ทดสอบ

GWM POER SAHAR / RIDDARA RD6

17 May 2025

พิคอัพยุคใหม่ หลากหลาย เลือกได้ มากกว่าแค่ดีเซล เทอร์โบ หรือเบนซิน แต่ยังมีมอเตอร์ไฟฟ้า หรือ EV อย่าง POER SAHAR (โพเออร์ ซาฮาร์) พิคอัพพลังไฮบริด HEV ภาพสะท้อนของ GWM TANK 500 (กเรท วอลล์ มอเตอร์ แทงค์ 500) เอสยูวีตัวใหญ่มาดแกร่ง ให้มาครบ ก็มี RIDDARA RD6 (ริดดารา อาร์ดี 6) พิคอัพไฟฟ้า 100 % หรือพิคอัพแบทเตอรี BEV ที่เราจัดมาทดสอบในรอบนี้ และในปีนี้ยังมีพิคอัพพลัก-อิน ไฮบริด PHEV งานนี้บอกเลยว่า นอกจากมีของดีเพียบแล้ว ยังจัดหนักจัดเต็ม

EXTERIOR ภายนอก

GWM POER SAHAR

รูปทรงของ POER SAHAR เน้นความบึกบึน กระจังหน้ามีขนาดใหญ่ ชุดกันชน และฝากระโปรงมีสันเหลี่ยม มิติตัวถัง ยาว/กว้าง/สูง 5,445/1,991/1,924 มม. ใกล้เคียง BYD SHARK 6 (บีวายดี ชาร์ค 6) 5,457/1,971/1,925 มม. ใหญ่กว่า FORD RANGER (ฟอร์ด เรนเจอร์ ) ที่มีขนาด 5,370/1,918/1,884 มม.

ไฟหน้า และไฟตัดหมอกแบบ LED ออกแบบรับกับตัวรถ หลังคาสูงตามสไตล์เอสยูวี ไฟท้ายในแนวตั้งมีความทันสมัย ล้อแมกขนาด 18 นิ้ว และยางขนาด 265 / 60 R18

RIDDARA RD6

RIDDARA RD6 มีพื้นฐานของครอสส์โอเวอร์ เอสยูวี เมื่อตัดหลังคาหลังเบาะแถว 2 ออกไป เพื่อเป็นกระบะบรรทุก ทำให้ดูแตกต่างจากพิคอัพ 4 ประตู ที่เราคุ้นเคย

ไฟหน้าแบบ LED ไฟส่องสว่างสำหรับการขับเวลากลางวันแบบ LED ไฟท้ายแบบ LED คาดยาวซ้ายถึงขวา กระจังหน้าแบบทึบ ในรุ่น 2WD สีดำเงา กับตัวอักษร RIDDARA บนฝากระโปรง ในรุ่น 4WD กระจังหน้าตัวอักษร RIDDARA แบบ LED มีบันไดข้าง และตะขอลากจูง

รุ่นทอพ 4WD 86 KWH เพิ่มบันไดท้ายกระบะ และราวหลังคาอลูมิเนียม

ล้ออัลลอยขนาด 18 นิ้ว พร้อมยางขนาด 235/60 R18 เป็นอีกส่วนที่ดูแปลก ด้วยดีไซจ์นปิดทึบแบบรถไฟฟ้า 100 % กับการลุย ยกเว้นรุ่น 2WD 63 KWH ที่ใช้ล้อขนาด 17 นิ้ว และยาง 235/65 R17 ลายก้านที่คุ้นตา และเข้ากับพิคอัพมากกว่า

มิติตัวรถ ยาว/กว้าง/สูง 5,260/1,900/1,880 มม. ความยาวฐานล้อ 3,120 มม. จุดต่ำสุดของตัวรถห่างจากพื้น 225 มม. ขนาดตัวพอๆ กับพิคอัพ 4 ประตู เครื่องยนต์ดีเซล เทอร์โบ อย่าง ISUZU และ TOYOTA

