ทดสอบ(formula) 25 Apr 2022
HAVAL JOLION VS PEUGEOT 2008
รถยนต์กลุ่ม B-SUV หรือครอสส์โอเวอร์ในระดับ บี-เซกเมนท์ จากที่เดิมทีมีทางเลือกกับค่ายรถสัญชาติญี่ปุ่นเท่านั้น มาตอนนี้ ความนิยมของรถยนต์ประเภทดังกล่าวเริ่มมากขึ้นเรื่อยๆ ในที่สุดก็มีค่ายรถสัญชาติอื่นๆ เข้ามาร่วมวงทำตลาดอีกแรง เราจึงมาทดสอบประสิทธิภาพโดยรวมของรถยนต์ 2 รุ่น 2 สัญชาติ ฝ่ายแรกมาจากสาธารณรัฐประชาชนจีน นั่นคือ HAVAL JOLION และจากฟากยุโรปประเทศฝรั่งเศส กับ PEUGEOT 2008
EXTERIOR ภายนอก
ในแง่ของรูปทรงภายนอก B-SUV ทั้ง 2 รุ่นมีความแตกต่างกันพอสมควร ทางฝั่ง JOLION (โจไลออน) มาพร้อมรูปทรงด้านหน้าที่ใกล้เคียงกับ เอสยูวี แบบดั้งเดิม นั่นคือ ส่วนหน้าที่บึกบึน เน้นสันเหลี่ยม กระจังหน้าขนาดใหญ่ จุดเด่น คือ รูปแบบของชุดไฟหน้าที่แปลกใหม่ แหวกแนว เรียงตัวในแนวตั้ง และกินพื้นที่ส่วนหน้ามากกว่าไฟหน้าทั่วไป ไฟส่องสว่างหลักจะอยู่ด้านบนเหมือนรถทั่วไป แต่ส่วนถัดมาข้างล่างจะเป็นไฟแอลอีดี สำหรับไฟส่องสว่างเวลากลางวัน ไฟหรี่ และชุดไฟเลี้ยว ทำให้ครอสส์โอเวอร์ของ HAVAL (ฮาวัล) ในจุดนี้มีความโดดเด่นไม่เหมือนใคร แต่จุดที่น่าเสียดายเล็กน้อย คือ ความโดดเด่นของตัวถังอยู่ที่ด้านหน้าเกือบทั้งหมด ส่วนอื่นๆ ถัดมาถือว่ามีรูปทรงที่เรียบง่าย หลังคามีความลาดเทเล็กน้อย เพิ่มความปราดเปรียวให้กับตัวรถ ไฟท้ายมีขนาดใหญ่ และล้อแมกของรุ่นทอพ ULTRA (อุลทรา) มีขนาด 18 นิ้ว ลวดลายเน้นความเรียบง่าย
มาทางฝั่ง PEUGEOT 2008 (เปอโฌต์ 2008) ครอสส์โอเวอร์สัญชาติฝรั่งเศสรุ่นเล็กสุด ทำตลาดในบ้านเราต่อเนื่องจากรุ่นพี่อย่าง 3008 และ 5008 แม้จะเน้นความกะทัดรัด แต่เส้นสายโดยรวมมีความโฉบเฉี่ยว ลงตัว ตามแบบฉบับรถยนต์จากฝรั่งเศส ด้านหน้ามีความเข้ม สันเหลี่ยมคม ไฟหน้ามีลูกเล่นที่ชุดไฟแบบแอลอีดีในแนวตั้ง ทางผู้ผลิตระบุว่าเป็นรูปแบบคล้ายกับ “กรงเล็บของสิงโต” นอกจากนี้ยังมีอีกลูกเล่น คือ ชุดไฟส่องสว่างเวลากลางวัน เป็นแบบแอลอีดีในแนวตั้งทรงยาวบนกันชนหน้า ทางผู้ผลิตระบุอีกว่า มีรูปแบบคล้ายกับ “เขี้ยวของสิงโต” นับเป็นการเพิ่มอัตลักษณ์เล็กๆ น้อยๆ ให้กับ 2008 ได้เป็นอย่างดี นอกจากนี้ด้านข้างของตัวรถมีสันเหลี่ยมที่โดดเด่น ส่วนหลังคาสีดำ แยกสีทูโทนกับตัวถัง ส่วนท้ายเน้นความเรียบหรูกับชุดไฟท้ายแนวนอนแบบแอลอีดีเช่นกัน ล้อแมกแบบสีทูโทน ขนาด 17 นิ้ว
