"ฟอร์มูลา" สนทนาธุรกิจกับ ทาคาอากิ มัทสึอิ กรรมการผู้จัดการ บริษัท เจเอ็กซ์ นิปปอน ออยล์ แอนด์ เอเนอจี (ประเทศไทย) จำกัด ผู้นำเข้าและจำหน่ายน้ำมันเครื่อง ENEOSฟอร์มูลา : บริษัท เจเอ็กซ์ นิปปอน ออยล์ แอนด์ เอเนอจี (ประเทศไทย) จำกัด ดำเนินธุรกิจในประเทศไทยเมื่อไร ? มัทสึอิ : บริษัท ฯ เข้ามาทำธุรกิจในประเทศไทย ตั้งแต่ปี 2538 ปีนี้ครบ 20 ปี ซึ่งผลิตภัณฑ์ของบริษัทผู้ผลิตรถยนต์บแรนด์ญี่ปุ่น จะใช้น้ำมันเครื่อง ENEOS แต่ในตลาดทดแทนเพิ่งเปิดตลาดได้แค่ 4 ปีเท่านั้น ฟอร์มูลา : น้ำมันเครื่อง ENEOS ผลิตหรือนำเข้ามาจำหน่าย ? มัทสึอิ : น้ำมันเครื่อง ENEOS ใช้เทคโนโลยีจากประเทศญี่ปุ่น แต่ผลิตที่ประเทศไทย ฟอร์มูลา : จุดเด่นของน้ำมันเครื่อง ENEOS คือ อะไร ? มัทสึอิ : บริษัท ฯ คือ บริษัทน้ำมันและพลังงานอันดับ 1 ของญี่ปุ่น และเป็นหนึ่งในบริษัทชั้นนำของโลก เป็นบริษัทญี่ปุ่นรายแรกที่เป็นผู้จัดหาน้ำมันเครื่องให้กับทีมรถแข่งในรายการแข่งขัน ปารีส ดาการ์ แรลลี และ ทีม ฮอนดา เอฟ 1 จนไปถึงการแข่งขันระดับโลกอย่าง ซูเพอร์จีที รวมถึง เลกซัส ทีม เลอ มองส์ ในประเทศญี่ปุ่น ซึ่งยืนยันได้ถึงคุณภาพและมาตรฐานเป็นที่ยอมรับ นอกจากนี้ด้วยคุณสมบัติที่ทรงประสิทธิภาพจากการคิดค้นน้ำมันเครื่อง ซึ่งสร้างความพอใจให้แก่ผู้ใช้ ทั้งในเรื่องของการรักษาเครื่องยนต์ให้สะอาดถึงภายใน ลดปริมาณกำมะถันในสารเพิ่มคุณภาพลง 70 % เทคโนโลยีต้นแบบที่จดลิขสิทธิ์แล้วของ ENEOS ป้องกันการเสื่อมสภาพของสารเพิ่มคุณภาพจากกำมะถัน และเพิ่มประสิทธิภาพการทำความสะอาดเครื่องยนต์อย่างเด่นชัด เมื่อเทียบกับน้ำมันเครื่องทั่วไป รับรู้ถึงการประหยัดและประสิทธิภาพของเชื้อเพลิง ค่าดัชนีความหนืดที่สูงพิเศษ เพิ่มประสิทธิภาพการประหยัดเชื้อเพลิงในทุกสภาพการขับขี่ ตั้งแต่การขับระยะสั้นจนถึงการเร่งความเร็วสูงสุด ลดการสูญเสียจากแรงเสียดทานภายในเครื่องยนต์เนื่องจากความทนทานของสารควบคุมแรงเสียดทานและสารทำความสะอาด ทำให้รับรู้ได้ถึงประสิทธิภาพของเชื้อเพลิงที่ยาวนานขึ้น ฟอร์มูลา : กลยุทธ์ที่ใช้ในการรุกตลาด ? มัทสึอิ : สร้างการรับรู้แก่ผู้บริโภคถึงประสิทธิภาพ และมาตรฐานของผลิตภัณฑ์จากการแข่งขัน ปารีส ดาการ์ แรลลี น้ำมันเครื่อง ENEOS ว่าเป็นที่ยอมรับของบริษัทผู้ผลิตรถยนต์ญี่ปุ่น โดยสนับสนุนการแข่งขันรถยนต์ในประเทศไทย อาทิ การแข่งขัน ซูเพอร์จีที รวมถึงการส่งเสริมการตลาดแก่ร้านค้าผู้แทนจำหน่าย นอกจากนี้ต้องสร้างจุดแข็งให้แก่ผู้แทนจำหน่ายในเรื่องของราคาขาย ที่ปัจจุบันยังมีจุดอ่อนเนื่องจากผลิตภัณฑ์น้ำมันเครื่องในตลาดจะใช้กลยุทธ์ด้านราคา แต่บริษัท ฯ ไม่เน้นเรื่องการลดราคาเพื่อแข่งขันในตลาด ทำให้เกิดจุดอ่อนและเสียโอกาสในการขาย รวมถึงการพัฒนาผลิตภัณฑ์ให้เหมาะสมกับตลาดรถยนต์ในเมืองไทยที่ปัจจุบันมีเซกเมนท์เพิ่มมากขึ้น และมีการผลิตน้ำมันเครื่องออกสู่ตลาดแบ่งเป็นประเภทปลีกย่อยตามรุ่นของรถ สำหรับการรุกตลาดของน้ำมันเครื่อง ENEOS จะเน้นการเติบโตแบบมั่นคง โดยสร้างบแรนด์ให้เป็นที่รู้จักไปพร้อมกับบริษัท ฯ เพราะถือเป็นน้องใหม่ในตลาด โดยจะค่อยๆ แทรกเข้าไปในบแรนด์ที่มีอยู่แล้ว ควบคู่กับการโฆษณา ประชาสัมพันธ์ ส่งเสริมการขาย และการเข้าไปสนับสนุนการแข่งขันรถยนต์ที่ปัจจุบันในประเทศไทยได้รับความนิยมมากขึ้น พร้อมทั้งมีสนามรองรับในการแข่งขัน ฟอร์มูลา : ช่องทางการจัดจำหน่าย ? มัทสึอิ : ศูนย์บริการรถยนต์ อู่รถยนต์ และตัวแทนจำหน่ายทั่วประเทศ ปัจจุบันมีอยู่ประมาณ 130 ราย และกำลังเร่งขยายเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ฟอร์มูลา : คุณมองว่าตลาดน้ำมันเครื่องในประเทศไทยเป็นอย่างไร ? มัทสึอิ : สำหรับในปีนี้มองว่าเศรษฐกิจในประเทศไทยนั้นได้รับผลกระทบหลายทาง รวมถึงสถานการณ์ทางการเมืองทำให้หลายฝ่ายคาดการณ์ว่าจีดีพีของประเทศจะไม่มีการเติบโต ส่วนยอดขายของรถยนต์ในปีนี้ก็ตกลงอย่างมากจากปีที่แล้ว คาดว่าปีนี้จะมียอดขายไม่ถึง 900,000 คัน ผลิตภัณฑ์น้ำมันเครื่อง ถือว่ามีความจำเป็นที่รถยนต์ทุกคันจะต้องใช้ แต่อย่างไรก็ตามยอดขายไม่ได้เติบโตเพิ่มขึ้น โดยปัจจุบันยังทรงตัวอยู่ ซึ่งจากการคาดการณ์ของการกระตุ้นตลาดในช่วงครึ่งปีหลังหากยอดขายรถยนต์มีการเติบโตเพิ่มขึ้น คาดว่าผลิตภัณฑ์น้ำมันเครื่องก็จะมีการเติบโตเพิ่มขึ้นตามไปด้วย รวมถึงจะเน้นเรื่องประหยัดพลังงาน และรักษาสิ่งแวดล้อม