ทดสอบ
MG ZS VS NISSAN KICKS
ครอสส์โอเวอร์ เอสยูวี ยังคงเป็นที่ต้องการ โดยเฉพาะกลุ่มที่มีขนาดไม่ใหญ่มากนั้น ซึ่งในกลุ่มมีทั้งรถที่ใช้เครื่องยนต์เพียงอย่างเดียว กับพวกลูกผสม ไฮบริด ครั้งนี้เราจึงนำเอา MG ZS (เอมจี เซดเอส) ที่ใช้เครื่องยนต์เบนซินขนาดเล็ก 1.5 ลิตร ราคาประหยัด 6-7 แสนบาท มาปะทะกับ NISSAN KICKS (นิสสัน คิคส์) รถไฮบริด ที่มีมอเตอร์ไฟฟ้าเป็นตัวขับเคลื่อน และใช้เครื่องยนต์เบนซินจากอีโคคาร์เป็นตัวปั่นไฟ ราคาแบบไฮบริด 9 แสน ถึง 1 ล้านบาท
EXTERIOR ภายนอก
MG เปิดตัว ZS ครอสส์โอเวอร์ เอสยูวีรุ่นเล็กโฉมใหม่ หลังจากเปิดตัว และทำตลาดมานาน 3 ปี โดยปรับโฉม และปรับปรุงอุปกรณ์ต่างๆ ให้มีความทันสมัยยิ่งขึ้น 3 รุ่น คือ รุ่น C+ (ซี พลัส) D+ (ดี พลัส) และ X+ (เอกซ์ พลัส)
ไฟหน้าแบบแอลอีดี และเลนส์พโรเจคเตอร์ เปิด/ปิดอัตโนมัติ มาพร้อมไฟส่องสว่างกลางวันเมื่อเครื่องยนต์ทำงาน (DAYTIME RUNNING LIGHTS) โฉบเฉี่่ยว ออกแบบโค้งมน กลมกลืนรับกับกระจังหน้าขนาดใหญ่ กันชนและไฟตัดหมอกคมเข้มขึ้น ไฟแอลอีดีแนวนอนในชุดไฟท้ายคล้ายกับ HS (เอชเอส) ครอสส์-โอเวอร์รุ่นใหญ่ และมีมิติตัวถัง ยาว/กว้าง/สูง 4,323/1,809/1,653 มม. มีความยาวกว่าเดิม 10 มม. และระยะฐานล้อ 2,585 มม. ใหญ่กว่า NISSAN KICKS 4,290/1,760/1,615 มม. แต่สั้นกว่าคู่แข่งที่มีเบาะ 3 แถว 7 ที่นั่ง HONDA BR-V (ฮอนดา บีอาร์-วี) 4,456/1,735/ 1,666 มม. และ MITSUBISHI XPANDER (มิตซูบิชิ เอกซ์แพนเดอร์) 4,475/1,750/1,700 มม.
NISSAN KICKS E-POWER (นิสสัน คิคส์ อี-เพาเวอร์) รถยนต์ไฮบริดที่พัฒนาจากรถยนต์ ทั่วไป เป็นรถที่ขับเคลื่อนด้วยกำลังจากมอเตอร์ไฟฟ้า และใช้เครื่องยนต์เป็นตัวปั่นไฟ ซึ่งต่างไปจากรถไฮบริดส่วนใหญ่ที่มักจะใช้เครื่องยนต์ และมอเตอร์ไฟฟ้าส่งกำลังแบบผสมผสาน ทำให้หลายคนมองว่าน่าจะเรียกว่า รถไฟฟ้าแบบไม่ต้องเสียบปลั๊ก
กระจังหน้าแบบ V-MOTION ขนาดใหญ่สีดำเงาของ NISSAN KICKS E-POWER ตามสไตล์ NISSAN ยุคปัจจุบัน รับกับไฟหน้าทรงเหลี่ยมแนวนอน พร้อมไฟส่องสว่างเวลากลางวันแบบแอลอีดี ซุ้มโป่งล้อเสริมขอบสีดำ กับล้อแมกที่ให้มามีขนาด 17 นิ้ว ก็ยังเหลือ ไฟท้ายมีรูปทรง บูเมอแรงดูแปลกตา
มิติตัวถังของ NISSAN KICKS E-POWER ยาว/กว้าง/สูง 4,290/1,760/1,615 มม. เมื่อเทียบกับคู่แข่งระดับเดียวกันอย่าง MG ZS (4,323/ 1,809/1,653 มม.) ที่มีทั้งรุ่น 1.5 ลิตร และไฟฟ้าล้วน (EV) แล้ว ดูจะเสียเปรียบ และถ้าจะขยับขึ้่นไปเทียบกับพวกไฮบริด TOYOTA C-HR (โตโยตา ซี-เอชอาร์) (4,360/1,795/1,565 มม.) กับ TOYOTA COROLLA CROSS (โตโยตา โคโรลลา ครอสส์) (4,460/1,825/1,620 มม.) ก็ยังสูงได้แค่เรื่องความสูง