เมื่อเทียบกับแล้ว ทาง JOLION จะมีขนาดตัวที่ใหญ่กว่า 2008 กับความยาว และระยะฐานล้อที่ 4,472 และ 2,700 มม. ขณะที่คู่แข่งสัญชาติฝรั่งเศส คือ 4,300 และ 2,605 มม. ตามลำดับ ใครที่ต้องการความใหญ่โตอาจลองหันไปพิจารณาครอสส์โอเวอร์จากจีน แต่หากต้องการรถยนต์สัญชาติยุโรป ทรงสวย ขนาดกะทัดรัด ทางฝั่งครอสส์โอเวอร์จากฝรั่งเศสเป็นอีกทางเลือกที่น่าสนใจ
INTERIOR ภายใน
ด้วยตัวถังที่มีขนาดใหญ่ ทำให้ห้องโดยสารของ HAVAL JOLION (ฮาวัล โจไลออน) มีความกว้างขวาง เบาะคู่หน้านั่งได้สบาย มีความกว้างขวางไม่แพ้รถยนต์ราคาแพงกว่าบางรุ่นด้วยซ้ำ จุดที่น่าพอใจ คือ การตกแต่งที่ดูหรูหราเกินราคาค่าตัว คอนโซลหน้าตกแต่งด้วยหนัง สลับด้วยวัสดุสีทองกุหลาบ (ROSE GOLD) ได้ความแปลกตา และลงตัวไม่เหมือนใคร เพิ่มความปลอดโปร่งด้วยหลังคาซันรูฟ พาโนรามิคขนาดใหญ่ พร้อมม่านบังแดดตลอดความยาวของซันรูฟ เปิด/ปิดด้วยไฟฟ้า เป็นหนึ่งในออพชันที่พบได้จากรถยนต์สัญชาติจีนหลายรุ่น จอแสดงผลตรงกลางมีความคมชัด นอกจากนี้ยังใช้งานสำหรับการปรับแต่งอุปกรณ์ และระบบต่างๆ เพราะรอบๆ คอนโซลหน้าแทบไม่มีปุ่มใช้งานแบบดั้งเดิมอยู่เลย (ยกเว้นปุ่มใช้งานของระบบปรับอากาศ) การใช้งานในระยะแรกอาจต้องทำความคุ้นเคยกันเล็กน้อย แม้แต่คันเกียร์ก็ถูกแทนที่ด้วยแป้นหมุน แผงหน้าปัดเป็นแบบดิจิทอล มีขนาดค่อนข้างใหญ่ มองเห็นได้ง่ายกว่าแผงหน้าปัดของรุ่นพี่รวมค่ายอย่าง H6 HEV (เอช 6 เอชอีวี) ส่วนเบาะหลังมีความกว้างขวางที่น่าพอใจเช่นกัน แต่เราสังเกตว่า ตำแหน่งของเบาะค่อนข้างต่ำลงมาจากปกติเล็กน้อย เพื่อให้มีระยะเหนือศีรษะของผู้โดยสารที่มากพอ จากแนวหลังคาที่ลาดเทลงมา
สำหรับ PEUGEOT 2008 (เปอโฌต์ 2008) มีห้องโดยสารที่ออกแบบได้อย่างมีสไตล์ จุดที่แปลกตา คือ พวงมาลัยที่มีขนาดเล็กกว่าปกติ หักมุมหลบส่วนบน เพื่อให้ผู้ขับสามารถมองเห็นหน้าปัดได้ชัดเจนยิ่งขึ้น ต่างจากรถยนต์ทั่วไปที่จะมองเห็นหน้าปัดด้วยการมองลอดพวงมาลัยลงไป ตำแหน่งของหน้าปัดจึงอยู่สูงขึ้นมาเล็กน้อย แต่ไม่บดบังทัศนวิสัยด้านหน้า อย่างไรก็ตาม การปรับตำแหน่งของพวงมาลัยไม่สามารถทำได้สูงนัก เพราะจะทำให้บดบังหน้าปัดได้ ตำแหน่งการจับพวงมาลัยของผู้ขับจะอยู่ต่ำลงมาเล็กน้อย