เป็นอีกเดือนหนึ่งที่ "ระเบียงรถใหม่" จะนำเสนอแต่รถขนาดเล็กล้วนๆ ไม่มีรถขนาดอื่นๆ สอดแทรกมาด้วยเลย มีทั้งรถขนาดเล็กอย่างที่นิยมเรียกในภาษาอังกฤษว่า SUBCOMPACT CAR ซึ่งน่าจะถ่ายทอดเป็นพากย์ไทยอย่างตรงตัวได้ว่า "รถขนาดเล็กกว่าเล็กกะทัดรัด" มีทั้งรถขนาดเล็กอย่างที่เรียกกันว่า COMPACT CAR หรือ "รถขนาดเล็กกะทัดรัด" และทั้งหมดเป็นรถขนาดเล็กจริงๆ เพราะคันที่โตที่สุดก็ยังยาวเพียง 4.456 ม. คือ ใกล้เคียงกับรถ โตโยตา วีออส (TOYOTA VIOS) และฮอนดา ซิที (HONDA CITY) ที่วิ่งกันเกลื่อนในบ้านเรานั่นเองดังที่จั่วหัวไว้ ขอเปิดระเบียงในเดือนนี้ด้วย บีเอมดับเบิลยู ซีรีส์-2 คูเป (BMW 2-SERIES) และบีเอมดับเบิลยู ซีรีส์-2 กาบริโอเลต์ (BMW 2-SERIES CABRIOLET) รถคูเปและรถเปิดประทุนขนาดเล็กที่สุดในสายการผลิตของค่าย "ใบพัดเครื่องบินสีฟ้าขาว" ต้นตอของรถ 2 แบบนี้ คือ รถขนาดเล็กกว่าเล็กกะทัดรัดติดป้ายชื่อ บีเอมดับเบิลยู ซีรีส์-1 (BMW 1-SERIES) ที่ยอดผู้ผลิตรถหรูของเมืองเบียร์เริ่มนำออกสู่ตลาดเมื่อปี 2004 ในช่วง 2-3 ปีแรกของการผลิตรถเล็กอนุกรมใหม่นี้มีตัวถังให้เลือกเพียง 2 แบบ คือ ตัวถัง 3 ประตูแฮทช์แบค กับตัวถัง 5 ประตูแฮทช์แบค ซึ่งมีขนาดตัวถัง 4.239x1.748x1.421 ม. เท่ากัน คนรักรถเล็กต้องรอจนถึงเดือนกันยายน 2007 นั่นแหละจึงมีโอกาสสัมผัสรถอนุกรมนี้ในตัวถังคูเปขนาด 4.360x1.748x1.423 ม. ซึ่งปรากฏตัวแบบ "ครั้งแรกในโลก" ที่งานมหกรรมยานยนต์ฟรังค์ฟวร์ท และเริ่มการจำหน่าย 2 เดือนหลังจากนั้น ส่วนตัวถังเปิดประทุน หรือกาบริโอเลต์ ปรากฏตัวให้เห็นเป็นครั้งแรกที่งานมหกรรมยานยนต์ดีทรอยท์ ในสหรัฐอเมริกา กลางเดือนมกราคมปีถัดมา และเริ่มการจำหน่ายไตรมาส 2 ของปีเดียวกัน ในตัวถังขนาด 4.360x1.748x1.411 ม. ปลายปี 2011 รถ ซีรีส์-1 ตัวถังแฮทช์แบค ถูกปลดจากสายการผลิตแล้วแทนที่ด้วยรถรุ่นที่ 2 ซึ่งมีขนาดตัวถังโตขึ้นเล็กน้อย คือ 4.324x1.765x1.421 ม. ส่วนตัวถังอีก 2 แบบต้องรอประมาณ 2 ปีหลังจากนั้น กล่าวคือ รถคูเปในตัวถังขนาด 4.432x1.774x1.418 ม. เปิดตัวที่งานมหกรรมยานยนต์ดีทรอยท์ เดือนมกราคม 2014 ส่วนรถกาบริโอเลต์เปิดตัวที่งานมหกรรมยานยนต์ปารีส ต้นเดือนตุลาคมปีเดียวกัน อย่างไรก็ตาม ด้วยนโยบายการตั้งชื่อรุ่นของรถที่ค่าย "ใบพัดเครื่องบินสีฟ้าขาว" เพิ่งกำหนดขึ้นใหม่ รถคูเปและรถเปิดประทุนรุ่นใหม่นี้จึงมิได้ติดป้ายชื่อเดิม แต่เปลี่ยนเป็น BMW 2-SERIES COUPE และ BMW 2-SERIES CABRIOLET เฉกเช่นเดียวกับที่รถ BMW 3-SERIE COUPE และ BMW 3-SERIES CABRIOLET เปลี่ยนชื่อเป็น BMW 4-SERIES COUPE และ BMW 4-SERIES CABRIOLET นั่นเอง ส่วนที่กำลังอวดโฉมอยู่ในขณะนี้เป็นรถรุ่นใหม่ เพิ่งเริ่มการจำหน่ายในเมืองเบียร์และอีกหลายประเทศในทวีปยุโรปเมื่อเดือนกรกฎาคมที่เพิ่งผ่านพ้นไปนี่เอง เป็นรถรุ่นใหม่ที่ไม่ใช่รุ่นใหม่แท้ หรือรุ่นใหม่หมดอย่างที่เรียกกันในภาษาฝรั่งว่า ALL-NEW แต่เป็นรถรุ่นเดิมที่ได้รับการปรับปรุงแบบ FACELIFT หรือ "ยกหน้า" มีการปรับปรุงเปลี่ยนแปลงรายละเอียดมากมายหลายจุด และเกือบทั้งหมดเกี่ยวข้องกับตัวถังทั้งภายนอกและภายในไม่ใช่ด้านเครื่องยนต์กลไก ตัวอย่างเช่น KIDNEY GRILLE หรือกระจังหน้ารูปไตมีขนาดกว้างขึ้น