INTERIOR ภายใน
ห้องโดยสารทันสมัย และเสริมวัสดุบุนุ่มในหลายจุด หน้าปัดเป็นจอแสดงผลอัจฉริยะแบบดิจิทอล (CLUSTER) ขนาด 7 นิ้ว คล้ายกับ HS จอแสดงผลบนคอนโซลหน้าระบบสัมผัสขนาด 10 นิ้ว คมชัด รองรับการใช้งานระบบต่างๆ รวมถึงระบบ I-SMART สามารถอัพเกรดฟังค์ชัน และเรียนรู้การใช้งานด้วยเทคโนโลยี AI พร้อมความสามารถพิเศษอื่นๆ ไม่ว่าจะเป็น สั่งงานด้วยเสียง สั่งงานผ่านจอทัชสกรีน หรือสั่งงานผ่านแอพพลิเคชัน
นอกจากนี้ ระบบเครื่องเสียงยังรองรับ APPLE CAR PLAY และระบบเชื่อมต่อมัลทิมีเดียกับสมาร์ทโฟนระบบ ANDROID พร้อม ช่องเชื่อมต่อ USB สำหรับผู้โดยสารด้านหลัง ระบบปรับอากาศแบบดิจิทอล ที่มีระบบกรองอากาศเพื่อกรองฝุ่นขนาดเล็ก PM2.5
เบาะนั่งหุ้มหนัง เล่นสีทูโทน เบาะนั่งคนขับปรับไฟฟ้าได้ 6 ทิศทาง และหลังคาซันรูฟแบบพาโนรามิค ในรุ่น X+ กุญแจรีโมทอัจฉริยะ พร้อมปุ่มสตาร์ทเครื่องยนต์เป็นอุปกรณ์มาตรฐาน ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติ (CRUISE CONTROL) ส่วนระดับเสียงในห้องโดยสารจากความเร็วคงที่ 60/80/100/120 กม./ชม. วัดได้ 52/56/59/63 เดซิเบล อยู่ในระดับดี เงียบกว่าคู่แข่งทั้ง HONDA BR-V (60/64/ 66/69 เดซิเบล) และ MITSUBISHI XPANDER (61/64/68/71 เดซิเบล)
ห้องโดยสารของ NISSAN KICKS E-POWER เรียบง่าย หลายส่วนคล้ายกับรุ่นน้องร่วมค่าย เช่น จอแสดงผลบนคอนโซลกลางขนาด 7 นิ้ว และรองรับระบบ APPLE CAR PLAY แต่ไม่รองรับระบบ ANDROID AUTO หน้าปัดด้านซ้ายแบบดิจิทอล แสดงผลการส่งกำลังของมอเตอร์ไฟฟ้า และการชาร์จไฟฟ้าจากเครื่องยนต์สันดาป ส่วนด้านขวาเป็นแบบแอนาลอก แสดงผลความเร็ว ผู้โดยสารด้านหน้า มีระยะเหนือศีรษะที่เหลือเฟือ ขณะที่ด้านหลังตัวรถซึ่งสั้นกว่าคู่แข่ง ระยะช่วงขาน้อยกว่าคู่แข่งระดับเดียวกัน พื้นที่เก็บสัมภาระสามารถขนสัมภาระขนาดใหญ่ เมื่อพับเบาะหลังช่วย ส่วนเรื่องทัศนวิสัย โดยรวมปลอดโปร่งดี กระจกมองหลัง หรือจะเรียกว่า จอแสดงภาพจากกล้องด้านหลัง สามารถปรับเปลี่ยนเป็นมุมมองได้
จุดเด่นของ NISSAN KICKS E-POWER น่าจะอยู่ที่ขุมพลังแบบมอเตอร์ไฟฟ้า ซึ่งเรียกว่า E-POWER ประกอบไปด้วย มอเตอร์ไฟฟ้าที่ทำหน้าที่ขับเคลื่อนทั้งหมด กำลังสูงสุด 129 แรงม้า ที่ 4,000-8,992 รตน. แรงบิดสูงสุด 26.5 กก.-ม. ที่ 500-3,008 รตน. และเป็นมอเตอร์ไฟฟ้าที่ใช้ร่วมกับรถยนต์ไฟฟ้าอย่าง LEAF (ลีฟ) ขณะที่เครื่องยนต์สันดาป รหัส HR12DE เบนซิน 1.2 ลิตร กำลังสูงสุด 79 แรงม้า ที่ 6,000 รตน. แรงบิดสูงสุด 11.0 กก.