สัมภาษณ์พิเศษ(formula)
วิชิต ว่องวัฒนาการ กรรมการผู้จัดการ ฟอร์ด ประเทศไทย
“ฟอร์มูลา” สัมภาษณ์พิเศษ วิชิต ว่องวัฒนาการ กรรมการผู้จัดการ ฟอร์ด ประเทศไทย ถึงความมุ่งมั่นที่จะนำเสนอเทคโนโลยีที่แตกต่าง และสร้างความไว้วางใจในตัวสินค้าฟอร์มูลา : สถานการณ์ตลาดรถยนต์โดยรวมปีนี้เป็นอย่างไร ? วิชิต : อุตสาหกรรมรถยนต์โดยรวมปีนี้จะเติบโตเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง จากหลายปัจจัย ไม่ว่าจะเป็นการสนับสนุนจากภาครัฐโนโครงการใหญ่ๆ ที่เกี่ยวเนื่องกับรถยนต์ รวมถึงภาคการลงทุน และส่งออก แต่ก็ยังมีปัจจัยที่ส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจบ้างในระยะสั้นๆ เช่น อุตสาหกรรมการท่องเที่ยว นอกจากนี้ โครงการรถคันแรกครบ 5 ปี จะเป็นตัวส่งเสริมตลาดได้อย่างดี อย่างไรก็ตาม ตลาดคงจะไม่เติบโตแบบก้าวกระโดด คาดว่าอุตสาหกรรมรถยนต์โดยรวมปีนี้ น่าจะขยายตัวเพิ่มขึ้นประมาณ 3-5 % ฟอร์มูลา : ฟอร์ด วางนโยบายและทิศทางไว้อย่างไร ? วิชิต : ปีที่แล้วนับว่าเป็นปีทองของ ฟอร์ด ในรอบ 23 ปี ที่มียอดขายมากที่สุด โดยเติบโตเพิ่มขึ้นถึง 18 % หรือมียอดขายถึง 66,000 คัน มีส่วนแบ่งการตลาด 6.3 % โดยเฉพาะ เรนเจอร์ เติบโตถึง 25 % มียอดขายโดยรวม 55,000 คัน และเอเวอเรสต์ มียอดขายกว่า 9,700 คัน และที่น่าภูมิใจอย่างยิ่ง คือ ฟอร์ดเรนเจอร์ ยอดขายมากที่สุดในโลก ส่วนปีนี้ ฟอร์ด มองว่าตลาดโดยรวมจะส่งผลให้ยอดขาย และส่วนแบ่งการตลาดของ ฟอร์ด เติบโตเพิ่มขึ้นอย่างแน่นอน ฟอร์มูลา : คุณมองว่าอะไรคือปัจจัยที่ทำให้ ฟอร์ด ประสบความสำเร็จ ? วิชิต : อันดับแรก ในปีที่แล้ว ฟอร์ด มีการแนะนำรถรุ่นใหม่ออกสู่ตลาดอย่างต่อเนื่อง ตั้งแต่ต้นปี เดือนกุมภาพันธ์ แนะนำ แรพเตอร์ ใหม่ ที่ออกแบบใหม่ทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็น ช่วงล่าง แชสซีส์ เครื่องยนต์ ระบบขับเคลื่อนที่ลุยได้ทุกสภาพถนน ซึ่งลูกค้าให้ความสนใจอย่างมาก มียอดจองตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์-มิถุนายน กว่า 2,000 คัน ต่อมาเปิดตัว เรนเจอร์ ไวลด์ทแรค ใหม่ เครื่องยนต์ และเกียร์ใหม่ เพื่อเสริมไลน์ขยายกลุ่มลูกค้าเป้าหมายเพิ่มขึ้น