มีประสบการณ์อย่างหนึ่งที่ผู้เขียนไม่มี คือ การขี่มอเตอร์ไซค์ เพราะความที่เมื่อสาวๆ เป็นเด็กกรุง และเป็นเด็กเรียบร้อยเมื่อถึงเวลาจะขับขี่พาหนะก็กระโดดข้ามขั้นจากจักรยานมาเป็นรถเก๋งเลยน่าเสียดายยิ่งนัก บางครั้งมองไปที่รถมอเตอร์ไซค์แล้วก็คิดว่า มันจะทรงตัวอยู่ได้ด้วยความเร็วแบบง่ายๆ เลย หรือว่าต้องฝึกการพยุงตัว แต่รูปทรงหรืออารมณ์ของมอเตอร์ไซค์ ไม่ใช่สิ่งที่ดึงดูดใจผู้เขียน มันดูหนักเกินกำลังผู้หญิงตัวเล็กๆ อย่างเรา ผู้เขียนกลับถูกรถแบบ เวสปา ดึงดูดมากกว่า จำได้ว่าเห็นครั้งแรกที่ประเทศญี่ปุ่น มันจอดอยู่ข้างถนนในซอย มองเหลียวหลัง อยากทดลองขับ เพราะมันกะทัดรัด เหมาะกับแม่บ้าน และอะไรก็ตามที่เป็นอิตาเลียนดีไซจ์น ก็จะดูดีไปหมด ถูกใจ วันนี้ก็เลยเข้ามานั่งดูความเป็นมาของ เวสปา เวสปา เป็นมอเตอร์สกูเตอร์ ไม่ใช่ มอเตอร์ไซค์ บ้านเกิดอยู่ที่เมืองปอนเตเดรา ในแคว้นทัสกานี อิตาลี คนที่ผลิต คือ PIAGGIO & CO, SPA เริ่มผลิตเมื่อปี 1946 นับเป็นพาหนะที่โดนใจพวกวัยรุ่นที่เป็นพวกมอด ในยุคปี 50s และ 60s เมื่อพูดถึงมอด คนที่เป็นกลุ่มเบบีบูเมอร์ยังจำกางเกงขามอด และขาเดฟ ได้ดี รู้ไหมคะ คำว่า เวสปา ในภาษาอิตาลี แปลว่า ตัวต่อ ค่ะ แล้วทำไมจึงเป็นเช่นนั้น ย้อนหลังกลับไปยุคหลังสงครามโลกครั้งที่ 2 อิตาลีอยู่ในสภาพแพ้สงคราม และอุตสาหกรรมเครื่องบินอยู่ในสภาพถูกกดดันไม่ให้เติบโต โรงงานผลิตเครื่องบิน PONTEDERA ซึ่งเป็นเครื่องบินรบถูกถล่มยับ เศรษฐกิจอิตาลีง่อยเปลี้ย ถนนเสียหาย ไม่เอื้อให้อุตสาหกรรมรถยนต์ฟื้นคืนชีพขึ้นมา เอนริโก ปิอัจโจ (ENRICO PIAGGIO) เป็นบุตรชายของ รินัลโด ปิอัจโจ (RINALDO PIAGGIO) ซึ่งเป็นผู้ก่อตั้ง ปิอัจโจ (PIAGGIO) ก็ได้ตัดสินใจเดินหนีจากธุรกิจเครื่องบิน และหันมาจับธุรกิจยานยนต์ที่จำเป็นสำหรับอิตาลีในยามนั้น ยานพาหนะที่คิดว่าคนอิตาลีส่วนใหญ่จะได้ใช้ และทุกคนเป็นเจ้าของได้ในราคาย่อมเยา ปิอัจโจ หันมาผลิตเครื่องยนต์แบบง่ายๆ ในแบบ FOUR-PART P 108 ให้กับรถ เวสปา ทำไมจึงชื่อ เวสปา เพราะรูปทรงของมันเหมือนตัวต่อ และคำว่า VESPA แปลว่า ตัวต่อ ในภาษาอิตาเลียน รุ่นแรกที่สร้างขึ้นมาเรียกกันว่า เอมพี 5 (MP5: MOTO PIAGGIO NO.5) แต่ต่อมาก็ได้มีการพัฒนาแบบโดยดีไซจ์เนอร์ชื่อ อัสกานีโอ (ASCANIO) เป็นวิศวกรเครื่องบินซึ่งมีรสนิยม เขาไม่ชอบรูปร่างหน้าตาของรถมอเตอร์ไซค์ เขาบอกว่ามันดูหนัก เทอะทะ และสกปรก ในเดือนธันวาคม ปี 1945 รถ เวสปา รุ่น เอมพี 6 ก็ถูกผลิตออกมาด้วยองค์ประกอบหลายอย่างที่สะดวกสบาย มีล้ออะไหล่ซึ่งขับขี่แบบง่ายๆ ถ้าในเวลาขับขี่รถติดก็มีที่กำบังกันน้ำกระเด็นใส่ เอนริโก ได้ฟังเสียงรถ เอมพี 6 เขาร้องออกมาว่า "มันเหมือนตัวต่อร้องเลย" ตั้งแต่นั้นมา เอนริโก ก็เลยให้ชื่อเสียงเรียงนามเรียกรถนี้ว่า เวสปา ซึ่งแปลว่า ตัวต่อ (WASP) รุ่นนี้ทำจากซากชิ้นส่วนของเครื่องบิน มันคือ สกูเตอร์ หรือรถจักรยานยนต์คันเล็กๆ ที่มีล้อต่ำๆ ช่วยต่อการขับขี่ ไม่สิ้นเปลืองน้ำมัน และราคาไม่แพง รุ่นแรกเป็นสกูเตอร์ขนาดเล็กที่ใช้โครงสร้างตัวถังแบบชั้นเดียว หลังจากผลิตรถรุ่นดังกล่าวได้ประมาณ 100 คัน จึงลงมือผลิตรุ่นที่ใช้ชื่อว่า เวสปา วอซพ์ (WASP) ออกมา รถรุ่นนี้มีความก้าวหน้ามากทั้งในด้านรูปทรงและด้านวิศวกรรม ซึ่งต่อมาได้กลายเป็นต้นแบบของ เวสปา ที่มีการวางจำหน่ายในท้องตลาดจนถึงกลางทศวรรษที่ 90 สกูเตอร์รุ่นแรกมีขนาดเครื่องยนต์เพียง 98 ซีซี ต่อมาได้มีการพัฒนาให้มีขนาด 125 ซีซี, 150 ซีซี และ 200 ซีซี ตามลำดับ