นอกจากนี้ หน้าปัดยังเป็นแบบดิจิทอล มีความคมชัด เสริมด้วยการแสดงผลแบบสะท้อนบนกระจกของแผงหน้าปัด เพิ่มความหลากหลายของการแสดงผล แต่ก็อดแปลกใจไม่ได้ว่า ทำไมผู้ผลิตไม่ออกแบบให้มีการแสดงผลจากจอแบบดิจิทอลโดยตรงไปเลย ส่วนแผงคอนโซลตรงกลางออกแบบได้มีสไตล์เช่นกัน ปุ่มใช้งานเป็นแบบสลักกดขึ้น/ลง คล้ายกับปุ่มของเครื่องบิน แผงคอนโซลตกแต่งด้วยวัสดุลวดลายคาร์บอนไฟเบอร์ เบาะหน้าทรงเรียบง่าย แต่ไม่มีเบาะปรับด้วยไฟฟ้าติดตั้งมาให้ ส่วนเบาะหลังนั่งได้สบายเพียงพอ ไม่อึดอัด ระยะเหนือศีรษะค่อนข้างมาก แต่พื้นที่เก็บสัมภาระมีไม่มากนัก (เมื่อเทียบครอสส์โอเวอร์ของคู่แข่ง) และพับเบาะแล้วไม่เป็นทรงราบในแนวเดียวกัน
ENGINE เครื่องยนต์
ครอสส์โอเวอร์ทั้ง 2 รุ่นมีรูปแบบของเครื่องยนต์ที่แตกต่างกันโดยสิ้นเชิง HAVAL JOLION ใช้เครื่องยนต์ระบบไฮบริด ประกอบด้วย เบนซิน 1.5 ลิตร และมอเตอร์ไฟฟ้า กำลังสูงสุดทั้งระบบที่ 190 แรงม้า ส่วน PEUGEOT 2008 ใช้เครื่องยนต์เบนซิน เทอร์โบ ขนาด 1.2 ลิตร กำลังสูงสุด 130 แรงม้า แต่มีแรงบิดที่ค่อนข้างสูง มาดูสมรรถนะของครอสส์โอเวอร์ทั้ง 2 รุ่นกัน
อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. HAVAL JOLION ทำได้ที่ 11.1 วินาที ส่วน PEUGEOT 2008 ฉับไวเกินคาดที่ 10.6 วินาที แม้จะมีความแตกต่างไม่มากนัก แต่เครื่องยนต์ของ 2008 มีการตอบสนองของระบบเทอร์โบที่ดีเกินคาด พละกำลังถูกปลดปล่อยออกมาฉับไว อาศัยแรงบิดที่สูง ส่วน JOLION แม้มีพละกำลังสูง แต่เน้นการตอบสนองแบบค่อยเป็นค่อยไป ในช่วงแรกที่ออกตัว การตอบสนองไม่มากนัก แต่หลังจากนั้นจะส่งกำลังออกมาได้ดี
อัตราเร่งระยะ 0-1,000 ม. JOLION ทำเวลาที่ 34.1 วินาที (ที่ความเร็ว 149.0 กม./ชม.) ส่วน 2008 คือ 31.9 วินาที (ที่ความเร็ว 165.3 วินาที) อัตราเร่งช่วงตีนปลายกลับมีความแตกต่างอย่างชัดเจน ทางฝั่ง HAVAL เน้นการขับเคลื่อนด้วยมอเตอร์ไฟฟ้า ผสมผสานกับเครื่องยนต์เบนซินบางส่วน ในช่วงตีนต้นอาจจะทำได้ดี แต่มีจุดสังเกต คือ การส่งกำลังมีอาการแผ่วลงไปในช่วงกลาง และช่วงปลาย ความเร็วปลายจึงไม่สูงมากนักในระยะทาง 1,000 ม. ของการทสอบ ต่างจาก 2008 ที่มีอัตราเร่งที่ถูกส่งออกมาอย่างต่อเนื่องจนถึงช่วงตีนปลาย ทำเวลาได้ฉับไวกว่าพร้อมความเร็วที่สูงกว่าเช่นกัน