ซึ่งจากเดิมจะมีรุ่น ไวลด์ทแรค ที่มีราคาสูง กลุ่มลูกค้าไม่หลากหลาย ฟอร์ด จึงได้แนะนำรุ่น ลิมิเทด มีฟังค์ชันใกล้เคียงกับ ไวลด์ทแรค รุ่นล่าสุดราคาเริ่มต้นเพียง 559,000-1,000,000 กว่าบาท ซึ่งสามารถตอบสนองความต้องการของลูกค้าได้ทุกกลุ่ม ต่อมาแนะนำ ฟอร์ด เอเวอเรสต์ ทเรนด์ ราคาเริ่มต้น 1.29 ล้านบาท จับต้องได้ง่ายขึ้น และต่อมาปิดท้ายปลายปี ด้วยการ เปิดตัว ฟอร์ด มัสแตง รถในตำนานที่อยู่ในตลาดสหรัฐอเมริกากว่า 50 ปี และเพิ่งผลิตรถพวงมาลัยขวาเมื่อ 3 ปีก่อน และฟอร์ด นำเข้ามาจำหน่ายในประเทศไทย ด้วยราคาพิเศษที่ถูกกว่าผู้นำเข้าอิสระ พร้อมการรับประกันฟรี บำรุงรักษาจากโรงงาน อีกเรื่องหนึ่งที่ ฟอร์ด ให้ความสำคัญ คือ การยกระดับความพึงพอใจของลูกค้า โดย ฟอร์ด จัดพโรแกรมไว้ 3-4 เรื่อง เรื่องแรก คือ ทำอย่างไรให้ลูกค้าเข้าถึง ฟอร์ด ได้ง่ายขึ้น ด้วยการขยายโชว์รูม พร้อมศูนย์บริการ ปัจจุบัน ฟอร์ด มีดีเลอร์ 155 แห่งทั่วประเทศ ตั้งเป้าปีนี้จะเพิ่มเป็น 190 แห่ง ให้ครบทุกจังหวัด ซึ่งปัจจุบันยังขาดที่จังหวัดแม่ฮ่องสอน และอ่างทอง รวมถึงขยายดีเลอร์ไปยังอำเภอรอง ในจังหวัดที่มีศักยภาพ แต่การลงทุนสร้างโชว์รูมและศูนย์บริการขนาดใหญ่ ไม่คุ้มค่า จึงจัดเป็นโชว์รูม 3 เอส ในเมืองเล็ก และเมืองรอง ปัจจุบันมีอยู่ 14 แห่ง วางแผนที่จะขยายเพิ่มเป็น 20 แห่ง นอกจากนี้ ฟอร์ด ยังต้องการให้ลูกค้าเข้ามาใช้บริการของศูนย์บริการ จึงต้องมีบริการที่ดี โดยตั้งเครือข่ายผู้จัดจำหน่าย 5 แห่ง กระจายอะไหล่ ฟอร์ด ให้แก่ศูนย์บริการทั่วไปกว่า 2,000 แห่ง เพิ่มความสะดวกให้ลูกค้า อีกช่องทาง คือ การตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ของลูกค้าที่ติดต่อผ่านช่องทางดิจิทอล โดย ฟอร์ด จัดบริการควิค เซอร์วิศ ผ่านออนไลน์ที่ลูกค้าสามารถเลือกจองคิว การเข้ารับบริการ วัน เวลา รวมถึงการเปิดให้บริการ 7 วัน สำหรับดีเลอร์ในเขตกรุงเทพฯ 38 แห่ง และปริมณฑล 20 แห่ง พร้อมวางแผนจะเพิ่มอีกในอนาคต ความสำคัญต่อมา คือ คุณภาพ โดยเน้นไปที่การพัฒนาช่าง ให้มีความสามารถ มีเครื่องมือที่ดี มีการฝึกอบรมผ่านหลักสูตรที่ชัดเจน ครบถ้วน