-ม. ที่ 3,600-5,200 รตน. ทำหน้าที่ปั่นไฟฟ้าป้อนให้แก่ชุดแบทเตอรี ซึ่งเป็นเครื่องยนต์ที่พัฒนามาจากบลอคเดียวกับที่วางอยู่ใน NISSAN MARCH (นิสสัน มาร์ช) NISSAN NOTE (นิสสัน โนท) นี้ก็ถือว่าเป็นระบบไฮบริดรูปแบบหนึ่ง ซึ่งข้อดีของมอเตอร์ไฟฟ้า คือ แรงบิดที่มหาศาล ตอบสนองตั้งแต่ช่วงรอบเครื่องยนต์ต่ำ (ของมอเตอร์ไฟฟ้า) ส่งกำลังสู่ล้อคู่หน้า
ENGINE เครื่องยนต์
MG ZS ใช้เครื่องยนต์เบนซิน 1.5 ลิตร กำลังสูงสุด 114 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 15.3 กก.-ม. เปลี่ยนระบบส่งกำลังเป็นแบบอัตโนมัติแปรผัน (ซีวีที) 8 จังหวะ เช่นเดียวกับคู่แข่งอย่าง HONDA BR-V เกียร์อัตโนมัติแปรผัน MITSUBISHI XPANDER เครื่องยนต์เบนซิน 1.5 ลิตร กำลังสูงสุด 105 แรงม้า
แม้ว่า MG ZS ใหม่ จะใช้เกียร์อัตโนมัติแปรผัน 8 จังหวะ และยางขนาด 215/55 R17 อัตราเร่งช่วงต้น 0-100 กม./ชม. และ 0-400 ม. ใช้เวลา 16.9/21.1 วินาที ใกล้เคียงรุ่นก่อน ที่ใช้เกียร์อัตโนมัติ 4 จังหวะ (ยางขนาด 215/50 R17) ซึ่งทำไว้ 16.4/20.8 วินาที และอัตราเร่งตีนปลาย 0-1,000 ม. ในเวลา 37.6 วินาทีเท่ากัน แต่ก็ยังช้ากว่า HONDA BR-V (12.8/19.1/34.2 วินาที) และ MITSUBISHI XPANDER (14.6/19.9/36.2 วินาที) ทุกความเร็ว
ขณะที่อัตราเร่งยืดหยุ่นช่วง 60-100/80-120 กม./ชม. MG ZS ใหม่ ทำเวลาได้ 7.8/10.4 วินาที ดีกว่ารุ่นก่อน (8.3/12.3 วินาที) ใกล้เคียง HONDA BR-V (7.1/9.0 วินาที) และ MITSUBISHI XPANDER (7.4/11.3 วินาที)
อัตราสิ้นเปลืองเชื้อเพลิง ที่ความเร็ว 60/80/ 100/120 กม./ชม. MG ZS ใหม่ ทำได้ที่ 22.3/ 19.9/16.1/11.2 กม./ลิตร ไม่ได้ประหยัดกว่ารุ่นก่อน (22.7/19.3/16.6/12.9 กม./ลิตร) และคู่แข่งทั้ง HONDA BR-V (25.1/22.1/17.0/12.8 กม./ลิตร) MITSUBISHI XPANDER (24.7/20.2/15.4/12.3 กม./ลิตร)
อัตราเร่งของ NISSAN KICKS E-POWER กับ 0-100 กม./ชม. ในเวลา 10.0 วินาที ช่วงความเร็วตีนปลาย 0-1,000 ม. ใช้เวลา 31.9 วินาที ส่วนอัตราเร่งยืดหยุ่นที่ 60-100 และ 80-120 กม./ชม. คือ 5.1 และ 6.9 วินาที เทียบกับ MG ZS ใหม่ ที่ใช้เครื่องยนต์ 1.5 ลิตร 114 แรงม้า เกียร์อัตโนมัติแปรผัน 8 จังหวะ (16.9/37.6 และ 7.8/10.4 วินาที) และคู่แข่งเครื่องยนต์ไฮบริด TOYOTA COROLLA CROSS ที่ตัวใหญ่ แต่มีกำลังเพียง 122 แรงม้า (14.3/35.6 และ 7.6/10.5 วินาที) มอเตอร์ไฟฟ้าของ NISSAN KICKS ยังเป็นรองรถไฟฟ้าตัวจริงอย่าง MG ZS EV (9.2/31.5 และ 4.7/6.4 วินาที)
