ช่วงปลายปีที่ผ่านมา ผมได้รับจดหมายเชิญจาก บริษัท มิตซูบิชิ มอเตอร์ส (ประเทศไทย) จำกัด ให้ร่วมเดินทางในทริพสุดพิเศษที่มิตซูบิชิ เชิญสื่อมวลชนจากทั่วโลก ร่วมชมงานมหกรรมยานยนต์โตเกียว 2017 และร่วมเปิดประสบการณ์สุดเอกซ์คลูซีฟ เข้าเยี่ยมชมศูนย์การผลิตและการออกแบบรถยนต์ มิตซูบิชิ ณ เมืองโอกาซากิ และพิเศษยิ่งขึ้นด้วย พโรแกรมทดลองขับ มิตซูบิชิ เอกซ์แพนเดอร์ เวอร์ชันอินโดนีเซีย ก่อนใครในประเทศไทย และมิตซูบิชิ เอาท์แลนเดอร์ พีเอชอีวี รถครอสส์โอเวอร์ เอสยูวี พลังไฟฟ้า ที่พลิกโฉมหน้าวงการรถเอสยูวีรุ่นเก่าๆ ที่เราคุ้นเคยกันดีว่า เครื่องยนต์ต้องใหญ่ แรงม้า แรงบิดเยอะๆ และมีอัตราการกินน้ำมันที่ “ซดฮวบๆ” ซึ่งตรงกันข้ามกับ มิตซูบิชิ เอาท์แลนเดอร์ พีเอชอีวี คันนี้ ที่กินน้ำมันน้อย วิ่งเงียบนอกจากนั้น ยังมีโอกาสร่วมงานเลี้ยงรับรองอย่างเป็นทางการของ มิตซูบิชิ มอเตอร์ส คอร์พอเรชัน ที่นายใหญ่ โอซามุ มาซูโกะ ซีอีโอของ มิตซูบิชิ มอเตอร์ส คอร์พอเรชัน ประเทศญี่ปุ่น พร้อมผู้บริหารระดับสูง ให้เกียรติร่วมพูดคุยกับสื่อมวลชนแบบเป็นกันเอง และหนึ่งในนั้นมี สึเนฮิโร คูนิโมโตะ ผู้ออกแบบรถ มิตซูบิชิ รุ่นใหม่ๆ ในยุคนี้ ผลงานของท่านนี้ที่เราคุ้นตากันก็คือ มิตซูบิชิ ปาเจโร สปอร์ท เวอร์ชันที่ขายอยู่ในตลาดเมืองไทย และล่าสุด คือ มิตซูบิชิ เอกซ์แพนเดอร์ ที่กำลังจะเปิดตัวในเดือนมกราคมนี้ ก่อนการเดินทาง ผมตั้งคำถามไว้ในใจว่ามิตซูบิชิ ยุคใหม่จะเป็นอย่างไร จะดีกว่าเดิมไหม ? หลังจากที่ เรอโนลต์ เข้ามาถือหุ้นใหญ่ นี่เป็นคำถามที่วนเวียนอยู่ในหัวผม และได้รับข้อมูลที่ช่วยไขข้อสงสัยหลายเรื่องทีเดียว โดยเฉพาะเรื่องความร่วมมือระหว่าง 3 ค่ายยักษ์ใหญ่ของโลกอุตสาหกรรมรถยนต์ เรอโนลต์ นิสสัน มิตซูบิชิ หลายคนสงสัยเหมือนผมว่า การเข้ามาของ เรอโนลต์ ที่มี การ์โลส โกส์น นั่งแท่นดูแล เรอโนลต์ และนิสสัน เขาคนนี้ช่วยพลิกฟื้นสถานการณ์ที่ไม่ค่อยจะสู้ดีของ นิสสัน ให้กลับมาดูไฉไลกว่าเดิม และการมาของเขาใน มิตซูบิชิ เราคิดไปล่วงหน้าว่า มิตซูบิชิ ต้องไฉไลและดีขึ้นกว่าเดิมแน่นอน ในภาพรวมระดับโลก มิตซูบิชิ มีรถหลากหลายรุ่นจำหน่ายอยู่ แต่ในเมืองไทย มิตซูบิชิ มีรุ่นรถที่จำหน่ายไม่มากนัก การเข้ามาของ เรอโนลต์ นิสสัน จะส่งผลดีอะไรบ้างต่อ มิตซูบิชิ นี่เป็นคำถามแรกที่เราถามกับ โอซามุ มาซูโกะ ท่านตอบคำถามแบบเรียบง่ายว่า จะเป็นการดีต่อมิตซูบิชิ เพราะจะมีการส่งเสริมเรื่องพโรดัคท์, อาร์ดี, การผลิต, การจัดซื้อ, การจำหน่าย, การตลาด, การบริการ, การขนส่ง และเทคโนโลยีต่างๆ แต่จะไม่มีการจำกัดว่า ใครจะผลิตเฉพาะรถเก๋ง รถกระบะ หรือรถครอสส์โอเวอร์ แต่จะเป็นการส่งเสริมให้แต่ละบแรนด์ ได้ผลิตรถในแบบของตนเอง ซึ่งแนวคิดนี้ เริ่มเป็นรูปเป็นร่างแล้ว และจะสมบูรณ์แบบภายในปี 2020 ส่วนตลาดในเมืองไทย มิตซูบิชิ มอเตอร์ส คอร์พอเรชัน ให้ความสำคัญมาก ในปี 2016 ที่ผ่านมา เมืองไทยเป็นฐานการผลิตและส่งออกเบอร์หนึ่งของ มิตซูบิชิ ทั่วโลก สำหรับแผนการเปิดตัวรถรุ่นใหม่ ภายในปี 2020 จะเปิดตัวรถใหม่ 9 รุ่น ส่วนรุ่นที่จำหน่ายในเมืองไทย จะมีพโรเจคท์ ครอสส์โอเวอร์ เอสยูวี, มิราจ ในพโรเจคท์ อีโคคาร์ เฟส 2 ส่วนกระบะ ทไรทัน จะเป็นโฉมใหม่ ซึ่งจะเริ่มพโรเจคท์ในเร็วๆ นี้ นี่ยังไม่นับรวม พโรเจคท์ เอกซ์แพนเดอร์ ที่นำเข้าจากอินโดนีเซีย สำหรับตลาดรถไฟฟ้าในอนาคตอันใกล้นี้ มิตซูบิชิ จะมีรถไฟฟ้ารุ่นใหม่ พร้อมเปิดตัว อาทิ รุ่น เคอิ, เอาท์แลนเดอร์ พีเอชอีวี โมเดลใหม่ เป็นต้น ยุคต่อจากนี้ มิตซูบิชิ จะมีความพร้อมในการขับเคลื่อนธุรกิจ โดยมีรถรุ่นใหม่รอเปิดตัว 6 รุ่น พร้อมกันนี้ จะมีรถรุ่นไมเนอร์เชนจ์ เปิดตัวอีก 5 รุ่น ส่วนจะเป็นรุ่นไหนนั้น เราคงเดากันได้ไม่ยาก น่าสนใจยิ่งนักที่ มิตซูบิชิ พร้อมจะกลับมาทวงส่วนแบ่งตลาดคืน หลังจากที่ห่างหายไปนาน...