ปัจจุบันผู้ผลิตรถยนต์เกือบทุกรายในโลกใบนี้ล้วนทำรถ เอสยูวี กันทั้งนั้น ไม่มีเว้นแม้กระทั่งผู้ผลิตรถยนต์ระดับอัครฐานอย่าง โรลล์ส-รอยศ์ (ROLLS-ROYCE) และผู้ผลิตรถสปอร์ทขวัญใจยอดสายลับอย่าง แอสตัน มาร์ทิน (ASTON MARTIN) ประจักษ์พยานยืนยันความจริงนี่คือ รถ เอสยูวี ติดป้ายชื่อ โรลล์ส-รอยศ์ คัลลิแนน (ROLLS-ROYCE CULLINAN) ที่เพิ่งปรากฏตัวให้คนรักรถในเมืองไทยได้ชื่นชมกันในงานมหกรรมยานยนต์ครั้งล่าสุด (MOTOR EXPO 2018) และรถ เอสยูวี ติดป้ายชื่อ แอสตัน มาร์ทิน ดีบีเอกซ์ (ASTON MARTIN DBX) ที่พบได้ใน "ข่าวรอบโลก" เดือนนี้ยอดขายรถ เอสยูวี ทั่วโลกกำลังเบ่งบาน จึงไม่ใช่เรื่องที่น่าแปลกใจอะไร เมื่อเดือนนี้จึงเป็นอีกเดือนหนึ่งที่ รถทุกคันใน "ระเบียงรถใหม่" ล้วนเป็นรถ เอสยูวี ไม่มีรถประเภทอื่นสอดแทรกมาด้วยเลย มีทั้งเอสยูวี ที่ขับเคลื่อนด้วยพลังของเครื่องยนต์เบนซินล้วนๆ เอสยูวี ที่ขับเคลื่อนด้วยพลังของเครื่องยนต์เบนซินและเครื่องยนต์ดีเซลซึ่งมีมอเตอร์ไฟฟ้าขนาดเล็กช่วยทำงานด้วย เอสยูวี ที่ขับเคลื่อนด้วยพลังของระบบขับไฮบริดชนิดต้องมีการเสียบปลั๊กเพื่อชาร์จไฟ และเอสยูวี ที่ขับเคลื่อนด้วยพลังไฟฟ้าล้วนๆ ไม่มีการติดตั้งเครื่องยนต์ใดๆ โดยเริ่มกันที่ เอสยูวี ยอดฮิทติดป้ายชื่อ เรนจ์ โรเวอร์ อีโวค (RANGE ROVER EVOQUE) ที่จ่าหัวไว้ แลนด์ โรเวอร์ (LAND ROVER) ผู้ผลิตรถ เอสยูวี รายเก่าแก่ขนานแท้ และดั้งเดิมของเมืองผู้ดี เริ่มนำรถกิจกรรมกลางแจ้งข้ามพันธุ์ขนาดเล็กกะทัดรัดติดป้ายชื่อ เรนจ์ โรเวอร์ อีโวค (RANGE ROVER EVOQUE) ออกสู่ตลาดในอังกฤษ เมื่อกลางปี 2011 ในรูปลักษณ์ของรถ 5 ประตู 5 ที่นั่ง ขนาด 4.365x1.900x1.635 ม. ซึ่งมีค่าสัมประสิทธิ์แรงต้านอากาศ 0.35 และไม่กี่เดือนหลังจากนั้น คือ ตอนต้นปี 2012 ตัวถังแบบที่ 2 ของรถอนุกรมนี้ก็ตามมา เป็นตัวถัง 3 ประตู 5 ที่นั่ง ขนาด 4.355x1.900x1.605 ม. ซึ่งมีชื่อเฉพาะว่า เรนจ์ โรเวอร์ อีโวค คูเป (RANGE ROVER EVOQUE COUPE) และล่าสุดเมื่อปลายปี 2015 ตัวถังแบบที่ 3 คือ รถเปิดประทุน 2 ประตู 4 ที่นั่ง ขนาด 4.370x1.900x1.609 ม. ก็ปรากฏตัวพร้อมกับ ชื่อ เรนจ์ โรเวอร์ อีโวค คอนเวอร์ทิเบิล (RANGE ROVER EVOQUE CONVERTIBLE) ตัวถัง 5 ประตู และ 3 ประตู ที่กล่าวข้างต้นได้รับการปรับปรุงแบบ FACELIFT หรือ "ยกหน้า" ไปแล้วครั้งหนึ่งเมื่อต้นปี 2015 ส่วนรถเปิดประทุนจนถึงปัจจุบันยังไม่มีการเปลี่ยนแปลงอะไร เรนจ์ โรเวอร์ อีโวค รุ่นแรก เป็นรถที่ทำให้ค่าย แลนด์ โรเวอร์ ได้ทั้งกล่องทั้งเงิน เพราะคว้ารางวัลต่างๆ ได้มากมายทั้งในยุโรป และนอกยุโรป ในช่วงเวลาประมาณ 7 ปี ที่อยู่ในสายการผลิตสามารถทำยอดขายในทุกตลาดได้มากกว่า 800,000 คัน ซึ่งเป็นสถิติสูงสุดเป็นประวัติการณ์ของค่ายนี้ ที่กำลังอวดโฉมอยู่ขณะนี้เป็นรถรุ่นที่ 2 เพิ่งเปิดตัวแบบ "ครั้งแรกในโลก" ที่กรุงลอนดอน เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 22 พฤศจิกายน 2018 และเริ่มรับการสั่งจองในวันเดียวกัน