ส่วนเรื่องอัตราสิ้นเปลือง NISSAN KICKS E-POWER มีตัวเลขการประหยัดเชื้อเพลิงที่ความเร็ว 60/80/100/120 กม. ทำตัวเลขได้ที่ 27.9/ 19.4/16.4/13.1 กม./ลิตร ขณะที่ MG ZS ใหม่ ทำได้ที่ 22.3/19.9/16.1/11.2 กม./ลิตร COROLLA CROSS คือ 48.6/17.7/17.5/12.5 กม./ลิตร จะเห็นว่าระบบขับเคลื่อนของ NISSAN KICKS จะมีจุดเด่นในช่วงความเร็วต่ำ แต่ยังเป็นรองคู่แข่ง
SUSPENSION ระบบรองรับ
ระบบรองรับด้านหน้าอิสระ แมคเฟอร์สันสตรัท พร้อมเหล็กกันโคลง ด้านหลังทอร์ชันบีม ระบบเบรคแบบจานทั้ง 4 ล้อ ระบบรองรับหนึบ แต่ไม่กระด้าง พวงมาลัยตอบสนองดี หนักแน่น ควบคุมง่าย
ประสิทธิภาพของระบบเบรค ที่ความเร็ว 60/80/100 กม./ชม. MG ZS รุ่นใหม่ ขนาดยางใหญ่ขึ้น ทำให้ระยะเบรคสั้นลงเล็กน้อย โดยมาอยู่ที่ 15.2/27.0/41.6 ม. ดีกว่ารุ่นก่อน (15.6/27.2/41.7 ม.) และน่าพอใจกว่าคู่แข่ง ทั้ง HONDA BR-V (16.6/ 28.2/43.8 ม.) และ MITSUBISHI XPANDER (15.0/ 26.3/41.5 ม.)
ระบบความปลอดภัยมีให้ทั้ง ระบบควบคุมการทรงตัว (SCS), ระบบควบคุมการเบรคขณะเข้าโค้ง (CBC), ระบบควบคุมการลื่นไถล (TCS), ระบบควบคุมความเร็วขณะลงทางลาดชัน (HDC) และระบบตรวจสอบความผิดปกติของลมยาง (TPMS) กล้องมองภาพรอบทิศทาง ในรุ่น X+
MG ZS ใหม่ มีราคาเพิ่มขึ้นจากรุ่นเดิม 10,000 บาท โดยเริ่มต้นที่รุ่น C+ ราคา 689,000 บาท D+ ราคา 739,000 บาท และ X+ ราคา 799,000 บาท คุ้มค่าด้วยอุปกรณ์มาตรฐานที่เกินราคา เช่น ระบบสั่งงานผ่านมือถือ รวมถึงการสตาร์ทเครื่องยนต์ล่วงหน้าจากระยะไกล และระบบสั่งงานด้วยเสียงภาษาไทย แม้เครื่องยนต์จะมีสมรรถนะไม่โดดเด่น แต่ก็เพียงพอกับการใช้งานทั่วไป
ระบบรองรับของ NISSAN KICKS E-POWER โดยรวมให้ความรู้สึกมั่นคง หนึบกำลังดี ไม่ถึงกับแข็งกระด้าง พวงมาลัยเบาแรงตามความเร็ว
ประสิทธิภาพของระบบเบรค ที่ความเร็ว 60/80/100 กม./ชม. NISSAN KICKS E-POWER ใช้ระยะเบรคสั้น อยู่ที่ 16.1/28.8/42.2 ม. เป็นรอง MG ZS (15.2/27.0/41.6) และ MG ZS EV (14.4/ 25.7/40.7 ม.)
ส่วนระบบความปลอดภัยถือว่าให้มาครบครัน ไม่แพ้คู่แข่งระดับเดียวกันรายอื่นๆ ไม่ว่าจะเป็นระบบกล้องมองภาพรอบทิศทาง พร้อมระบบตรวจจับการเคลื่อนไหวระยะใกล้ ระบบเตือนจุดอับสายตา ระบบครูสคอนทโรลแปรผันความเร็ว ระบบเตือนการชนด้านหน้า และช่วยเบรคอัตโนมัติ และระบบเตือนเมื่อมีรถแล่นมาด้านหลังขณะทำการถอยรถ
การขับเคลื่อนด้วยมอเตอร์ไฟฟ้าให้แรงบิดที่สูง ทำให้ NISSAN KICKS ขับสนุกกับอัตราเร่งที่ฉับไวแบบเดียวกับรถพลังไฟฟ้า โดยไม่ต้องห่วงเรื่องไฟฟ้าจะหมด เพราะมีเครื่องปั่นไฟติดมาด้วย แม้ว่าจะไม่ได้ประหยัดเชื้อเพลิงกว่าอีโคคาร์ แต่ก็เป็นทางเลือกที่น่าสนใจ
