นิสสัน นาวารา ใหม่ เยี่ยมศูนย์อภิบาลช้าง เชียงใหม่

นิสสัน ร่วมถ่ายทอดหลักการอนุรักษ์ธรรมชาติและการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน พร้อมพิสูจน์สมรรถนะรถกระบะพันธุ์แกร่ง นิสสัน นาวารา ใหม่ รุ่นปี 2018 เดินทางไปดอยม่อนเงาะ ตามรอยในหลวงรัชกาลที่ 9 ที่ศูนย์อภิบาลช้าง (ELEPHANT NATURE PARK) อำเภอแม่แตง ภายใต้โครงการ “แค่ใจก็เพียงพอ ตามพ่อที่พอเพียง” พบกับ แสงเดือน ชัยเลิศ บุคคลต้นแบบ

การเดินทางครั้งนี้ เริ่มต้นขึ้นจากศูนย์บริการ สยามนิสสัน เชียงใหม่ โดยใช้ นิสสัน นาวารา ใหม่ รุ่นปี 2018 เพื่อนำทางไปยังอำเภอแม่แตง วิ่งสู่ทางหลวงชนบท 3052 ขึ้นไปยังบริเวณยอดดอยม่อนเงาะ   นิสสัน นาวารา ใหม่ รถกระบะพันธุ์แกร่ง ทั้งแบบ 4 ประตู (DOUBLE CAB) และ 2 ประตู แคบเปิดได้ (KING CAB) ขับเคลื่อน 4 ล้อ (4WD) และขับเคลื่อน 2 ล้อยกสูง (CALIBRE) มีขุมพลังเครื่องยนต์ดีเซลเทอร์โบชาร์จ ขนาด 2.5 ลิตร ให้กำลังสูงสุด 190 และ 163 แรงม้า ระบบส่งกำลังมีทั้งเกียร์อัตโนมัติ 7 จังหวะ และเกียร์ธรรมดา 6 จังหวะ ขับขี่ไปได้อย่างคล่องแคล่วและมั่นใจตามเส้นทางที่เป็นเนินเขา เส้นทางบนยอดดอยแคบมากที่จะกลับรถกระบะที่มีความยาวของตัวถัง แต่ด้วยเทคโนโลยีการเคลื่อนที่อัจฉริยะ (NISSAN INTELLIGENT MOBILITY) อย่างกล้องอัจฉริยะมองภาพรอบทิศทาง (INTELLIGENT AROUND VIEW MONITOR หรือ AVM) ช่วยลดปัญหาได้   เมื่อถึงศูนย์พัฒนาเด็กเล็กดอยม่อนเงาะ สื่อมวลชนพร้อมผู้เข้าร่วมทั้งหมดจะส่งมอบอุปกรณ์การเรียนการสอนให้แก่คุณครูที่ศูนย์พัฒนาเด็กเล็กดอยม่อนเงาะ ซึ่งเป็นองค์กรที่ไม่แสวงผลกำไรในจังหวัดเชียงใหม่ และให้ความรู้แก่นักเรียนเด็กเล็กกว่า 21 คน   เมื่อออกเดินทางต่อเข้าสู่ช่วงเส้นทางลงเขา สื่อมวลชนต้องขับลัดเลาะไปตามเส้นทาง เพื่อนำผลไม้นานาพันธุ์ปลอดสารพิษไปให้เป็นอาหารช้าง จึงเป็นการทดสอบสมรรถนะและความแกร่งด้านการบรรทุกหนัก รวมถึงเทคโนโลยีล้ำสมัยต่างๆ ของ นาวารา ได้เป็นอย่างดี อาทิ ระบบควบคุมเสถียรภาพการทรงตัว (VDC) ระบบช่วยการออกตัวขณะอยู่บนทางลาดชัน (HSA) และระบบช่วยควบคุมความเร็วขณะลงทางลาดชัน (HDC) ระบบอัจฉริยะเพื่อการขับขี่เหล่านี้ไม่เพียงมอบความสะดวกสบาย แต่ยังให้ความปลอดภัยต่อผู้ขับขี่และผู้โดยสารทุกคนอีกด้วย   หลังจากนั้นก็เดินทางพบกับ แสงเดือน ชัยเลิศ บุคคลต้นแบบของโครงการฯ ผู้ร่วมก่อตั้ง ศูนย์อภิบาลช้างในจังหวัดเชียงใหม่ ซึ่งได้รับแรงบันดาลใจจากสิ่งที่ในหลวงรัชกาลที่ 9 ได้ทำ และได้สอนไว้   เพื่อให้ครอบคลุมค่าใช้จ่ายในการดูแลสัตว์ที่พิการเกือบ 1,000 ตัว ประกอบด้วย ช้าง 75 ตัว กระบือ 150-170 ตัว สุนัข 500-600 ตัว และแมว 250 ตัว ศูนย์แห่งนี้จึงเปิดโอกาสให้มีอาสาสมัครเข้ามาช่วยเหลือและรับการบริจาคจากผู้สนใจทั่วโลก