เริ่มต้นเดือนแรกของปี 2561 กับข่าวคราวของยอดการจำหน่ายรถยนต์ ในเดือนมกราคม ด้วยอัตราการเจริญเติบโต 16.2 % ขายกันทั้งตลาดได้ 86,545 คัน ก็ต้องนับว่าเป็นข่าวดีข่าวแรกประจำปีทีเดียว ที่พอจะบอกได้ว่า สภาพเศรษฐกิจบ้านเรา เริ่มต้นเงยหน้า อ้าปาก กันได้อย่างคล่องคอแล้ว ทั้งที่เศรษฐกิจระดับโลก ยังฟื้นตัวกันอย่างช้าๆ แต่บ้านเรา กลับเร่งการฟื้นตัวอย่างรวดเร็ว โดยเฉพาะหลังจากการปลดลอคมาตรการรถคันแรกในอดีตได้แล้วเสร็จพอมองไปข้างหน้า ค่ายยักษ์ใหญ่ก็ออกมาระบุว่า ตลาดรถยนต์ในเดือนกุมภาพันธ์มีแนวโน้มดีขึ้น เป็นผลมาจากดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคที่มีแนวโน้มการปรับตัวที่ดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง สะท้อนให้เห็นถึงความมั่นใจในการบริโภคสินค้าในช่วงครึ่งแรกของปีนี้ โดยจะส่งผลในเชิงบวกต่อภาพรวมของเศรษฐกิจและตลาดรถยนต์ในประเทศ แม้ว่าจะมีปัจจัยลบจากราคาผลผลิตทางการเกษตรที่ยังคงทรงตัวอยู่ในระดับต่ำ การแข็งค่าของเงินบาท การขึ้นค่าแรงขั้นต่ำซึ่งส่งผลต่อต้นทุน และความกังวลเกี่ยวกับสถานการณ์การเมือง แต่ก็จะไม่ส่งผลกระทบต่อตลาดรถยนต์มากนัก อันนี้ก็ต้องฟังเสียงของพี่เบิ้มเอาไว้หน่อย เพราะดูจากรูปมวยแล้ว ปีนี้ พี่เบิ้มฟิทซ้อมมาดี แถมมีอาวุธหน้าตาใหม่ๆ จะเอามาแสดงในงานแสดงรถยนต์ในต้นเดือนเมษายน นี้ เตรียมโหมกระหน่ำเต็มที่ ต้องคอยฟังเสียงเชียร์ขอบเวทีดีๆ ก็แล้วกัน ว่าปีนี้ พี่เบิ้มกลับมาทวงตำแหน่งคืนแน่ ขณะเดียวกัน แผนงานการลงทุนของทั้งภาครัฐและเอกชนในประเทศมีทิศทางดีขึ้น โดยการลงทุนภาครัฐที่อยู่ในแผนการดำเนินงานปี 2561 และดำเนินล่าช้าในปี 2560 จะสามารถเริ่มดำเนินการก่อสร้างได้ในปี 2561 เช่น โครงการรถไฟทางคู่ 5 สาย โครงการรถไฟฟ้า รวมถึง โครงการรถไฟความเร็วสูง (กรุงเทพฯ-นครราชสีมา) ที่แม้จะเป็นระยะทางสั้นๆ แต่ก็คาดว่าจะส่งผลให้ภาพรวมการลงทุนภาครัฐมีเม็ดเงินลงทุนมากกว่าปีก่อนหน้านี้ ในขณะที่การลงทุนภาคเอกชน เริ่มเห็นสัญญาณที่ดีจากการลงทุนเครื่องมือเครื่องจักรที่โตต่อเนื่องสอดคล้องไปกับภาพการส่งออกที่ขยายตัวสูง โดยสำนักวิจัยได้ประเมินทิศทางเศรษฐกิจไทยปี 2561 คาดว่าจะยังคงขยายตัวได้ต่อเนื่องจากปี 2560 ที่ 4.0 % โดยมีการส่งออกและท่องเที่ยวที่ยังเป็นตัวขับเคลื่อนที่สำคัญ แม้ว่าการขยายตัวจะผ่อนแรงลงไปบ้างตามปัจจัยฐานที่ใหญ่ในปีก่อนหน้า แต่การลงทุนทั้งภาครัฐและเอกชนที่ขยายตัวดีขึ้น คาดว่า จะเข้ามาช่วยหนุนให้เศรษฐกิจไทยรักษาโมเมนทัมการเติบโตไว้ได้ อย่างไรก็ตาม ประเด็นที่ต้องติดตามคงอยู่ที่เรื่องความผันผวนของค่าเงินบาท รวมถึงต้นทุนทางการเงินที่อาจจะสูงขึ้น ซึ่งอาจจะมีผลต่อการเติบโตของเศรษฐกิจในระยะถัดไป แต่อย่างไรก็ตาม GDP ในไตรมาสที่ 4 ปี 2560 เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อนหน้านี้ กลับให้ภาพที่ชะลอลง ซึ่งหลักๆ เป็นผลมาจากการหดตัวของผลผลิตภาคเกษตรในไตรมาสที่ 4 ปี 2560 จากปัญหาอุทกภัย และสภาพอากาศที่ไม่เอื้ออำนวย ส่งผลให้ปริมาณผลผลิตภาคเกษตรหดตัวลง ประกอบกับราคาสินค้าเกษตรหลักที่ยังหดตัวต่อเนื่องในไตรมาสที่ 4 ปี 2560 ทำให้รายได้การเกษตรชะลอลงตามไปด้วย อย่างไรก็ตาม หากพิจารณาตัวเลขภาคการค้าส่งและค้าปลีกในไตรมาสดังกล่าว กลับขยายตัวสูงขึ้นสวนทางกับรายได้เกษตรกร ซึ่งนอกเหนือจากการใช้จ่ายของนักท่องเที่ยวที่เติบโตดีแล้ว ส่วนหนึ่งน่าจะเป็นอานิสงส์ของมาตรการภาครัฐ ในการช่วยเหลือผู้มีรายได้น้อย รวมถึงมาตรการเยียวยาเกษตรกรที่ได้รับผลกระทบจากอุทกภัย รวมถึงราคาสินค้าเกษตรที่ลดลง ตลาดรถยนต์ในเดือนกุมภาพันธ์มีแนวโน้มดีขึ้น เป็นผลมาจากดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคที่มีแนวโน้มการปรับตัวที่ดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง สะท้อนให้เห็นถึงความมั่นใจในการบริโภคสินค้าในช่วงครึ่งแรกของปีนี้ โดยจะส่งผลในเชิงบวกต่อภาพโดยรวมของเศรษฐกิจและตลาดรถยนต์ในประเทศ แม้ว่าจะมีปัจจัยลบจากราคาผลผลิตทางการเกษตรที่ยังคงทรงตัวอยู่ในระดับต่ำ การแข็งค่าของเงินบาท การขึ้นค่าแรงขั้นต่ำซึ่งส่งผลต่อต้นทุน และความกังวลเกี่ยวกับสถานการณ์การเมือง แต่ก็จะไม่ส่งผลกระทบต่อตลาดรถยนต์มากนัก นั่นคือความเป็นไปในรอบเดือนมกราคม ที่ผ่านมา ที่พอจะฉายภาพสภาวะเศรษฐกิจบ้านเรา ในปี 2561 นี้ได้ค่อนข้างชัดเจนทีเดียว ก็หวังว่าปีนี้ โบนัสน่าจะได้กันเพิ่มขึ้นถ้วนทั่วทุกตัวคนนะครับ ขอให้มีความสุขตลอดปี