MEET THE MASTER (formula)
THAI AUTOMOTIVE DESIGNERS MEET THE MASTERS
ฉบับนี้ก็ยังคงเป็นเรื่องราวของนักออกแบบจากค่ายรถยนต์ฝรั่งเศส แต่มีความแตกต่างกันไม่น้อย เพราะเขาผู้นั้น คือ ชาวเอเชียที่ได้รับการยอมรับเป็นอย่างสูงในวงการออกแบบรถยนต์ของยุโรป นับเนื่องต่อจาก เคน โอคุยามะ (KEN OKUYAMA) นักออกแบบรุ่นใหญ่ชาวญี่ปุ่น ผู้ฝากผลงานอันเลื่องชื่ออย่าง แฟร์รารี เอนโซ (FERRARI ENZO) ไฮเพอร์คาร์ของค่ายม้าลำพองในช่วงยุคมิลเลนเนียมสำหรับพวกเราแล้ว ชื่อ แอนโธนี โล (ANTHONY LO) อาจไม่เป็นที่รู้จักคุ้นเคยกันมากนัก แต่ถ้ากล่าวถึงผลงานเด่นในอดีตของเขาอย่าง ซาบ แอโร เอกซ์ (SAAB AERO X) เมื่อครั้งดำรงตำแหน่ง ผู้อำนวยการฝ่ายออกแบบรถแนวคิด หรือ ADVANCE DESIGN ของค่าย เจเนอรัล มอเตอร์ส (จีเอม) คงจะปฏิเสธไม่ได้ว่า ชายหนุ่มคนนี้ ไม่ธรรมดา เพราะวิสัยทัศน์ของเขา คือ การกำหนดทิศทางการออกแบบของรถยนต์ในอนาคตนั่นเอง ปัจจุบัน แอนโธนี โล เป็นรองประธานฝ่ายออกแบบตัวถัง และรถแนวคิดของบแรนด์ เรอโนลต์ 1 ใน 3 ยักษ์ใหญ่ของประเทศฝรั่งเศส และเป็นบริษัทที่มีสตูดิโอออกแบบใหญ่ที่สุดในยุโรป โดยรับผิดชอบรถยนต์ 4 บแรนด์ นั่นคือ เรอโนลต์ ดาเซีย (DACIA) ซัมซุง (SAMSUNG) และ อัลไพน์ (ALPINE) แอนโธนี โล เป็นคนฮ่องกงโดยกำเนิด จบการศึกษาระดับปริญญาตรีจากมหาวิทยาลัยฮ่องกง โพลีเทคนิค และระดับปริญญาโท จากรอยัล คอลเลจ ออฟ อาร์ท แห่งกรุงลอนดอน หรือที่รู้จักกันในชื่อของ อาร์ซีเอ อันเป็นหนึ่งในโรงเรียนออกแบบรถยนต์ชั้นนำของยุโรป การที่คนเอเชียจะขึ้นมาดำรงตำแหน่งระดับสูง ในองค์กรของคนฝรั่งเศส ที่ประเทศฝรั่งเศส ซึ่งขึ้นชื่อว่าเรื่อง “เจ้ายศเจ้าอย่าง” ที่สุดประเทศหนึ่งในโลกนั้น ได้สะท้อนความสามารถ และวิสัยทัศน์ของ แอนโธนี โล ได้ไม่น้อย และสิ่งเหล่านั้นแสดงออกผ่านผลงานอันน่าทึ่งของเขา และทีมงานอย่างเห็นได้ชัด การบรรยายเริ่มขึ้น ด้วยการนำเสนอกลยุทธ์ทางการออกแบบของ เรอโนลต์ ที่รู้จักกันในชื่อ “ดอกไม้แห่งชีวิต” หรือ (LIFE FLOWER) อันเป็นแนวคิดที่ โล ทำร่วมกันกับนักออกแบบคนดังของ เรอโนลต์ อีกคน คือ เลาเรนส์ ฟาน เดน อักเคร์ (LAURENS VAN DEN ACKER) อันเป็นแนวทางที่ถูกวางไว้เพื่อนำเสนอ เรอโนลต์ ในรูปแบบต่างๆ สำหรับแต่ละช่วงเวลาของชีวิต