INTERIOR ภายใน

GWM POER SAHAR

ภายในตกแต่งหรูหรา กว้างขวาง จอทัชสกรีนขนาด 12.3 นิ้ว รองรับ APPLE CARPLAY และ ANDROID AUTO แบบต่อสาย และลําโพง INFINITY 10 ตําแหน่ง จอแผงหน้าปัดแบบดิจิทอล จอแสดงบนกระจกหน้า HEAD UP DISPLAY พวงมาลัยพร้อมสวิทช์ควบคุมเครื่องเสียงและสวิทช์ควบคุมจอแสดงข้อมูลการขับขี่ใช้ง่าย สะดวกสบายด้วยแท่นชาร์จไร้สายสำหรับสมาร์ทโฟน

เบาะคู่หน้านวดไฟฟ้าและระบบระบายอากาศ เบาะคนขับปรับไฟฟ้า 8 ทิศทาง พร้อมดันหลังไฟฟ้า 4 ทิศทาง ระบบบันทึกตําแหน่งพร้อมระบบ WELCOME SEAT เบาะผู้โดยสารปรับไฟฟ้า 4 ทิศทาง เบาะหลังปรับ 2 ทิศทางเอนได้ พร้อมระบบปรับอากาศด้านหลัง

ส่วนระดับเสียงในห้องโดยสาร จากความเร็วคงที่ 60/80/100/120 กม./ชม. วัดได้ 54/58/62/65 เดซิเบล เงียบใกล้เคียงกับ TOYOTA HILUX REVO (53/56/60/63 เดซิเบล)

RIDDARA RD6

ภายในหรูสไตล์ครอสส์โอเวอร์ หน้าจอ 14.6 นิ้ว รองรับ APPLE CAR PLAY และ CARBIT LINK พร้อมระบบสั่งงานด้วยเสียง

เบาะคู่หน้าปรับไฟฟ้าแบบ 6 ทิศทาง กระจกไฟฟ้าทั้ง 4 บาน แบบ ONE-TOUCH พร้อมระบบป้องกันการหนีบ

ระบบปรับอากาศอัตโนมัติแบบ DUAL ZONE และระบบปรับอากาศสำหรับผู้โดยสารตอนหลัง แท่นชาร์จมือถือแบบไร้สาย 50 วัตต์

ENGINE เครื่องยนต์

GWM POER SAHAR

ขุมพลังของ POER SAHAR เป็นตัวเดียวกับ TANK 500 HEV และ TANK 300 HEV คือ เครื่องยนต์ระบบไฮบริด (HEV) ประกอบด้วยเครื่องยนต์เบนซิน เทอร์โบ ขนาด 2.0 ลิตร กำลังสูงสุด 244 แรงม้า แรงบิดสูงสุดที่ 38.7 กก.ม. และมอเตอร์ไฟฟ้า กำลังสูงสุด 78 กิโลวัตต์/106 แรงม้า แรงบิด 27.3 กก.ม. กับเกียร์อัตโนมัติ 9 จังหวะ เปรียบเทียบสมรรถนะกับ FORD RANGER ดีเซล เทอร์โบ 3.0 ลิตร วี 6 สูบ กำลังสูงสุด 250 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 61.2 กก.ม. เกียร์อัตโนมัติ 10 จังหวะ

อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ทำเวลาได้ 8.3 วินาที เร็วกว่า FORD RANGER (9.1 วินาที) ช่วงความเร็วตีนปลาย อัตราเร่ง 0-1,000 ม. ทำเวลาได้ที่ 30.9 วินาที ใกล้เคียง FORD RANGER (30.4 วินาที)

เมื่อเร่งแซง การตอบสนองของระบบไฮบริดมีความกระฉับกระเฉง ที่ความเร็ว 60-100 และ 80-120 กม./ชม. POER SAHAR มีอัตราเร่งที่ 4.5 และ 5.3 วินาที เร็วกว่า FORD RANGER (4.6 และ 5.9 วินาที) เล็กน้อย

RIDDARA RD6

ในรุ่น 2WD มอเตอร์เดี่ยว กำลังสูงสุด 200 กิโลวัตต์/272 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 385 นิวทันเมตร/39.3 กก.ม. ขับเคลื่อนล้อหลัง

ในรุ่น 4WD มี 2 มอเตอร์ กำลังรวมสูงสุด 315 กิโลวัตต์/428 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 595 นิวทันเมตร/60.7 กก.ม.

