มีผลงานใหม่ของค่าย "ใบพัดเครื่องบินสีฟ้าขาว" มาให้ชื่นชมกัน 1 รายการ เป็นรถชื่อยาวเหมือนปากมนุษย์ที่เพิ่งเปิดตัวผ่านสื่อต่างๆ เมื่อต้นเดือนกันยายน 2018 และต้องรอจนถึงปี 2019 จึงจะเริ่มการจำหน่าย แต่ยังไม่มีการยืนยันอย่างชัดเจนว่าเดือนไหน ?MID-SIZE LUXURY CROSSOVER SUV หรือรถกิจกรรมกลางแจ้งข้ามพันธุ์ระดับหรูขนาดกลางติดป้ายชื่อ บีเอมดับเบิลยู เอกซ์ 5 (BMW X5) นับเป็นรถ เอสยูวี แบบแรกของยอดผู้ผลิตรถหรูเมืองเบียร์ รถอนุกรมนี้เริ่มเข้าสู่สายการผลิตเมื่อปี 1999 และเปลี่ยนรุ่นไปแล้วรวม 3 ครั้ง รุ่นปัจจุบันซึ่งเป็นรถรุ่นที่ 4 เพิ่งเปิดตัวเมื่อเดือนมิถุนายน 2018 และเริ่มจำหน่ายในเยอรมนีกับอีกหลายประเทศในยุโรป เดือนพฤศจิกายนปีเดียวกัน เป็นรถ 5 ประตู ติดตั้งเก้าอี้ที่นั่ง 2 แถว นั่งได้รวม 5 คน หรือเก้าอี้ที่นั่ง 3 แถว นั่งได้รวม 7 คน (2+3+2) มีขนาดตัวถังยาว 4.922 ม. กว้าง 2.004 ม. สูง 1.745 ม. และมีค่าสัมประสิทธิ์แรงต้านอากาศระหว่าง 0.31-0.32 เมื่อเริ่มการจำหน่ายในตลาดยุโรปรถรุ่นใหม่นี้มีให้เลือกรวม 3 โมเดล และทุกโมเดลล้วนเป็นรถขับทุกล้อ คือ BMW X5 XDRIVE40I ติดตั้งเครื่องยนต์เทอร์โบเบนซินฉีดเชื้อเพลิงโดยตรง DOHC 6 สูบเรียง 2,998 ซีซี 250 กิโลวัตต์/340 แรงม้า-BMW X5 XDRIVE30D ติดตั้งเครื่องยนต์เทอร์โบดีเซลฉีดเชื้อเพลิงโดยตรง DOHC 6 สูบเรียง 2,993 ซีซี 195 กิโลวัตต์/265 แรงม้า-BMW X5 M50D ติดตั้งเครื่องยนต์เทอร์โบดีเซลฉีดเชื้อเพลิงโดยตรง DOHC 6 สูบเรียง 2,993 ซีซี 294 กิโลวัตต์/400 แรงม้า ทุกโมเดลส่งกำลังเครื่องยนต์สู่ล้อผ่านระบบเกียร์อัตโนมัติ 8 จังหวะ STEPTRONIC สนนราคาค่าตัวรวมภาษีมูลค่าเพิ่มร้อยละ 19 ของเยอรมนีอยู่ระหว่าง 69,200-92,900 ยูโร หรือประมาณ 2.630-3.530 ล้านบาทไทย ส่วนรถชื่อยาว บีเอมดับเบิลยู เอกซ์ 5 เอกซ์ดไรฟ 45 อี ไอเพอร์ฟอร์มานศ์ (BMW X5 XDRIVE45E IPERFORMANCE) ที่เลือกมาให้ชื่นชมกันนี้ ไม่ได้ติดตั้งเครื่องยนต์สันดาปภายในเพียงอย่างเดียวเหมือนรถโมเดลอื่นๆ ที่กล่าวข้างต้น แต่ใช้ระบบขับทุกล้อ พลัก-อิน ไฮบริด (PLUG-IN HYBRID) หรือไฮบริดชนิดที่ต้องมีการเสียบปลั๊กเพื่อชาร์จไฟแบทเตอรี ที่ค่ายเพิ่งนี้พัฒนาขึ้นใหม่ และถือว่าเป็นเจเนอเรชันที่ 2 เป็นระบบที่ใช้เครื่องยนต์เทอร์โบเบนซินฉีดเชื้อเพลิงโดยตรง DOHC 6 สูบเรียง 2,998 ซีซี 210 กิโลวัตต์/286 แรงม้า ทำงานร่วมกันกับ EDRIVE TECHNOLOGY ซึ่งใช้มอเตอร์ไฟฟ้าขนาด 82 กิโลวัตต์/112 แรงม้า แบทเตอรีลิเธียม-ไอออน (LITHIUM-ION) แรงดันไฟฟ้าสูงซึ่งติดตั้งอยู่ใต้พื้นรถ และระบบเกียร์อัตโนมัติ 8 จังหวะ STEPTRONIC ได้กำลังสุทธิสูงสุดที่สูงถึง 290 กิโลวัตต์/394 แรงม้า นั่นเทียว นับเป็นรถไฮบริดที่แรง และเร็วอย่างน่าพอใจ อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ทำได้ในเวลาแค่ 5.6 วินาที ความเร็วสูงสุด 235 กม./ชม. มีอัตราสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงเฉลี่ยที่เยี่ยมยอดมาก คือ แค่ 2.1 ลิตร/100 กม. หรือ 47.6 กม./ลิตร และมีอัตราการปล่อยคาร์บอนไดออกไซด์ 49 กรัม/กม. โดยเฉลี่ย กรณีวิ่งด้วยพลังไฟฟ้าล้วนๆ ไม่ใช้เครื่องยนต์ จะวิ่งได้ไกลประมาณ 80 กม. และสามารถทำความเร็วสูงสุด 120-140 กม./ชม. จุดที่น่าสังเกตก็คือ การเปลี่ยนจากเครื่องยนต์สันดาปภายในล้วนๆ เป็นระบบไฮบริดชนิดต้องมีการ เสียบปลั๊กนี้ ส่งผลให้ปริมาตรห้องเก็บของท้ายรถของรถโมเดลนี้ลดลงถึง 150 ลิตร เมื่อเทียบกับรถโมเดลอื่นๆ นั่นคือ ในสภาพปกติมีความจุ 500 ลิตร และจะเพิ่มเป็น 1,716 ลิตร เมื่อพับเบาะหลัง ส่วนถังเชื้อเพลิงนั้นมีขนาดความจุ 69 ลิตร