ปิด "ระเบียงรถใหม่" ในเดือนแห่งการชุมนุมรถเล็กรถจิ๋ว ด้วยผลงานใหม่ติดป้ายแดงของ "ราชาแห่งรถจิ๋วเมืองยุ่น" ซึ่งเพิ่งเริ่มการจำหน่ายในเมืองแม่เมื่อเดือนสุดท้ายของปีวอกหลอกเจ้านี่เอง รถเก๋งแฮทช์แบคขนาดเล็กกว่าเล็กกะทัดรัดติดป้ายชื่อ ซูซูกิ สวิฟท์ (SUZUKI SWIFT) ที่วิ่งกันกลาดเกลื่อนในบ้านเรานับเป็นรถรุ่นที่ 3 เริ่มออกโชว์รูมทั่วเกาะญี่ปุ่นเมื่อเดือนสิงหาคม 2010 และได้รับการปรับปรุงแบบเล็กๆ หรือ MINOR CHANGE ครั้งล่าสุดเมื่อเดือนกรกฎาคม 2013 ยักษ์เล็กเมืองยุ่นนำรถรุ่นนี้เข้าโครงการ "อีโคคาร์" ในประเทศไทย และประสบความสำเร็จอย่างงดงาม เพราะขายดิบขายดี ผู้คนแย่งกันซื้อแย่งกันจอง และแย่งกันขายใบจอง จนขับรถไปทางไหนก็เจอรถ สวิฟท์ วิ่งสวน หลังจากรถรุ่นที่ 3 อยู่ในตลาดมายาวนาน 6-7 ปี ตอนกลางเดือนมีนาคม 2016 ก็เริ่มมีภาพถ่ายของรถรุ่นใหม่ซึ่งหน้าตาดูดีกว่ารถรุ่นเดิมเผยแพร่ผ่านระบบอินเตอร์เนท แต่ต้องรออีก 9 เดือนหลังจากนั้นนั่นแหละจึงไม่จำเป็นต้องมีการสื่อข่าวแบบลับลวงพรางอีกต่อไป เพราะรถใหม่ซึ่งเป็นรถรุ่นที่ 4 ได้เริ่มการจำหน่ายในญี่ปุ่นดังที่กล่าวแล้วข้างต้น เช่นเดียวกับรถรุ่นเดิม รถรุ่นใหม่นี้มีตัวถังเพียงแบบเดียว คือ ตัวถัง 5 ประตูแฮทช์แบค ที่ออกแบบให้นั่งได้รวม 5 คนโดยไม่ต้องเบียดกันนัก เป็นตัวถังขนาด 3.840x1.695x1.500-1.525 ม. คือ แทบไม่แตกต่างเลยจากตัวถังของรถรุ่นเดิมซึ่งมีขนาด 3.850x1.695x1.500-1.535 ม. อย่างไรก็ตามแม้ตัวถังมีขนาดคงเดิมแต่น้ำหนักตัวกลับลดลงประมาณ 120 กก. เป็นตัวถังหน้าตาดีที่ออกแบบโดยใช้ชิ้นส่วนหลายชิ้นรวมทั้งพแลทฟอร์ม ร่วมกันกับรถในค่ายเดียวกันอีก 2 แบบ คือ รถเก๋งแฮทช์แบคขนาดเล็กกว่าเล็กกะทัดรัด ซูซูกิ บาเลโน (SUZUKI BALENO) กับรถกิจกรรมกลางแจ้งข้ามพันธุ์ขนาดมีนี ซูซูกิ อิกนิส (SUZUKI IGNIS) เป็นพแลทฟอร์มที่เพิ่งพัฒนาขึ้นใหม่เมื่อปี 2015 และตั้งชื่อว่า ฮาร์เทคท์ พแลทฟอร์ม (HEARTECT PLATFORM) มีทั้งรถขับล้อหน้า และรถขับทุกล้อ และมีระบบขับให้เลือกอย่างจุใจถึง 4 แบบ คือ ขับด้วยพลังของเครื่องยนต์เทอร์โบเบนซิน DOHC 3 สูบเรียง 996 ซีซี 75 กิโลวัตต์/102 แรงม้า (รหัสเครื่องยนต์ K10C) หรือด้วยพลังของเครื่องยนต์เบนซิน DOHC 4 สูบเรียง 1,242 ซีซี 67 กิโลวัตต์/91 แรงม้า (รหัสเครื่องยนต์ K12C) ซึ่งมีระบบเกียร์ให้เลือก 3 แบบ คือ เกียร์ธรรมดา 5 จังหวะ เกียร์อัตโนมัติ 6 จังหวะ และเกียร์อัตโนมัติ CVT ขับด้วยระบบไฮบริดซึ่งใช้เครื่องยนต์ K12C ทำงานร่วมกันกับมอเตอร์ไฟฟ้าขนาด 10 กิโลวัตต์/13.6 แรงม้า และระบบเกียร์อัตโนมัติ 5 จังหวะ สุดท้าย คือ ขับด้วยระบบ MILD HYBRID หรือไฮบริดอย่างอ่อน ซึ่งใช้เครื่องยนต์ K12C ทำงานร่วมกันกับมอเตอร์ไฟฟ้าขนาด 2.3 กิโลวัตต์/3.1 แรงม้า และเกียร์อัตโนมัติปรับอัตราทดต่อเนื่อง (เกียร์ CVT) รถเบนซินมีให้เลือก 4 โมเดลหลัก คือ SWIFT XG-SWIFT XL-SWIFT RS-SWIFT RST และแยกเป็น 13 โมเดลย่อย รถไฮบริด และรถไฮบริดแบบอ่อนก็มี 4 โมเดลหลัก คือ SWIFT HYBRID ML-SWIFT HYBRID SG-SWIFT HYBRID SL-SWIFT HYBRID RS แต่แยกเป็น 10 โมเดลย่อย ทั้งรถเบนซิน และรถไฮบริด มีสีตัวถังให้เลือกรวม 8 สี คือ สีแดง BURNING RED PEARL METALLIC สีน้ำเงิน SPEEDY BLUE METALLIC สีขาว PURE WHITE PEARL สีดำ SUPER BLACK PEARL สีเงิน STAR SILVER METALLIC สีน้ำตาล CLASSY BROWN METALLIC สีทอง HELIO GOLD PEARL METALLIC และสีฟ้า NEON BLUE METALLIC ค่าตัวรวมภาษีการบริโภคร้อยละ 8 รถเบนซินเริ่มต้นที่ 1.344 ล้านเยน หรือเท่ากับประมาณ 0.403 ล้านบาทไทย ส่วนรถไฮบริดเริ่มต้นที่ 1.625 ล้านเยน หรือเท่ากับประมาณ 0.488 ล้านบาทไทย