ทดสอบ Zeekr X วัดอัตราเร่ง ขับทางไกล และรีวิวระบบใช้งานรอบคัน ! (รุ่นทอพ Flagship 1,349,000 บาท)

รถยนต์ไฟฟ้าหน้าใหม่ ตบเท้าเข้ามาทำตลาดในประเทศไทยอย่างหลากหลาย หนึ่งในนั้น คือ ทีเด็ดจากค่าย Geely (จีลี) กับหนึ่งในบแรนด์รถยนต์ที่มาแรงจากประเทศจีนกับ Zeekr X (ซีเคอร์ เอกซ์) ครอสส์โอเวอร์มาดเฉียบ เส้นสายคมเข้ม แปลกตา กับรุ่นทอพ Flagship (ฟแลกชิพ) ที่มีจุดเด่นด้านสมรรถนะจากมอเตอร์ไฟฟ้าคู่ถึง 428 แรงม้า ! จะล้ำสมัยแค่ไหน อัตราเร่งถึงใจหรือไม่ เรามาทดสอบกัน

แรงเกินตัวจากมอเตอร์คู่

Zeekr X รุ่นทอพ Flagship ใช้มอเตอร์ไฟฟ้า 2 ชุด ขับเคลื่อน 4 ล้อตลอดเวลา กำลังสูงสุด 315 กิโลวัตต์/428 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 543 นิวทันเมตร/55.4 กก.ม. นับว่ามหาศาลเอาเรื่องสำหรับรถยนต์ไฟฟ้าราคา 1 ล้านบาทต้นๆ เช่นนี้

อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. : 4.3 วินาที

อัตราเร่งยืดหยุ่น 60-100 กม./ชม. : 1.8 วินาที

อัตราเร่งยืดหยุ่น 80-120 กม./ชม. : 2.4 วินาที

Zeekr X มีการตอบสนองมีความฉับไวมาก แทบจะใกล้เคียงรถสปอร์ทพละกำลังสูงที่ใช้เครื่องยนต์สันดาป โดยเฉพาะช่วงความเร็ว 60-100 กม./ชม. สามารถไต่ความเร็วได้ในพริบตา ผู้ขับได้สัมผัสถึงอาการ “หลังติดเบาะ” อย่างแท้จริง ช่วยให้รถทำอัตราเร่งได้เร้าใจ

ติดตามผลการทดสอบสมรรถนะหัวข้ออื่นๆ ได้ที่ นิตยสาร ฟอร์มูลา ฉบับเดือนตุลาคม 2567 ในคอลัมน์ "ทดสอบ" 

มาดูรอบคัน ทั้งภายนอก และภายใน

จุดเด่นแรกของ Zeekr X คือ ตัวถังแบบครอสส์โอเวอร์ที่มีเส้นสายคมกริบ สันเหลี่ยมพาดเฉียงด้านข้างตัวถังขับเน้นความโฉบเฉี่ยวได้เป็นอย่างดี แปลกตากับชุดไฟหน้า แต่อันที่จริงแล้วเป็นชุดไฟส่องสว่างเวลากลางวัน ไฟส่องสว่างจริงจะถูกติดตั้งบริเวณกันชนหน้าถัดลงมาด้านล่างเล็กน้อย

ห้องโดยสารของ Zeekr X ถูกออกแบบให้เน้นความทันสมัยแบบ “มีนีมอล” แฝงความทันสมัยในส่วนต่างๆ ได้อย่างแนบเนียน รุ่นที่เราได้มาทดสอบใช้การตกแต่งด้วยโทนสีเบจอ่อนๆ ให้ความรู้สึกที่นุ่มนวลสายตา (แต่อาจมีโอกาสของการเป็นรอยต่างๆ ได้ง่ายขึ้นด้วย) พวงมาลัยแบบ 2 ก้าน พร้อมปุ่มมัลทิฟังค์ชันที่มีลักษณะเป็นคันโยกขนาดเล็ก นอกจากนี้ ยังมีการซ่อนปุ่มกดบริเวณด้านหลังพวงมาลัยด้วย สามารถใช้ฟังค์ชันต่างๆ ตามที่ผู้ขับต้องการ รุ่นทอพ Flagship ติดตั้งตู้เย็นขนาดเล็กติดตั้งตรงกลางเบาะคู่หน้า และทำความเย็นได้จริงๆ (แต่ต้องใช้เวลานานเล็กน้อย)