โหมดการขับขี่ รุ่น 2WD มี 3 โหมด ECO/COMFORT/SPORT รุ่น 4WD มี 7 โหมด SAND/MUD/OFF-ROAD/WADING และ ECO/COMFORT/SPORT ยังสามารถกลับรถแบบรถถัง TANK TURN

แบทเตอรี 3 ขนาด 2 แบบ LITHIUM IRON PHOSPHATE ยกเว้นรุ่นทอพ 4WD 86 KWH ที่ใช้แบทเตอรีแบบ TERNARY LITHIUM ระยะทางวิ่งสูงสุด/การชาร์จเต็ม 1 ครั้ง (มาตรฐาน NEDC) 373 กม. ในรุ่น 2WD 63 KWH, 461 กม. ในรุ่น 2WD 73 KWH, 424 กม. ในรุ่น 4WD 73 KWH และ 455 กม. ในรุ่น 4WD 86 KWH

อัตราเร่งช่วงต้น 0-100 กม./ชม. และ 0-400 ม. อยู่ที่ 5.3/13.7 วินาที และอัตราเร่งตีนปลาย 0-1,000 ม. อยู่ที่ 25.5 วินาที แรงกว่าพิคอัพทุกรุ่น

ขณะที่อัตราเร่งยืดหยุ่นช่วง 60-100/80-120 กม./ชม. ทําเวลาได้ 2.5/3.3 วินาที ก็เร็วกว่าพิคอัพทุกรุ่น รวมทั้ง FORD RAPTOR 3.0 (3.2/3.8 วินาที)

SUSPENSION ระบบรองรับ

GWM POER SAHAR

ประสิทธิภาพของระบบเบรค ที่ความเร็ว 60/80/100 กม./ชม. ใช้ระยะ 16.8/28.5/44.1 ม. เทียบน้ำหนักตัวรถ อยู่ในระดับที่น่าพอใจ อยู่ในเกณฑ์ดี เทียบกับ FORD RANGER (17.5/30.9/47.8 ม.) MITSUBISHI TRITON (มิตซูบิชิ ทไรทัน) (17.0/31.0/46.7 ม.) แต่ยังเป็นรอง TOYOTA HILUX REVO (16.2/28.4/44.0 ม.)

ตัวถังวางบนแชสซีเหมือน GWM TANK 500 แต่ระบบรองรับด้านหลังเป็นแหนบแผ่นซ้อนเหมือนกับกระบะบรรทุก ความนุ่มนวลจึงทำได้ดีไม่เท่า ท้ายยังเด้งอยู่

การลุยสำหรับ POER SAHAR มีโหมดการขับขี่ต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นโหมดการลุยทางผืนทราย ลุยโคลน การปรับโหมดการส่งกำลังของชุดเฟืองส่งกำลังรูปแบบต่างๆ ทำได้ดีเกินคาด นอกจากนี้ ยังมีการแสดงผลผ่านหน้าจอหลัก

ระบบช่วยจอดรถอัจฉริยะ 3 รูปแบบ กล้องแสดงภาพรอบทิศทาง 360 องศา เฉพาะรุ่น ULTRA 4WD และยังมีระบบช่วยเบรกฉุกเฉิน บนทางตรงและทางแยก (AEBI) ระบบช่วยเตือนเมื่อเสี่ยงต่อการชนด้านหน้า (FCW) ระบบช่วยเตือนเมื่อมีรถ ในจุดอับสายตาขณะถอยหลัง (RCTA) ระบบช่วยเบรกเมื่อมีรถในจุดอับสายตาขณะถอยหลัง (RCTB) ระบบช่วยเตือนเมื่อเสี่ยงต่อการถูกชนด้านหลัง (RCW) ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติแบบแปรผันพร้อมการช่วยเข้าโค้งอัจฉริยะ (INTELLIGENT ACC) ระบบควบคุมความเร็ว อัตโนมัติที่ความเร็วต่ำ (TJA)

ฝาท้ายกระบะเปิด-ปิด ได้ 2 รูปแบบทั้งการเปิดแบบปกติและแบบบานพับเฉพาะรุ่น ULTRA 4WD รองรับการต่ออุปกรณ์ลากพ่วง

RIDDARA RD6

ช่วงล่างแบบอิสระคล้ายกับในครอสส์โอเวอร์ เอสยูวี ให้ความแน่นหนึบ ไม่เด้ง หรือโยนตัว

ประสิทธิภาพของระบบเบรค ที่ความเร็ว 60/80/100 กม./ชม. ใช้ระยะ 15.3/27.6/42.1 มม. ทำได้ดีในที่ความเร็ว 100 กม./ชม. ใกล้เคียงกับ TOYOTA HILUX REVO (15.6/27.8/42.4 ม.) ISUZU D-MAX (อีซูซุ ดี-แมกซ์) (15.5/27.3/45.2 ม.)

