CADILLAC CTS-V SEDAN CARBON BLACK PACKAGE ยอดรถซีดานสายเลือดอเมริกันพันธุ์แท้รถแรงรวม 5 ชุดที่ผ่านตากันไปเรียบร้อยแล้วล้วนเป็นผลงานใหม่ๆ ของผู้ผลิตรถยนต์สัญชาติเยอรมัน แต่ที่เหลืออีก 3 ชุดนับแต่นี้ เดินทางข้ามโลกข้ามมหาสมุทรมาไกลกว่า เพราะทั้งหมดเป็นรถที่ผลิตในทวีปอเมริกา ชุดแรกที่กำลังอวดรูปทรงองค์เอวอยู่นี้เป็นผลงานของยักษ์ใหญ่เมืองมะกัน คือ เจเนอรัล มอเตอร์ส คัมพานี (GENERAL MOTORS COMPANY) ที่นิยมเรียกกันโดยย่อว่า จีเอม (GM) ในช่วงเวลากว่า 1 ทศวรรษที่ผ่านมานี้ ยอดผู้ผลิตรถหรูของสหรัฐอเมริกาบรรจุรถแรงติดป้ายชื่อ แคดิลแลค ซีทีเอส-วี ซีดาน (CADILLAC CTS-V SEDAN) เข้าสู่สายการผลิตซึ่งตั้งอยู่ที่เมืองแลนซิง (LANSING) ในรัฐมิชิแกนไปแล้วรวม 3 รุ่น คือ รุ่นแรกซึ่งอยู่ในตลาดระหว่างปี 2004-2007 รุ่นที่ 2 ซึ่งตามมาในปี 2007 และรุ่นปัจจุบันซึ่งเป็นรถรุ่นที่ 3 เพิ่งเริ่มจำหน่ายในฐานะรถรุ่นปี 2016 นี่เอง ส่วนรถชื่อยาวกว่าขบวนรถไฟ แคดิลแลค ซีทีเอส-วี ซีดาน คาร์บอน บแลค แพกเคจ (CADILLAC CTV-S SEDAN CARBON BLACK PACKAGE) ที่กำลังอวดรูปโฉมอยู่ขณะนี้ เป็นรถรุ่นปีโมเดล 2017 มีชื่อรุ่นยาวกว่ารถอนุกรมเดียวกันโมเดลอื่นๆ เนื่องจากมีการติดตั้งชุดแต่งซึ่งมีชื่อว่า CARBON BLACK PACKAGE มาพร้อมสรรพจากโรงงาน เป็นชุดตกแต่งพิเศษซึ่งช่วยเสริมรูปลักษณ์ทั้งภายนอกและภายในได้อย่างดี ตัวอย่างเช่น กรอบกระจังหน้าที่ออกแบบขึ้นเป็นพิเศษ กระทะล้อสีดำ AFTER MIDNIGHT สปอยเลอร์เคลือบสีเดียวกันตัวถัง และเก้าอี้ที่นั่งคู่หน้าเป็นเก้าอี้ของ เรคาโร (RECARO) ฯลฯ เริ่มจำหน่ายแล้วในฐานะรถรุ่นปี 2017 พร้อมกับป้ายค่าตัว MSRP (MANUFACTURER'S SUGGESTED RETAIL PRICE) ซึ่งเริ่มต้นที่ระดับ 94,940 เหรียญสหรัฐ ฯ หรือเท่ากับประมาณ 3.32 ล้านบาทไทย เป็นราคาที่มีสีตัวถังให้เลือกรวม 5 สี คือ สีดำ BLACK RAVEN สีแดง VELOCITY RED สีเทา PHANTOM GRAY METALLIC สีแดง RED OBSESSION TINICOAT และสีขาว CRYSTAL WHITE TRICOAT โดยที่สีแรกไม่ต้องเพิ่มค่าตัว แต่อีก 4 สีที่เหลือต้องจ่ายเพิ่มนิดหน่อย ส่วนสีของห้องโดยสารมีให้เลือก 2 แบบ คือ สีดำ JET BLACK ล้วนๆ กับสีเทา LIGHT PLATINUM แซมสีดำ JET BLACK ไม่ว่าจะเลือกตัวถังสีไหน ? เลือกห้องโดยสารสีใด ? ทุกคันล้วนเป็นรถซีดานติดป้ายชื่อ แคดิลแลค ที่แรงที่สุดและเร็วที่สุดในสายการผลิตปัจจุบัน เพราะติดตั้งเครื่องยนต์เบนซินฉีดเชื้อเพลิงโดยตรง OHV วี 8 สูบ 6,162 ซีซี ติดซูเพอร์ชาร์เจอร์ ซึ่งให้กำลังสูงสุดที่สูงถึง 477 กิโลวัตต์/640 แรงม้า ที่ 6,400 รตน.รวมทั้งให้แรงบิดสูงสุดที่สูงถึง 855 นิวตัน-เมตร/87.2 กก.-ม.ที่ 3,600 รตน. พละกำลังเครื่องยนต์อันล้นเหลือที่ว่านี้ส่งทอดสู่ล้อคู่หลังผ่านระบบเกียร์อัตโนมัติ 8 จังหวะ HYDRA-MATIC 8L90 [table]