อันเป็นเสมือนแผนระยะยาว ซึ่งต่างไปจากค่ายรถยนต์อื่นๆ ที่ชอบจะนำเสนอสิ่งใหม่ๆ ในแต่ละปี แต่ผลงานของพวกเขานั้น ในแต่ละปีจะเป็นเรื่องราวที่เกิดขึ้นในช่วงเวลาต่างๆ ของชีวิต ผ่านรถแนวคิดในรุ่นต่างๆ ของ เรอโนลต์ ที่ได้ถูกนำเสนอออกมาอย่างต่อเนื่อง แนวคิดดอกไม้แห่งชีวิตนี้ ริเริ่มขึ้นในปี 2010 โดยกำหนดให้เป็นดอกไม้ 6 กลีบ โดยแต่ละกลีบจะเป็นตัวแทนของชีวิตในช่วงต่างๆ นับตั้งแต่ การตกหลุมรัก การผจญภัยในโลกกว้าง สร้างครอบครัว มุ่งมั่นการงาน สนุกสนานกับชีวิต และตกผลึกภูมิปัญญา ซึ่งทั้ง 6 กลีบนี้ คือ การสร้างอัตลักษณ์ใหม่ให้กับบแรนด์ เรอโนลต์ ในช่วงเวลานั้น โล ยอมรับว่าเขาเองก็ไม่รู้อนาคตงานออกแบบของ เรอโนลต์ ว่าตามแผนนี้จะเป็นเช่นไร แต่ที่แน่ๆ คือ หากออกแบบจนครบรอบ เราจะได้เห็นรถยนต์ เรอโนลต์ สำหรับทุกช่วงเวลาของชีวิตนั่นเอง เริ่มต้นด้วยกลีบแรก สีแดง กลีบแห่ง “การตกหลุมรัก” (LOVE) ถูกนำเสนอผ่านรถสปอร์ทแนวคิดที่มีชื่อว่า “ดีไซเออร์” (DEZIR) หรือ “ความปรารถนา” ในงานมหกรรมยานยนต์ปารีส 2010” แน่นอนว่ารถแนวคิดแต่ละคันนั้น เลือกใช้สีตรงตามกลีบ และ ดีไซเออร์ นั้นถูกพ่นด้วยสีแดงสดที่มีเนื้อสีใสเป็นพิเศษ ดีไซเออร์ เป็นรถที่เปิดตัวด้วยเอกลักษณ์กระจังหน้าแบบใหม่ของ เรอโนลต์ จากที่ก่อนหน้านั้นรถแต่ละรุ่นมีบุคลิกโฉมหน้าแตกต่างกันไป แต่ ดีไซเออร์ ได้นำรูปแบบของกระจังหน้าที่มีรูปโลโก ข้าวหลามตัดขนาดใหญ่ของ เรอโนลต์ มาวางเด่นเป็นสง่าด้วยความภาคภูมิใจ ขนาดที่ใหญ่กว่าที่เคยทำมา และอาจจะเป็นโลโกรถยนต์ที่ใหญ่ที่สุดคันหนึ่งก็ว่าได้ ล้อมด้วยครีบระบายอากาศสีเข้ม ที่มีรูปทรงล้อติดกับโลโกช่วยเสริมความโดดเด่น การออกแบบลักษณะนี้ ได้รับเสียงตอบรับที่ดีมากจากสาธารณชน และในรถแนวคิดนั้นมีการใช้ประตูรูปแบบพิเศษในลักษณะของปีกผีเสื้อ ที่เปิดสวนทางกันระหว่างที่นั่งคนขับและคนนั่ง อันแสดงออกถึงความแตกต่างกันระหว่างชายและหญิงนั่นเอง นอกจากนี้ ดีไซเออร์ ยังเป็นรถคันแรกที่แสดงออกถึงไวยากรณ์การออกแบบของ เรอโนลต์ ที่จะต่อกรกับสไตล์เหลี่ยมสันของรถยนต์จากเยอรมนี อย่าง โฟล์คสวาเกน และ เอาดี ด้วยเส้นสายที่ดูเย้ายวน และนุ่มนวล แม้จะไม่ได้ถูกนำไปผลิตจริง แต่รูปลักษณ์ของ ดีไซเออร์ ได้ถูกนำไปพัฒนาใช้กับรถแนวคิด อัลไพน์ เอ 110-50 (ALPINE A110-50) ที่สร้างขึ้นเพื่อฉลอง 50 ปี ของรถสปอร์ทฝรั่งเศสเลื่องชื่อ และสีแดงสดที่ถูกพัฒนาขึ้นใหม่นั้นก็ถูกนำไปใช้กับ รถยนต์รุ่น กลีโอ (CLIO) ในเวลาต่อมา กลีบต่อไป “การผจญภัยในโลกกว้าง” (EXPLORE) ถูกแทนที่ด้วยสีส้มนั้น นำเสนอผ่านทางรถแนวคิด กัปตือร์ (CAPTUR) ที่เปิดตัวในงานมหกรรมยานยนต์เจนีวา 2011 ในรูปแบบของรถสไตล์ครอสส์โอเวอร์ขนาดกะทัดรัด ที่ถูกพัฒนาบนพื้นฐานของรถครอสส์โอเวอร์ร่วมอุดมการณ์อย่าง นิสสัน จูค เป็นรถแนวคิดที่แสดงออกถึงจิตวิญญาณของคนหนุ่มสาวที่จะออกเดินทางท่องเที่ยว มีจุดเด่นอยู่ที่สัดส่วนที่กะทัดรัด และกระฉับกระเฉง โดดเด่นด้วยการใช้ประตูแบบปีกหงส์ (SWAN DOORS) รวมถึงช่วงล่างยกสูงที่มาพร้อมยางขนาดใหญ่ ปลุกอารมณ์การผจญภัยค้นหาประสบการณ์ใหม่ๆ ให้ชีวิต ส่วนกระจังหน้าเป็นการพัฒนามาจากรุ่น ดีไซเออร์ ได้อย่างไม่เคอะเขิน เมื่อถูกพัฒนาเป็นรถพโรดัคชันคาร์ แม้จะถูกดัดแปลงไปมาก โดยปรับเป็นรถสไตล์ครอสส์โอเวอร์ 5 ประตู และใช้พื้นฐานร่วมกับ กลีโอ แต่ก็ยังมีกลิ่นอายบางส่วนใกล้เคียงกับรถแนวคิด และเป็นรถที่ได้รับความนิยมสูงรุ่นหนึ่งในยุโรป กลีบถัดมา คือ “สร้างครอบครัว” (FAMILY) ที่แทนค่าด้วยสีเหลือง ถูกนำเสนอผ่าน อาร์-สเปศ (R-SPACE) รถแนวคิดเพื่อครอบครัวขนาดเล็กกะทัดรัด โดยเปิดตัวร่วมกับ กัปตือร์ ในงานมหกรรมยานยนต์เจนีวา 2011 ภายในรถออกแบบให้มีพื้นที่ภายในปรับเปลี่ยนได้หลากหลาย ซึ่งต่อมาได้พัฒนาเป็น เรอโนลต์ เซนิก (RENAULT SCENIC) รถครอบครัวที่ขายดีที่สุดรุ่นหนึ่งของยุโรปในปัจจุบัน โดยเป็นรถที่เก็บแนวคิดการออกแบบของ อาร์-สเปศ ไว้ค่อนข้างมาก และมีจุดเด่นที่การเลือกใช้ล้อขนาด 20 นิ้ว แต่มีหน้ายางแคบ ขนาด 195/55 อาร์ 20 ซึ่งต้องพัฒนาขึ้นเป็นพิเศษเนื่องจากไม่มีขายในท้องตลาดขณะนั้น ซึ่งผลที่ได้ คือ ยางหน้าแคบทำให้ประหยัดน้ำมัน ถือเป็นครั้งแรกสำหรับรถครอบครัวขนาดกะทัดรัด โดยทำให้รถรุ่น เซนิก นั้นมีสัดส่วนสวยงามกว่ารถในพิกัดเดียวกันในท้องตลาด กลีบถัดมา เป็นเรื่องราวของ “การงาน” (WORK) ซึ่งถูกนำเสนอด้วยสีเขียว ผ่านทางรถแนวคิด ฟเรนด์ซี โดยเป็นรถที่มีแนวคิดคล้ายกับ รถตู้ ผสม รถกระบะ คือ รถอเนกประสงค์ ที่มีหน้าที่หลากหลาย และใช้บรรทุกได้ดี