ดีกว่าและใช้ระยะเบรคสั้นกว่า FORD RANGER (17.5/30.9/47.8 ม.) MITSUBISHI TRITON (16.1/28.1/44.3 ม.) NISSAN NAVARA PRO-4X (นิสสัน นาวารา พโร-4 เอกซ์) (16.6/28.2/43.8 ม.) ทุกความเร็ว

RD6 มีระบบช่วยขับขี่อัจฉริยะ 14 ระบบ ประกอบด้วย ระบบช่วยควบคุมความเร็วอัจฉริยะ (ICC) ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติแบบแปรผัน (ACC) ระบบช่วยเบรคอัตโนมัติ (AEB) ระบบเตือนการชนด้านหน้า (FCW) ระบบช่วยควบคุมรถให้อยู่ในช่องทางเดินรถ (LKA) ระบบช่วยรักษาช่องทางเดินรถฉุกเฉิน (ELKA) ระบบเตือนเมื่อรถออกนอกเลน (LDW) ระบบช่วยเตือนเมื่อต้องการเปลี่ยนเลน (LCA) ระบบช่วยเตือนมุมอับสายตา (BSD) ระบบเตือนก่อนเปิดประตู (DOW) ระบบช่วยเตือนเมื่อมีรถในจุดอับสายตาขณะถอยหลัง (RCTA) ระบบช่วยเบรคเมื่อมีรถในจุดอับสายตาขณะถอยหลัง (RCTB) ระบบช่วยเตือนเมื่อเสี่ยงต่อการถูกชนด้านหลัง (RCW) และระบบเตือนเมื่อรถคันหน้าเคลื่อนที่ (FDA) ยกเว้นรุ่น 2WD 63 KWH

RD6 แม้ว่าจะถูกจำกัดด้วยระยะทาง และรูปร่างหน้าตา ที่ตอบโจทย์ได้ไม่ทุกกลุ่ม แต่สิ่งหนึ่งที่หลายคนซึ่งได้ลองขับ จะบอกว่าเขามาเหนือขีดจำกัดของครอสส์โอเวอร์ เอสยูวี และพิคอัพ ทั้งเรื่องการขับขี่ ความสะดวกสบาย และการใช้งานอเนกประสงค์ ซึ่งอาจจะต้องมองกันไปนานๆ อีกส่วนหนึ่ง คือ ราคา ในรุ่น 2WD ขับเคลื่อนล้อหลัง ก็ไม่ถึงล้านบาท

กระบะท้ายไม่เพียงแบกน้ำหนักบรรทุกได้ถึง 1,030 กก. ยังมีกำลังในการลากจูง โดยรุ่น 2WD สามารถลากพ่วงน้ำหนัก 2,500 กก. ได้ และรุ่น 4WD สามารถลากพ่วงน้ำหนักได้มากถึง 3,000 กก. และสามารถลุยน้ำได้ลึก 815 มม. (81 ซม.) พอๆ กับพิคอัพ 4x4

GWM POER SAHAR

POER SAHAR มีความหรูหราภูมิฐาน ขับเคลื่อนของระบบไฮบริดมีความกระฉับกระเฉงเกินคาด อัตราเร่งที่ทำได้ดีแม้ว่าตัวถังจะใหญ่ ประสิทธิภาพการลุยทางสมบุกสมบันที่ทำได้ดี สามารถลุยได้หลากหลายสภาพ โดยสามารถลดภาระผู้ขับขี่ลงได้มาก รุ่นทอพ ULTRA 4WD ราคา 1,389,000 บาท รุ่นเริ่มต้น PRO ราคา 1,189,000 บาท คุ้มค่าในแง่ของความครบครันของการใช้งาน และออพชันโดยรวม แต่ติดที่ใช้น้ำมันเบนซิน