสยูวี หรู จากซีกโลกตะวันตก อย่างไรก็ตามความหนึบแน่นของระบบรองรับ ทำให้เกิดแรงสั่นสะเทือนเข้ามาในห้องโดยสาร โดยเฉพาะผู้โดยสารแถว 2 ขณะแล่นผ่านพื้นขรุขระ ลดทอนความสะดวกสบายไปบางส่วน
ทางด้าน ปาเจโร สปอร์ท กลับมีบุคลิกของระบบรองรับที่แตกต่างกับ เอเวอเรสต์ พอสมควร ช่วงล่างเน้นความนุ่มนวล ขับสบาย ระบบรองรับดูดซับแรงสะเทือนจากพื้นผิวถนนได้ดี แต่ขณะเข้าโค้ง หรือแล่นผ่านถนนที่เป็นลอนคลื่น อาการโคลงมีให้สัมผัสอยู่บ้าง หากผู้ขับไม่ใช่คนเท้าหนัก และเน้นความสะดวกสบายของผู้โดยสาร (โดยเฉพาะสมาชิกในครอบครัว) เอสยูวี รุ่นนี้ถือว่ามีความเหมาะสมมาก
มาถึง ฟอร์ทูเนอร์ มีการปรับแต่งช่วงล่างให้ตอบสนองอย่างเป็นกลาง เมื่อเทียบกับคู่แข่ง 2 คันก่อนหน้า นั่นคือ มีความหนึบที่พอเหมาะ และความนุ่มนวลที่พอดี ข้อดี คือ สามารถรองรับการขับขี่ได้หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นการขับบนทางเรียบ หรือทางลุยแบบสมบุกสมบันก็รองรับได้ น่าจะเข้ากับไลฟ์สไตล์โดยรวมของบ้านเราได้ดี สำหรับผู้ที่ต้องการมีรถ 1 คัน แต่ให้ความอเนกประสงค์ด้านการขับขี่อย่างน่าพอใจ
นอกจากบุคลิกของระบบรองรับ ระบบความปลอดภัย คือ สิ่งที่รถ เอสยูวี เน้นหนักมาแต่ไหนแต่ไร เอเวอเรสต์ มีทีเด็ด คือ ระบบช่วยจอดอัจฉริยะ จากที่เคยมีติดตั้งมาแล้วในซีดานร่วมค่าย นั่นคือ ฟอร์ด โฟคัส จากการทดสอบของเราแล้ว ก็พบว่าระบบดังกล่าวทำงานได้เป็นอย่างดี แม้ตัวถังจะมีขนาดใหญ่ แต่เซนเซอร์ตรวจจับระยะห่างรอบตัวรถ สามารถพบช่องจอด (แบบเทียบข้าง) ที่มีขนาดเหมาะสม ผู้ขับเพียงเปลี่ยนเกียร์ตามคำแนะนำของระบบ และควบคุมแป้นเบรค ระบบจะทำการหักพวงมาลัยโดยอัตโนมัติ จนกระทั่งเสร็จสิ้นการจอด
เอสยูวี ของ มิตซูบิชิ มีทีเด็ด คือ ระบบเตือนการชนด้านหน้าตรง พร้อมระบบชะลอความเร็ว และช่วยเบรค (ที่ความเร็วต่ำ) เสริมด้วยระบบตัดกำลังเครื่องยนต์ชั่วขณะ เมื่อเหยียบคันเร่งอย่างรุนแรง เมื่อมีสิ่งกีดขวางข้างหน้า นอกจากนี้ยังมีระบบกล้องมองภาพรอบคัน ใช้กล้องมุมกว้างผสานมุมมอง เสมือนมองเห็นจากด้านบน มีประโยชน์มากขณะแล่นผ่านที่แคบ
แต่ละรุ่นต่างก็มีทีเด็ดเรื่องระบบความปลอดภัยในแบบที่ว่า “มีติดตั้งเพียงเจ้าเดียว” มาถึง โตโยตา ฟอร์ทูเนอร์ เมื่อไล่เลียงแล้ว กลับไม่มีอุปกรณ์ความปลอดภัยที่ล้ำหน้า แต่เน้นความทั่วถึงแทบทุกรุ่นย่อย เช่น ถุงลมนิรภัยคู่หน้า และถุงลมนิรภัยบริเวณหัวเข่า (เอเวอเรสต์ ติดตั้งเฉพาะรุ่นทอพเท่านั้น) รวมไปถึงระบบควบคุมการทรงตัว ระบบป้องกันล้อหมุนฟรี ระบบควบคุมความเร็วบนทางลาดชัน แน่นอนว่า แต่ละรายการที่ว่ามา มีติดตั้งใน เอเวอเรสต์ และ ปาเจโร สปอร์ท เช่นกัน
เอสยูวี ยุคใหม่ จ่ายเงินล้าน แต่ได้หลายล้าน
จากการทดสอบ เอสยูวี ในสไตล์ พีพีวี ทั้ง 3 รุ่น ก็ไม่ยอมลดราวาศอกกันเลยทีเดียว ต่างก็สำแดงความเป็นตัวลุยสมัยใหม่กันเต็มพิกัด จนแทบลืมไปเลยว่านี่คือ เอสยูวี ที่มีพื้นฐานมาจากรถกระบะ แม้ค่าตัวจะอยู่ในระดับหลัก 1 ล้านบาทปลายๆ แต่ความคุ้มค่าที่ให้มากลับมากกว่านั้น เอเวอเรสต์ ยังคงยืนหยัดศักดิ์ศรีความเป็นตัวลุย สัญชาติอเมริกัน มาพร้อมกับความบึกบึน และหรูหรา ตามแบบฉบับ เอสยูวี ดีกรีเข้ม ยุคดั้งเดิม พร้อมระบบขับเคลื่อน 4 ล้อที่หลากหลาย ราวกับรถหรู ขณะที่ ปาเจโร สปอร์ท พัฒนาจากรุ่นก่อนหน้าไม่น้อย รูปทรงปราดเปรียวทันสมัย ลงตัวกว่า ทไรทัน สมรรถนะดี ระบบเกียร์โดดเด่น ราคาย่อมเยากว่าบรรดาคู่แข่ง เรียกความสนใจได้ไม่น้อย และไม่น้อยหน้ากับหนึ่งในเจ้าตลาดอย่าง ฟอร์ทูเนอร์ พลิกรูปทรงสู่ความทันสมัยเต็มพิกัด ภายในกว้างขวาง และหรู ลงตัว อาศัยความสมดุลด้านการใช้งาน ไม่ว่าทางเรียบ หรือทางลุย รวมไปถึงสมรรถนะ และระบบรองรับ แม้ระบบความปลอดภัยยังไม่โดดเด่นชัดเจน
จากการทดสอบ สามารถพิสูจน์ได้เป็นอย่างดีว่า เอสยูวี ในเซกเมนท์นี้มีจุดเด่นหลากหลาย ภายใต้ราคาหลักล้านปลายๆ แต่ความคุ้มค่าได้มาหลายล้านบาทเลยทีเดียว !