มีการลงทุนด้านเครื่องมือที่สามารถแก้ไขข้อบกพร่องของรถ และฟอร์ด ยังซัพพอร์ทดีเลอร์เรื่อง สถานที่ที่ห่างไกล คือ การแก้ไขข้อบกพร่องออนไลน์ ในกรณีที่ช่างในพื้นที่ไม่สามารถแก้ไขได้ จะสามารถติดต่อผ่านออนไลน์มายังสำนักงานใหญ่ และหากยังแก้ไขไม่ได้ ฟอร์ด จะส่งช่างเดินทางไปแก้ไขถึงจุดบริการ ด้านราคา ฟอร์ด ควบคุมราคาให้เป็นราคากลางในด้านการบริการ และอะไหล่ เพราะสิ่งที่ลูกค้ารับไม่ได้ คือ ค่าบริการและอะไหล่ที่แพงเกินไป โดย ฟอร์ด วิเคราะห์ข้อมูลหลายเรื่อง เช่น การเข้ารับบริการเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่อง/ครั้ง การเข้าเชคระยะ ดังนั้น ฟอร์ด จึงมีความพิเศษที่แตกต่างจากยี่ห้ออื่นเรื่องของระยะการเชคที่ยาวนานกว่ายี่ห้ออื่น ซึ่งช่วยประหยัดค่าใช้จ่าย และเวลา นอกจากนี้ สำหรับลูกค้าที่หมดระยะรับประกัน ฟอร์ด แนะนำอะไหล่ ฟอร์ด มอเตอร์คราฟท์ (MOTORCRAFT) และอะไหล่ออมนิคราฟท์ (OMNICRAFT) ที่ไม่ใช่อะไหล่ โออีเอม แต่มีราคาถูกกว่า 15 % พร้อมกันนี้ ฟอร์ด ได้ลงทุนกว่า 100 ล้านบาท ในการขยายคลังอะไหล่ เพื่อตอบสนองความต้องการด้านอะไหล่แก่ลูกค้าทั้งในประเทศไทย และต่างประเทศ ซึ่งลูกค้าอาจจะไม่ทราบว่า ประเทศไทยมีจุดแข็งที่สำคัญ คือ นอกจากเป็นฐานการผลิตรถยนต์เพื่อการรส่งออกแล้ว ยังเป็นศูนย์การส่งออกอะไหล่อีกด้วย ซึ่งการขยายคลังอะไหล่ของ ฟอร์ด เป็นการเพิ่มสตอคอะไหล่ เพื่อตอบสนองความต้องการ และเพื่อให้เกิดความสะดวกรวดเร็วยิ่งขึ้น โดยการันตีจัดส่งอะไหล่แก่ดีเลอร์ในเขตพื้นที่กรุงเทพฯ ภายใน 24 ชม. ฟอร์มูลา : ปีนี้จะมีสินค้าใหม่ออกสู่ตลาดหรือไม่ ? วิชิต : ปีที่แล้ว ฟอร์ด แนะนำรถรุ่นใหม่ออกสู่ตลาดถึง 4 รุ่น ซึ่งแต่ละรุ่นสร้างความตื่นเต้นในตลาดอย่างมาก และปีนี้ ฟอร์ด ก็ยังจะสร้างความตื่นเต้นให้กับตลาดด้วยรถรุ่นใหม่ พร้อมเน้นการสร้างบแรนด์ให้แข็งแกร่งด้วยการเสนอกิจกรรมการตลาดที่ตอบสนองไลฟ์สไตล์ของผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลงไป โดย ฟอร์ด ถือว่าเป็นผู้บุกเบิกการทำตลาด ดิจิทอล มาร์เกทิง ซึ่งทำให้เจาะเข้าถึงลูกค้ากลุ่มเป้าหมายได้เป็นอย่างดี ปีนี้ ฟอร์ด จะโฆษณาประชาสัมพันธ์ร่วมกับดีเลอร์มากขึ้น