อัตราเร่งสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงที่ความเร็ว 60/80/100/120 กม./ชม. HAVAL JOLION มีอัตราสิ้นเปลืองเฉลี่ยที่ 28.8/16.7/12.5/10.6 กม./ลิตร อาจดูน่าแปลกใจสำหรับรถยนต์ที่ใช้ระบบไฮบริดเช่นนี้ เราพบว่าขณะใช้ความเร็วคงที่ ระบบไฮบริดมีการทำงานของเครื่องยนต์สันดาปเกือบตลอดเวลา คล้ายกับระบบไฮบริดแบบคู่ขนาน เมื่อใช้ความเร็วสูงขึ้น เครื่องยนต์สันดาปยังคงทำงานอยู่ ขับเคลื่อนร่วมกับมอเตอร์ไฟฟ้า (แม้ระดับของแบทเตอรีจากยังสูงก็ตาม) การจะใช้ประโยชน์กับระบบไฮบริดของรถยนต์รุ่นนี้กลับอยู่ที่การใช้งานทั่วไปแบบยืดหยุ่น มีความเร็วแตกต่างกันไป สลับสถานะของการชาร์จไฟฟ้าเข้าแบทเตอรี และใช้งานมอเตอร์ไฟฟ้าที่ความเร็วต่ำ การตอบสนองโดยรวมมีความไหลลื่น และมีอัตราเร่งที่ดี ถึงอย่างนั้น เราก็ยังคาดหวังว่า อัตราสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงของการใช้ความเร็วคงที่จะทำได้ดีกว่านี้
ส่วนอัตราสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงเฉลี่ยของ PEUGEOT 2008 คือ 26.3/23.1/17.8/14.3 กม./ลิตร ตัวเลขของเครื่องยนต์ขนาดเล็ก พ่วงเทอร์โบ ทำให้สะท้อนผลของอัตราสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงได้ตรงไปตรงมา นั่นคือ การประหยัดที่ดีในช่วงความเร็วต่ำ และยังคงน่าพอใจในช่วงความเร็วสูง ทำได้ดีเทียบเท่ารถเก๋งระดับ บี-เซกเมนท์ ด้วยซ้ำ ประสิทธิภาพของเครื่องยนต์สมกับการเป็นรถยนต์สัญชาติยุโรป มีทั้งอัตราเร่งที่ดี และการประหยัดเชื้อเพลิงที่เหมาะสม โดยเฉพาะการเดินทางไกลที่ใช้ความเร็วสูงคงที่ แต่ในแง่การขับขี่ในสภาพการจราจรหนาแน่น อาจยังเป็นรองระบบไฮบริดเป็นธรรมดา
SUSPENSION ระบบรองรับ
จุดที่น่าพอใจสำหรับ HAVAL JOLION คือ ระบบรองรับที่ปรับแต่งให้เน้นความสะดวกสบาย ขณะขับขี่ และการโดยสาร ช่วงล่างมีความนุ่มนวล แต่อาการโคลงของตัวรถก็ไม่มากเกินไป การใช้ความเร็วสูง และขับทางไกล ตัวรถมีความนิ่งที่น่าพอใจด้วย พวงมาลัยมีน้ำหนักที่พอเหมาะ การปรับแต่งโดยรวมเรามีความรู้สึกว่าลงตัวกว่ารุ่นพี่อย่าง H6 HEV ด้วยซ้ำไป นอกเหนือจากนี้ ยังมีระบบความปลอดภัย และระบบช่วยเหลือการขับขี่ที่ครบครันเกินราคา และเกินหน้าคู่แข่งระดับเดียวกัน ! ไม่ว่าจะเป็นการติดตั้งระบบช่วยจอดรถอัตโนมัติหลากหลายรูปแบบ ผู้ขับแทบไม่ต้องควบคุมอะไรเลย ปล่อยให้ระบบจัดการการจอดเองได้ แต่บางครั้งการจอดในที่แคบ ระบบจะเคลื่อนรถไปใกล้อุปสรรคโดยรอบค่อนข้างมาก จนผู้ทดสอบอดที่จะเหยียบเบรคไม่ได้ แม้จะรู้แก่ใจว่าระบบไม่พารถชนอย่างแน่นอน (แม้มีการเหยียบเบรคโดยผู้ขับ ระบบช่วยจอดยังคงทำงานอยู่) นอกจากนี้ยังมีระบบช่วยประคองรถให้อยู่ในโค้ง (ตามแนวเส้นถนน) และชะลอความเร็วเล็กน้อยหากเข้าโค้งด้วยความเร็วสูงเกินกว่าที่ระบบประเมินเอาไว้ รวมถึงระบบสั่งงานด้วยเสียง ช่วยให้ผู้ขับไม่ต้องละมือจากพวงมาลัย และละสายตาจากท้องถนน ทั้งหมดที่ว่า คือ ความคุ้มค่าอย่างสุดยอดของ HAVAL JOLION
ส่วน PEUGEOT 2008 มีระบบรองรับที่เน้นความนุ่มหนึบในสไตล์รถยนต์สัญชาติยุโรป แต่อัตราส่วนของความนุ่มนวลมีมากกว่าที่คาดเอาไว้ในทีแรก รวมถึงพวงมาลัยที่มีน้ำหนักเบา ประกอบกับขนาดของพวงมาลัยที่เล็กทำให้การหักเลี้ยวทำได้คล่องแคล่วไม่น้อย การขับขี่ในตัวเมืองมีความคล่องตัว การขับทางไกลมีความมั่นคงที่ดีพอสมควร แต่เราคิดว่าหากเพิ่มความหนึบให้กับระบบรองรับได้มากกว่านี้อีกเล็กน้อย ตัวรถจะมีความมั่นคง และขับสนุกได้ดี (จากสมรรถนะที่ดีเหลือเฟืออยู่แล้ว) ส่วนระบบความปลอดภัยให้มาเหลือเฟือตามมาตรฐานรถยนต์ยุคปัจจุบัน ทั้งระบบเตือนจุดอับสายตาด้านข้าง ส่วนกล้องมองภาพมีเพียงมุมมองด้านหลังเท่านั้น ไม่มีกล้องมองรอบคันมาให้
B-SUV ที่หลากหลายกว่าเดิม
รถยนต์ทั้ง 2 รุ่น ต่างก็แสดงให้เห็นแล้วว่า B-SUV คือ หนึ่งในกลุ่มรถยนต์ที่มีความหลากหลาย และแสดงถึงเอกลักษณ์เฉพาะตัวของแต่ละค่ายออกมาได้ชัดเจน ทางฝั่ง HAVAL JOLION เน้นราคาที่จับต้องได้ (รุ่นทอพไม่ถึง 1,000,000 บาท) แต่อัดแน่นด้วยออพชันที่ให้มาเกินตัว (และเกินหน้าคู่แข่ง) ห้องโดยสารกว้างขวาง ขับขี่ได้ดี นั่งได้สบาย แม้ระบบไฮบริดจะยังมีประสิทธิภาพที่ไม่โดดเด่นมากนัก ส่วน PEUGEOT 2008 เป็นรถยนต์สัญชาติยุโรป ระดับราคา 1,000,000 บาทต้นๆ รูปทรงสวยงาม ห้องโดยสารมีสไตล์ลงตัว ไม่น่าเบื่อ สมรรถนะดีเกินคาด แต่อุปกรณ์ใช้งาน และระบบความปลอดภัยอาจน้อยกว่าคู่แข่งอยู่บ้าง เนื่องจากเป็นรถยนต์นำเข้าทั้งคัน จุดเด่นที่หลากหลายของแต่ละคัน ช่วยตอกย้ำว่า ค่ายรถสัญชาติญี่ปุ่นอย่าได้ประมาท B-SUV จากสัญชาติอื่นๆ พร้อมขโมยความสนใจได้ตลอดเวลา !