อีกเพียงเดือนเดียวก็ถึงเดือนสุดท้ายของปีน้องหมาไม่กล้าเห่าหอนแล้ว จึงไม่สมควรด้วยประการทั้งปวงที่จะเสียเวลาพูดพล่าม นำเรื่องขอบอกกันอย่างตรงไปตรงมาไม่อ้อมไม่ค้อมว่า รถใหม่รวม 4 แบบที่นำเรื่องราวมาเล่าสู่กันฟังใน "ระเบียงรถใหม่" เดือนนี้ ล้วนเป็นรถสายพันธุ์ญี่ปุ่นและเป็นรถไฮบริด มีทั้งรถญี่ปุ่น ซึ่งมีซื้อมีขายในญี่ปุ่น มีทั้งรถญี่ปุ่นที่ไม่ต้องไปเสียเวลาเดินหาตามท้องถนนในญี่ปุ่น มีทั้งรถไฮบริดที่ไม่ต้องลำบากลำบนในการชาร์จไฟแบทเตอรี มีทั้งรถไฮบริดที่อาจต้องเป็นกังวลทั้งยามกลางวัน ยามกลางคืน ทั้งตอนอยู่ในบ้านและตอนอยู่นอกบ้าน เกี่ยวกับการเสียบปลั๊กเพื่อชาร์จไฟแบทเตอรีเริ่มกันที่รถติดป้ายชื่อ เลกซัส ยูเอกซ์-ซีรีส์ (LEXUS UX-SERIES) รถกิจกรรมกลางแจ้งขนาดเล็กสุดและอนุกรมใหม่สุดของยอดผู้ผลิตรถหรูเมืองซามูไร ปรากฏตัวแบบ "ครั้งแรกในโลก" ที่งานมหกรรมยานยนต์เจนีวาครั้งที่ 88 เมื่อต้นเดือนมีนาคม 2018 และรถโมเดลแรก คือ เลกซัส ยูเอกซ์ 200 (LEXUS UX200) มีกำหนดการออกโชว์รูมในตลาดแรกคือสหรัฐอเมริกาซึ่งเป็นเป้าหมายสำคัญในเดือนธันวาคม 2018 ในฐานะรถรุ่นปี 2019 ส่วนรถอีกโมเดลซึ่งหน้าตาเหมือนกันๆ ในตัวถังรูปทรงเดียวกัน มีขนาดโตเท่ากัน ลื่นลมพอกัน (ยาว 4.495 ม.กว้าง 1.840 ม.สูง 1.520 ม.และมีค่าสัมประสิทธิ์แรงต้านอากาศ 0.33)) แต่เปลี่ยนป้ายชื่อเป็น เลกซัส ยูเอกซ์ 250 เอช (LEXUS UX250H) จะตามติดมาในเดือนมกราคมปีหมูป่า เลกซัส ยูเอกซ์ 200 (LEXUS UX200) ซึ่งค่าตัว MSRP เริ่มต้นที่ 32,000 เหรียญสหรัฐฯ หรือเท่ากับประมาณ 1.06 ล้านบาทไทย เป็นรถขับล้อหน้าด้วยพลังของเครื่องยนต์เบนซิน DOHC 4 สูบเรียง 1,987 ซีซี 126 กิโลวัตต์/169 แรงม้า ส่งกำลังผ่านระบบเกียร์อัตโนมัติปรับอัตราทดต่อเนื่องที่ออกแบบ/พัฒนาขึ้นใหม่ และตั้งชื่อเป็นภาษาอังกฤษว่า DIRECT SHIFT CONTINUOUSLY VARIABLE TRANSMISSION หรือ DCVT ส่วนรถค่าตัว 34,000 เหรียญสหรัฐฯ หรือประมาณ 1.12 ล้านบาทไทย เลกซัส ยูเอกซ์ 250 เอช (LEXUS UX250H) ที่นำมาเปิดระเบียงรถใหม่เดือนนี้ เป็นรถขับทุกล้อแบบไฮบริดชนิดไม่ต้องมีการเสียบปลั๊กเพื่อชาร์จไฟแบทเตอรี เป็นระบบไฮบริดรุ่นที่ 4 ที่ค่ายนี้พัฒนาขึ้นโดยเฉพาะสำหรับรถรุ่นใหม่นี้ เป็นระบบที่ใช้เครื่องยนต์เบนซิน DOHC 4 สูบเรียง ความจุ 1,987 ซีซี ทำงานร่วมกันกับมอเตอร์ไฟฟ้า และแบทเตอรีนิคเคิล-เมทัลไฮดไรด์ (NICKEL-METAL HYDRIDE) ให้กำลังสุทธิสูงสุด 129 กิโลวัตต์/175 แรงม้า และส่งกำลังผ่านระบบขับทุกล้อ ซึ่งมี VSC หรือ VEHICLE STABILITY CONTROL SYSTEM ทำหน้าที่ปรับอัตราการกระจายแรงบิดสู่ล้อคู่หน้าและคู่หลังให้เกิดประสิทธิผลที่สุด ทั้งขณะเร่งความเร็ว ขณะเลี้ยวโค้ง และขณะวิ่งบนพื้นผิวที่เปียกลื่น ตามตัวเลขของผู้ผลิต รถไฮบริดซึ่งมีโหมดการขับให้เลือก 3 แบบ คือ NORMAL MODE-ECO MODE-SPORT MODE โมเดลนี้ ใช้เวลา 8.7 วินาที ในการทำอัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ความเร็วสูงสุดจำกัดไว้ที่ 177 กม./ชม. ด้วยเหตุผลด้านความปลอดภัย และผู้ผลิตคาดหมายว่า น่าจะมีอัตราสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงเฉลี่ยอยู่ในเกณฑ์ 14.0 กม./ลิตร