ด้วยการส่งเจ้าหน้าที่เข้าไปดูแลเรื่องวัฒนธรรมองค์กร การทำงานในพื้นที่ คุยกับเจ้าของธุรกิจ พนักงานส่วนต่างๆ เพื่อศึกษาช่องว่างการทำงานที่ต้องปรับปรุง เพราะเจ้าของธุรกิจอาจไม่ทราบถึงวัฒนธรรมการทำงาน และการสร้างประสบการณ์ที่ดีแก่พนักงาน และลูกค้า การแก้ไขปัญหาร่วมกันจะทำให้เกิดวัฒนธรรมการทำงานเป็นทีม เกิดความรักสามัคคี และรู้ถึงการปฏิบัติงานตามขั้นตอนให้ลูกค้าได้รับประสบการณ์ที่ดี ฟอร์มูลา : กิจกรรมส่งเสริมการตลาดจะเป็นรูปแบบใด ? วิชิต : กิจกรรมที่จะเข้าหาลูกค้าอาจจะต้องมีการทำหลายรูปแบบ เนื่องจากลูกค้ามีไลฟ์สไตล์ที่เปลี่ยนแปลงไป ฟอร์ด จะมุ่งเน้นเรื่อง โซเชียลมีเดีย ดิจิทอล มาร์เกทิง นอกจากนี้ จะจัดกิจกรรมกับกลุ่มลูกค้าโดยตรง รวมถึงกิจกรรมกับคลับต่างๆ เช่น เรนเจอร์ คลับ แรพเตอร์ คลับ, เอเวอเรสต์ คลับ เป็นต้น อีกช่องทางหนึ่ง เป็นการจัดกิจกรรมงานแกร่ง ตามจังหวัดต่างๆ ที่มีพื้นที่แตกต่างกันไป เพื่อให้ลูกค้าได้เข้าถึง และสัมผัสบแรนด์อย่างใกล้ชิด พร้อมกิจกรรมสันทนาการต่างๆ ทำให้ลูกค้าได้รับความเพลิดเพลิน สอดแทรกด้วยการทำงานร่วมกันกับลีซิง ที่จัดให้ลูกค้าได้เชคเครดิท ปรึกษาความพร้อมหรือความเป็นไปได้ในการออกรถ และในบางพื้นที่จัดร่วมกันกับดีเลอร์ เพื่อให้การจัดงานเหมาะสมกับพื้นที่นั้น หรือบางครั้งอาจให้แต่ละดีเลอร์จัดการเอง โดยมุ่งสู่เป้าหมายเดียวกัน คือ นำสินค้าไปถึงลูกค้าให้มากที่สุด ฟอร์มูลา : ระบบไฟแนนศ์ในปีนี้จะเป็นอย่างไร ? วิชิต : เห็นได้ชัดว่ามีสัญญาณเรื่องการปล่อยสินเชื่อยากขึ้นกว่าเดิม เพราะขณะนี้ แบงค์ชาติได้เข้ามาควบคุมการปล่อยสินเชื่อรถยนต์อย่างใกล้ชิด อนาคตการปล่อยสินเชื่อจะมีความรัดกุมมากขึ้น ในจุดนี้ ฟอร์ด มีความพร้อมอย่างมาก ที่จะจัดกิจกรรมร่วมกันกับ ฟอร์ด ลีซิง เพื่อเข้าไปเป็นที่ปรึกษาทางการเงิน และจัดไฟแนนศ์ที่เหมาะสมกับลูกค้า นั่นถือว่าเป็นความแข็งแกร่งอีกส่วนหนึ่งของ ฟอร์ด ที่เดินไปด้วยกัน และจะช่วยไม่ให้เกิดผลกระทบกับยอดขาย ฟอร์มูลา : คุณคิดว่า ฟอร์ด ประเทศไทยจะต้องมีการปรับเปลี่ยนส่วนใดเพิ่มขึ้นอีกหรือไม่ ? วิชิต : ฟอร์ด เข้ามาดำเนินธุรกิจในประเทศไทยกว่า 