ซึ่งถือได้ว่าเป็นการร่วมแนวคิดกับรถรุ่น กังกู (KANGOO) รถตู้ขนาดเล็กของ เรอโนลต์ เปิดตัวในงานมหกรรมยานยนต์ฟรังค์ฟวร์ท 2011 โดยมีจุดเด่นที่การออกแบบตัวถังแบบ “อสมมาตร” ด้านซ้าย/ขวา แตกต่างกัน สะท้อนให้เห็นถึงความอเนกประสงค์ของรูปทรง คือ จะใช้บรรทุกแบบรถตู้ หรือใช้โดยสารก็ทำได้ดีเช่นกัน กลีบต่อไป คือ “การเล่น” (PLAY) เมื่อเราทำงานมาจนเหนื่อย พอถึงเวลาพักก็อยากจะสนุกบ้าง รถแนวคิดรุ่น ทวิง'รัน (TWIN’RUN) รถ “ซิ่ง” ขนาดจิ๋ว ในกลุ่มเอ-เซกเมนท์ ที่มาพร้อมกับสีฟ้าสด อันเป็นสีของ “รถแข่งฝรั่งเศส” และไฟสปอทไลท์ทรงสี่เหลี่ยม 4 ดวง คือ ตัวแทนของความสนุกสนานที่ทุกคนสัมผัสได้ และเปิดตัวในงานแข่งรถ เอฟ 1 โมนาโค กรองด์ปรีซ์ ปี 2013 แน่นอนว่าด้วยเส้นสายต่างๆของ ทวิง'รัน หากเป็นแฟนรถฝรั่งเศสจะรู้ได้ทันทีว่านี่คือ รถที่ได้รับแรงบันดาลใจมาจาก เรอโนลต์ อาร์ 5 เทอร์โบ รถแข่งแรลลีที่มีชื่อเสียงในอดีต ด้วยรูปทรงและแนวคิดได้ถูกถ่ายทอดไปยังรถจิ๋วรุ่น “ทวิงโก” (TWINGO) เจเนอเรชัน 3 ในปี 2014 สิ่งที่พิเศษกว่ารถรุ่นอื่นๆ ในพิกัดเดียวกันก็คือ ทวิงโก นั้นเป็นรถที่ฉีกแนวจากอีโคคาร์คันอื่นๆ ที่วางเครื่องหน้า และขับเคลื่อนล้อหน้า โดย ทวิงโก เป็นรถที่พัฒนาร่วมกับ บริษัท สมาร์ท ในรุ่น ฟอร์ทู โดยผลิตที่โรงงานเดียวกันในประเทศสโลเวเนีย ทวิงโก ถูกออกแบบให้วางเครื่องยนต์ 3 สูบ ความจุ 900 ซีซี อยู่ด้านท้าย และขับเคลื่อนล้อหลัง การวางเครื่องด้านท้ายนี้มีข้อดีหลายประการ ประการแรกก็คือ การที่ไม่มีเพลาขับด้านหน้า ทำให้วงเลี้ยว ทำได้แคบกว่ารถขับเคลื่อนล้อหน้าทั่วไป เหมาะกับสภาพเมืองในยุโรป รวมถึงช่วยให้มีพื้นที่ห้องโดยสารกว้างขวาง แต่อาจจะมีพื้นที่สัมภาระเล็กไปบ้าง แต่เสน่ห์ของการออกแบบ และการขับขี่นั้นชนะใจคนใช้รถเล็กในยุโรปเป็นอย่างมาก และคว้ารางวัลมาได้ไม่น้อย รวมถึงทำยอดขายได้ดีจนน่าพอใจ กลีบสุดท้ายก็คือ “การตกผลึกทางปัญญา” หรือ WISDOM ซึ่งนำเสนอผ่านทางรถหรู อย่าง อินีซิอาล ปารีส์ (INITIALE PARIS) “สีม่วง” ที่เปิดตัวในงานมหกรรมยานยนต์ฟรังค์ฟวร์ท 2013 ด้วยรูปแบบ เอมพีวี ขนาดกลางที่หรูหรา โอ่อ่า รูปทรงที่จะถูกพัฒนาต่อไปเป็น เอสปาศ (ESPACE) เจเนอเรชัน 5 ที่หรูหรากว่าทุกรุ่นที่เคยมีมา โดยรถแนวคิด อินีซิอาล ปารีส์ รูปทรงสัดส่วนแทบไม่แตกต่างกับรถ เอสปาศ ที่ขายจริงในเวลาต่อมาเลย แต่มีจุดเด่นที่หลังคา โครงอลูมิเนียมผสมกับอครีลิคเป็นแผนที่ของกรุงปารีส ที่เรียกว่า “ภูมิปัญญา” เพราะ เอสปาศ ถือเป็นรถที่ เรอโนลต์ ให้กำเนิดในตลาดที่เรียกว่า เอมพีวี ขับเคลื่อนล้อหน้าที่สร้างขึ้นบนพื้นฐานของโครงสร้างโมโนคอกเป็นครั้งแรกในทศวรรษที่ 80 และ เอสปาศ คือ ความเป็นผู้มีแนวคิด ไม่ยึดติดกรอบ ถือเป็นแก่น และตัวตนของ เรอโนลต์ เหมือนกับตัวตนของ บีเอมดับเบิลยู ซีรีส์ 3 ที่แสดงถึงความสนุกสนานในการขับขี่ และตัวตนของ เมร์เซเดส-เบนซ์ เอส-คลาสส์ ที่แสดงออกถึงความเป็นที่สุดด้านคุณภาพ เมื่อครบกระบวนของ ดอกไม้ทั้ง 6 กลีบไปแล้ว ใช่ว่างานของ แอนโธนี โล จะจบลง เพราะในงานมหกรรมยานยนต์ปารีส 2016 พวกเขาได้เปิดตัวซูเพอร์คาร์พลังไฟฟ้า 2 ที่นั่ง ตเรโซร์ (TREZOR) รถที่เป็นตัวแทนของ “ความรัก” และคำมั่นสัญญาของหนุ่มสาว ถือได้ว่านี่คือ การวนกลับมาของแนวคิดดอกไม้ 6 กลีบอีกครั้งนั่นเอง การตีความคำว่า “คำมั่นสัญญา” ระหว่างชายกับหญิง ถูกตีความด้วยภาพของ “แหวนหมั้น” นำไปสู่รูปทรงของ “กล่องแหวนหมั้น” (JEWELRY BOX) ซึ่งนำเสนอในรูปแบบรถยนต์ที่มีประตูเป็นสไตล์ฝาครอบ เหมือนกล่องแหวน แอนโธนี โล นำเอาสไตล์ประตูที่เคยใช้ใน ซาบ แอโร เอกซ์ ของเขากลับมาใช้อีกครั้งได้อย่างโดดเด่น ความเป็นชายและหญิง ถูกตีความผ่านทางพื้นผิว แม้ว่าในภาพนั้นเราอาจจะมองไม่เห็น แต่ในรถคันจริงซึ่งประกอบไปด้วยพื้นผิวที่มีสัมผัสแตกต่างกัน 2 ชนิด คือ ผิวที่ประกอบขึ้นจากรูปทรง 6 เหลี่ยม ที่ตัดกัน ผิวที่เรียบมัน เป็นตัวแทนของสองเพศ ส่วนกระจกและห้องโดยสารของรถนั้นเป็นสีแดงทั้งหมด แน่นอนว่าเมื่อนั่งอยู่ภายในรถ ทุกสิ่งที่เห็นโลกจะเป็นสีแดงทั้งหมด แต่ก็อาจจะสอดคล้องกับคติของคนไทยที่ว่า “ความรักทำให้โลกเป็นสีชมพู” ก็ได้เช่นกัน เรียกได้ว่าเป็นแนวคิดที่ “แรง” ใช้ได้ จะต้องจับตาดูว่า หลังจากรถแนวคิด ตเรโซร์ เราจะได้เห็นรถเพื่อการ “ผจญภัย” ของ เรอโนลต์ เป็นลำดับต่อไปหรือไม่ และ แอนโธนี โล กับพรรคพวกของเขาจะแสดงความคิดอะไรล้ำๆ ออกมาให้เราได้ทึ่งกันอีก
ABOUT THE AUTHOR
ภ
ภัทรกิติ์ โกมลกิติ
นิตยสาร 399 ฉบับเดือน มิถุนายน ปี 2560
คอลัมน์ Online : MEET THE MASTER (formula)