ดวงโคมไฟหน้าซึ่งเป็นไฟแอลอีดีออกแบบใหม่หมด ดวงโคมไฟท้ายปรับปรุงใหม่ เพิ่มกระทะล้อแบบใหม่ให้เลือกรวม 4 แบบ เพิ่มสีตัวถังอีก 3 สี คือ สีฟ้า MEDITERRANEAN BLUE สีฟ้า SEASIDE BLUE สีส้ม SUNSET ORANGE ปรับปรุงแผงหน้าปัดอุปกรณ์ซึ่งติดตั้งจอสัมผัสขนาด 8.8 นิ้ว และปรับปรุงระบบสื่อสารเริงรมย์ที่เรียกกันในภาษาอังกฤษว่า INFOTAINMENT OPERATING SYSTEM อย่างไรก็ตาม สำหรับผู้ที่ไม่ได้เป็นเจ้าของรถ 2 แบบนี้มาก่อน หรือไม่เคยสัมผัสรถ 2 แบบนี้มาอย่างจริงๆ จังๆ ก็เป็นเรื่องยากเหลือเกิน ที่เห็นแค่ตัวถังภายนอกแล้วจะกล้าชี้ชัดว่า นี่คือรถรุ่นใหม่ ในเมืองเบียร์ ตัวถังคูเปซึ่งค่าตัวรวมภาษีมูลค่าเพิ่มร้อยละ 19 เริ่มต้นที่ระดับ 29,750 ยูโร หรือเท่ากับประมาณ 1.190 ล้านบาทไทย มีรถให้เลือกรวม 9 โมเดล คือ 218I-220I-230I-218D-220D-220D XDRIVE-225D-M240I-M240I XDRIVE โดยที่โมเดลเริ่มต้น คือ BMW 218I COUPE ซึ่งเป็นรถขับล้อหลัง ติดตั้งเครื่องยนต์เทอร์โบเบนซินฉีดเชื้อเพลิงโดยตรง DOHC 3 สูบเรียง 1,499 ซีซี 100 กิโลวัตต์/136 แรงม้า และระบบเกียร์ธรรมดา 6 จังหวะ อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ทำได้ใน 8.8 วินาที ความเร็วสูงสุด 210 กม./ชม. ส่วนโมเดลหัวกะทิ คือ BMW M240I XDRIVE ซึ่งเป็นรถขับทุกล้อ ติดตั้งเครื่องยนต์เทอร์โบเบนซินฉีดเชื้อเพลิงโดยตรง DOHC 6 สูบเรียง 2,998 ซีซี 250 กิโลวัตต์/340 แรงม้า และระบบเกียร์อัตโนมัติ 8 จังหวะ STEPTRONIC อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ทำได้ใน 4.4 วินาที ความเร็วสูงสุด 250 กม./ชม. ส่วนตัวถังเปิดประทุนซึ่งค่าตัวรวมภาษีมูลค่าเพิ่มในเมืองเบียร์เริ่มต้นที่ 34,200 ยูโร หรือประมาณ 1.368 ล้านบาทไทย มีรถให้เลือก 8 โมเดล คือ 218I-220I-230I-218D-220D-225D-M240I-M240I XDRIVE รถโมเดลเริ่มต้น คือ BMW 218I CABRIOLET ซึ่งใช้ระบบขับชุดเดียวกันกับรถคูเป อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ทำได้ใน 9.4 วินาที ความเร็วสูงสุด 205 กม./ชม. ส่วนโมเดลหัวกะทิ คือ BMW M240I XDRIVE CABRIOLET ซึ่งก็ใช้ระบบขับชุดเดียวกับรถคูเปเช่นกัน อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ใช้เวลา 4.6 วินาที ความเร็วสูงสุด 250 กม./ชม. ในเมืองเบียร์ นอกจากรถที่ตกแต่งและติดตั้งอุปกรณ์แบบมาตรฐานแล้ว รถทั้ง 2 รุ่นนี้ยังมีการตกแต่งและติดตั้งอุปกรณ์พิเศษจากโรงงาน ให้เลือกสั่งซื้อโดยเพิ่มราคาอีกนิดหน่อยรวม 4 แบบ กำกับด้วยรหัส ADVANTAGE-SPORT LINE-LUXURY LINE-M SPORT นับแต่การออกตลาดเมื่อปี 2014 จนถึงการปรับปรุงแบบ "ยกหน้า" ในครั้งนี้ ยอดผู้ผลิตรถหรูของเมืองเบียร์สามารถขายรถคูเปและรถกาบริโอเลต์ อนุกรมนี้ไปแล้วมากกว่า 140,000 คัน ตลาดใหญ่ที่สุด คือ สหรัฐอเมริกา อังกฤษ และเยอรมนี นอกจากตัวถัง 2 แบบนี้ ปัจจุบันรถ ซีรีส์-2 ของค่าย "ใบพัดเครื่องบินสีฟ้าขาว" ยังมีตัวถังแบบอื่นๆ ให้คนรักรถเล็กรถจิ๋วเลือกใช้ได้อีก 2 แบบ คือ ตัวถัง 5 ประตู 5 ที่นั่ง ขนาด 4.342x1.800x1.555 ม. ซึ่งติดป้ายชื่อ BMW 2-SERIES ACTIVE TOURER กับตัวถัง 5 ประตู 5/7 ที่นั่ง ขนาด 4.556x1.800x1.641 ม. ซึ่งติดป้ายชื่อ BMW 2-SERIES GRAN TOURER