20 ปี ที่ผ่านมา ได้ปรับปรุงและพยายามสร้างความแข็งแกร่งให้แก่บแรนด์อย่างต่อเนื่อง และในช่วงหลังได้พยายามให้ลูกค้าเกิดความไว้วางใจในบแรนด์ จนถึงปัจจุบันเน้นการสร้างประสบการณ์ที่ดีแก่ลูกค้า โดยสิ่งที่จะทำให้ ฟอร์ด ประสบความสำเร็จ คือ ต้องทำให้ลูกค้าไว้วางใจ เชื่อมั่นและไม่ทอดทิ้ง ฟอร์มูลา : คุณมีความคิดเห็นอย่างไรเกี่ยวกับรถยนต์พลังงานไฟฟ้า ? วิชิต : เรื่องนี้ ฟอร์ด มีการศึกษาอย่างใกล้ชิด แต่สำหรับประเทศไทย คงต้องรอดูความชัดเจนมากกว่านี้ เมื่อถึงเวลานั้น ฟอร์ด พร้อมที่จะลงมือทันที แต่ปัจจุบัน ฟอร์ด มองว่าเรื่องรถยนต์พลังงานไฟฟ้า รัฐบาลต้องเข้ามามีส่วนร่วมมากกว่านี้ ต้องมีการสนับสนุนอินฟาร์สตรัคเจอร์ สถานีชาร์จ รวมถึงการสนับสนุนรูปแบบอื่นๆ ฟอร์มูลา : การลงทุนเพิ่มในระยะสั้นและระยะยาว ? วิชิต : ฟอร์ด ลงทุนสร้างโรงงานผลิตรถยนต์ ฟอร์ด กว่า 90,000 ล้านบาท โดยโรงงานแรก ออโต้อัลลายแอนซ์ (เอเอที) เป็นบริษัทร่วมทุน และโรงงานที่ 2 ฟอร์ด ไทยแลนด์ แมนูแฟคเจอร์ริง (เอฟทีเอม) โดย ฟอร์ด ลงทุน 100 % โรงงาน เอฟทีเอม จะผลิตรถรุ่นใหม่ของ ฟอร์ด ไม่ว่าจะเป็น เรนเจอร์ แรพเตอร์ รองรับตลาดในประเทศและส่งออก นอกจากนี้ ที่ผ่านมา ฟอร์ด ได้ลงทุนกว่า 100 ล้านบาทขยายคลังอะไหล่ การลงทุนที่ผ่านมาแสดงให้เห็นว่า ฟอร์ด มีสัญญากับประเทศไทย ใช้ไทยเป็นฐานการผลิตเพื่อการส่งออก พร้อมแสดงให้เห็นว่า ฟอร์ด ให้ความสำคัญกับประเทศไทย วิชิต : อยากเห็น ฟอร์ด อีก 3 ปีข้างหน้า เป็นบแรนด์ทางเลือกมากขึ้น และฟอร์ด ก็ยังคงทำให้เกิดการปฏิวัติอุตสาหกรรมด้านเทคโนโลยีใหม่อย่างต่อเนื่อง เพราะที่ผ่านมา ฟอร์ด เป็นผู้นำในหลายเซกเมนท์ ตัวอย่างเช่น ฟอร์ด ใส่เอบีเอส ครั้งแรกในรถพิคอัพ ฟอร์ด ผลิตรุ่นประตูแคบเปิดได้รายแรก จึงอยากให้ ฟอร์ด เป็นผู้นำด้านเทคโนโลยี ดีไซจ์น และความทันสมัยของรถยนต์ต่อไป สิ่งสำคัญใน 3-5 ปี ข้างหน้า อยากให้ ฟอร์ด เติบโตอย่างต่อเนื่อง ลูกค้ามีประสบการณ์ที่ดี และไว้วางใจ ฟอร์ด มากขึ้น
ABOUT THE AUTHOR
น
นุสรา เงินเจริญ
ภาพโดย : จินดา ลัยนันท์นิตยสาร 399 ฉบับเดือน มิถุนายน ปี 2562
คอลัมน์ Online : สัมภาษณ์พิเศษ(formula)