ระบบเสียงสำหรับภายนอกที่เก๋ไก๋

Zeekr X มีระบบใช้งานที่น่าสนใจ นั่นคือ ระบบ External Sound Play สามารถใช้เสียงสังเคราะห์ที่ระบบบันทึกเอาไว้ ไม่ว่าจะเป็นเสียง แมว ม้า รถสปอร์ท กริ่งจักรยาน และเสียงรถแทรคเตอร์ มีความแปลกใหม่พอสมควร และยังมีเสียงประโยคพูดยังผู้เดินถนนภายนอกรถ หรือผู้ที่ให้ทาง หรือสามารถพูดผ่านไมโครโฟนจากตัวรถออกสู่ภายนอกด้วย นับเป็นความแปลกใหม่ที่ไม่เคยเจอจากรถยนต์ยี่ห้ออื่นๆ อย่างไรก็ตาม ระบบดังกล่าวต้องใช้งานขณะที่รถจอดนิ่งเท่านั้น

ประเมินอัตราสิ้นเปลืองพลังงานไฟฟ้าเบื้องต้น

การทดสอบในครั้งนี้ เรามีโอกาสขับรถไปต่างจังหวัด เส้นทาง กรุงเทพฯ-ชลบุรี (อ่างศิลา)-กรุงเทพฯ ระหว่างทั้งหมดประมาณ 220 กม. จากจุดเริ่มต้น ระบบของตัวรถระบุว่ามีระยะทางของแบทเตอรีที่ชาร์จเต็มแล้วที่ 417 กม. เมื่อกลับมาที่ปลายทางมีระยะทางของแบทเตอรีเหลืออยู่ที่ 170 กม. กับการขับขี่บนจราจรทั่วไป ทดสอบอัตราเร่งบ้าง ใช้ความเร็วสูงบางช่วง สลับการขับในตัวเมือง การสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงโดยรวมยังถือว่าทำได้น่าพอใจ แม้จะใช้มอเตอร์ไฟฟ้าคู่ และมีพละกำลังสูง แต่ด้วยข้อจำกัดของขนาดตัวรถทำให้ Zeekr X ไม่ได้มีระยะทำการโดยรวมมากมายนัก (เมื่อเทียบกับรถยนต์ไฟฟ้าขนาดใหญ่) คำนวณเบื้องต้นแล้ว หากชาร์จแบทเตอรีเต็มสามารถแล่นได้ไกลประมาณ 400 กม. ภายใต้การใช้งานจริง

สรุปเบื้องต้นกับ Zeekr X

นี่คือ รถยนต์ไฟฟ้าที่มีความเร้าใจในแง่ของสมรรถนะมากที่สุดคันหนึ่ง ดุดันไม่แพ้รถสปอร์ทขนาดแท้ ภายใต้ตัวถังครอสส์โอเวอร์ของ Zeekr X เส้นสายคมกริบ และยังมีระบบใช้งานที่ทันสมัยมากมาย ทั้งระบบความปลอดภัย และระบบช่วยเหลือการขับขี่ (เช่น ระบบช่วยจอดอัตโนมัติ และกล้องมองภาพรอบคัน) ภายใต้ราคาของรุ่นทอพ Flagship ที่ 1,349,000 บาท ยังใกล้เคียงกับรถยนต์ระดับ B-SUV นับเป็นความคุ้มค่าที่เพิ่มความน่าสนใจกับรถยนต์ไฟฟ้ารุ่นนี้ได้ดี อย่างไรก็ตาม การใช้งานที่ต้องทำผ่านหน้าจอแทบทั้งหมด ต้องใช้ความคุ้นเคยค่อนข้างมาก ตลอดจนพื้นที่ของเบาะแถวที่ 2 และทัศนวิสัยที่ค่อนข้างจำกัด ทำให้รถยนต์ไฟฟ้ารุ่นนี้เหมาะกับการนั่งด้านหน้าของผู้โดยสาร 2 คน หรือครอบครัวขนาดเล็กมากกว่า