โดยกำหนดเป้าหมายไว้ว่า ในเดือนแรกของ ปี 2019 จะเริ่มการส่งมอบทั้งในอังกฤษในภาคพื้นทวีปยุโรป และในสหรัฐอเมริกาซึ่งเป็นตลาดหลัก ในระยะแรกรถรุ่นใหม่นี้มีตัวถังเพียงแบบเดียว เป็นตัวถัง 5 ประตู 5 ที่นั่ง ยาว 4.371 ม. กว้าง 1.904 ม. สูง 1.649 ม. ซึ่งมีค่าสัมประสิทธิ์แรงต้านอากาศ 0.320-0.325 เป็นตัวถังที่ออกแบบ/พัฒนาขึ้นใหม่ โดยใช้ พแลทฟอร์ม PREMIUM TRANVERSE ARCHITECTURE ที่ค่ายนี้เพิ่งพัฒนาขึ้นใหม่เพื่อใช้กับรถหลายแบบหลายรุ่นที่มีมอเตอร์ไฟฟ้าอยู่ในระบบขับด้วย เป็นระบบพลังที่กำลังทวีความนิยม และเรียกกันในภาษาอังกฤษว่า ELECTRIFIED POWERTRAIN นั่นเอง อย่างไรก็ตาม แม้เป็นรถที่ออกแบบขึ้นใหม่ทั้งหมด แต่หน้าตา และรูปทรงองค์เอวโดยรวมของตัวถังภายนอก เห็นได้ชัดว่าผู้ออกแบบยังยึดติดอยู่กับความสำเร็จของรถรุ่นเดิม ซึ่งก็เป็นเรื่องธรรมด๊าธรรมดาไม่น่าข้องใจอะไร มีทั้งรถขับล้อหน้ารถขับทุกล้อ และมีเครื่องยนต์ให้เลือกใช้อย่างจุใจถึง 7 ขนาด แยกเป็นเครื่องเบนซิน 3 ขนาด คือ เครื่องเทอร์โบฉีดเชื้อเพลิงโดยตรง DOHC 4 สูบเรียง 1,998 ซีซี ที่มีมอเตอร์ไฟฟ้าขนาดเล็กช่วยการทำงานด้วย เป็นระบบขับที่เรียกกันในภาษารถยนต์ว่า MILD HYBRID หรือไฮบริดแบบอ่อนๆ ที่ปรับแต่งเป็น 3 ระดับ คือ แบบให้กำลังสูงสุด 147 กิโลวัตต์/200 แรงม้า แบบ 183 กิโลวัตต์/249 แรงม้า กับแบบ 221 กิโลวัตต์/300 แรงม้า และเป็นเครื่องดีเซล 4 ขนาด คือ เครื่องเทอร์โบคอมมอนเรล DOHC 4 สูบเรียง 1,999 ซีซี 110 กิโลวัตต์/150 แรงม้า กับเครื่องเทอร์โบคอมมอนเรล DOHC 4 สูบเรียง 1,999 ซีซี ที่มีมอเตอร์ไฟฟ้าขนาดเล็กเสริมการทำงานอยู่ด้วย และปรับแต่งเป็น 3 ระดับ คือ แบบให้กำลังสูงสุด 110 กิโลวัตต์/150 แรงม้า แบบ 132 กิโลวัตต์/180 แรงม้า กับแบบ 177 กิโลวัตต์/240 แรงม้า เครื่องยนต์ทุกขนาดที่มีมอเตอร์ไฟฟ้าติดตั้งอยู่ด้วยส่งกำลังสู่ล้อผ่านระบบเกียร์อัตโนมัติ 9 จังหวะ ส่วนเครื่องยนต์ ไร้มอเตอร์ไฟฟ้าซึ่งมีอยู่เพียงขนาดเดียวใช้เกียร์ธรรมดา 6 จังหวะ ในอังกฤษรถรุ่นใหม่นี้มีระดับการตกแต่ง และติดตั้งอุปกรณ์ให้เลือกรวม 4 ระดับ กำกับด้วยรหัส EVOQUE -EVOQUE S-EVOQUE SE-EVOQUE HSE โดยที่ราคาค่าตัวรวมภาษีมูลค่าเพิ่มร้อยละ 20 ของระดับแรก เริ่มต้นที่ 31,600 ปอนด์ หรือประมาณ 1.359 ล้านบาทไทย ส่วนระดับหลังสุดเริ่มต้นที่ 44,750 ปอนด์ หรือประมาณ 1.924 ล้านบาทไทย สมรรถนะความเร็วตามตัวเลขของผู้ผลิต โมเดลพื้นฐานซึ่งเป็นรถขับล้อหน้า ติดตั้งเครื่องยนต์เทอร์โบดีเซลฉีดเชื้อเพลิงโดยตรง 110 กิโลวัตต์/150 แรงม้า และระบบเกียร์ธรรมดา 6 จังหวะ อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ทำได้ใน 10.5 วินาที ความเร็วสูงสุด 201 กม./ชม. ส่วนโมเดลหัวกะทิซึ่งเป็นรถขับทุกล้อ ติดตั้งเครื่องยนต์เทอร์โบเบนซินฉีดเชื้อเพลิงโดยตรง 221 กิโลวัตต์/300 แรงม้า อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ทำได้ใน 6.6 วินาที ความเร็วสูงสุด 242 กม./ชม.