สัมภาษณ์พิเศษ(formula)
ตวัน คำฤทธิ์ ผู้จัดการอาวุโสฝ่ายการตลาด บริษัท ทีซี ซูบารุ (ประเทศไทย) จำกัด
ซูบารุ รุกขยายตลาด ตั้งโรงงานประกอบในประเทศไทย "ฟอร์มูลา" สัมภาษณ์พิเศษกับตวัน คำฤทธิ์ ผู้จัดการอาวุโสฝ่ายการตลาด บริษัท ทีซี ซูบารุ (ประเทศไทย) จำกัดฟอร์มูลา : ซูบารุ วางทิศทางและนโยบายการรุกตลาดในประเทศไทยไว้อย่างไร ? ตวัน : เมื่อเดือนเมษายนที่ผ่านมา ซูบารุ ได้เปิดโรงงานประกอบรถยนต์ในประเทศไทย ซึ่งต่อจากนี้ ซูบารุ ประเทศไทย จะมีรถยนต์ที่ประกอบในประเทศเพื่อแสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่น ตั้งใจในการรุกตลาดอย่างเต็มที่ โดยรถรุ่นแรกที่ประกอบในประเทศ คือ ซูบารุ ฟอเรสเตอร์ ดังนั้นการรุกตลาดจะเน้นไปที่ ซูบารุ ฟอเรสเตอร์ เป็นหลัก แต่ก็มีรถรุ่นอื่นๆ มาเสริมทัพอย่างต่อเนื่อง ไม่ว่าจะเป็น ซูบารุ เอกซ์วี ที่นำเข้าจากประเทศมาเลเซีย รวมถึงรุ่นอื่นๆ ที่นำเข้าจากประเทศญี่ปุ่น ส่วนนโยบายการตลาดหลังจากนี้ บริษัทฯ จะเน้นไปที่การสร้างการรับรู้ให้แก่ผู้บริโภค เพื่อสร้างความเชื่อมั่นและความแข็งแกร่งให้แก่บแรนด์ ซึ่งหลักๆ ผู้บริโภคจะรับรู้เรื่องเทคโนโลยีของรถ ซูบารุ อยู่แล้่ว ไม่ว่าจะเป็น เครื่องยนต์บอกเซอร์ ระบบขับเคลื่อน ALL WHEEL DRIVE แต่ปัจจุบัน ซูบารุ ได้พัฒนาและคิดค้นเทคโนโลยีใหม่อย่างต่อเนื่อง โดยเทคโนโลยีล่าสุดที่เพิ่มเข้ามา คือ SUBARU GLOBAL PLATFORM ที่ยกระดับความปลอดภัย และประสิทธิภาพโดยรวม มีการออกแบบตัวถังและแชสซีส์ใหม่ ซึ่งได้รับรางวัล GOOD DESIGN AWARD จาก JAPAN DESIGN PROMOTION ORGANIZATION เมื่อปีที่ผ่านมา รวมถึงเรื่องระบบความปลอดภัยล่าสุดที่เรียกว่า EYE SIGHT ฟอร์มูลา : เพราะเหตุใดจึงเลือก ประกอบรุ่น ฟอเรสเตอร์ ? ตวัน : จากทิศทางของตลาดรถยนต์โดยรวม รถ เอสยูวี มีแนวโน้มเติบโตเพิ่มขึ้นอย่างมาก ซึ่งรวมถึงตลาดในประเทศไทยด้วย โดย ซูบารุ ฟอเรสเตอร์ เป็นรถที่ขายดีที่สุดในตลาดทั่วโลก จึงเป็นสาเหตุสำคัญที่เลือกประกอบ ฟอเรสเตอร์ ในประเทศไทย แต่อย่างไรก็ตาม หากตลาดมีความต้องการที่หลากหลายมากขึ้น การประกอบรถรุ่นอื่นๆ ก็ไม่น่ามีปัญหา เพราะ ซูบารุ ใช้เทคโนโลยี SUBARU GLOBAL PLATFORM ฟอร์มูลา : โรงงานประกอบในประเทศไทยใช้เงินลงทุนเท่าไร ? ตวัน : บริษัท ทีซี แมนูแฟคเจอริ่ง แอนด์ แอสเซมบลี่ย์ (ประเทศไทย) จำกัด ตั้งอยู่ที่นิคมอุตสาหกรรมลาดกระบัง ใช้เงินลงทุนประมาณ 5,000 ล้านบาท พื้นที่โดยรวมมากกว่า 100,000 ตารางเมตร มีกำลังการผลิต ซูบารุ ฟอเรสเตอร์ ปีละประมาณ 6,000 คัน และสามารถขยายได้ถึงปีละ 100,000 คัน เพื่อตอบสนองความต้องการของตลาดในประเทศไทย มาเลเซีย เวียดนาม และกัมพูชา ฟอร์มูลา : เพราะเหตุใด กลุ่มตันจง อินเตอร์เนชั่นแนล (TCIL) จึงเลือกประกอบในประเทศไทย ? ตวัน : องค์ประกอบการตัดสินใจ อันดับแรก เรื่องตลาดรถยนต์ในบ้านเรา มีความเหมาะสม มีขนาดใหญ่ มีกำลังซื้อของผู้บริโภค มีองค์ประกอบที่ดี เช่น ภาครัฐส่งเสริมการลงทุน รวมถึงการหาซัพพลายเออร์สะดวกกว่าประเทศอื่น เนื่องจากปัจจุบัน รถยนต์ญี่ปุ่นเกือบทุกบแรนด์เข้ามาตั้งโรงงานประกอบในประเทศไทย ฟอร์มูลา : ซูบารุ จะใช้กลยุทธ์ใดแข่งขันกับคู่แข่งในตลาด ? ตวัน : ซูบารุ จะใช้กลยุทธ์ TARGET SEGMENT เพราะเรามีเป้าหมายที่จะเป็นผู้นำรถยนต์ในกลุ่ม เอสยูวี ซึ่งปัจจุบัน ซูบารุ มีรถที่เป็นเรือธงอยู่ 2 รุ่น คือ เอกซ์วี และฟอเรสเตอร์ รวมถึงรุ่นอื่นๆ ที่ ซูบารุ วางแผนมุ่งทิศทางไปที่รถประเภทนี้ ซูบารุ มองว่า ตลาดรถ เอสยูวี ถือว่าเป็นรถยนต์ที่มีอัตราการเติบโตเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง เพราะด้วยการใช้งานของรถประเภทนี้สามารถตอบสนองประโยชน์ใช้สอยได้เป็นอย่างดี ที่สำคัญ เทคโนโลยีของ ซูบารุ มีความโดดเด่นในรถยนต์กลุ่มนี้ ไม่ว่าจะเป็น เครื่องยนต์บอกเซอร์ มีจุดศูนย์ถ่วงต่ำ แม้ว่าจะมีความสูงจากพื้นถนน แต่การบังคับควบคุมดี กลายเป็นจุดเด่นที่แตกต่างจากยี่ห้ออื่น ระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ อัตโนมัติตลอดเวลา ทำให้เป็นรถที่สามารถไปในสถานที่ต่างๆ ได้มากกว่า รวมถึงระบบความปลอดภัยอื่นๆ ที่ช่วยเสริมให้โดดเด่นในกลุ่มรถ เอสยูวี เป็นพิเศษ ฟอร์มูลา : ซูบารุ มีส่วนแบ่งการตลาด เอสยูวี ประมาณเท่าไร ? ตวัน : ถ้าเป็นรถ เอสยูวี อย่างเดียว ไม่รวมกลุ่ม พีพีวี หรือกลุ่มบีครอสส์โอเวอร์ ปัจจุบัน ซูบารุ มีส่วนแบ่งการตลาดประมาณ 15 % ฟอร์มูลา : เป้าหมายการเป็นผู้นำ ต้องมีส่วนแบ่งการตลาดเท่าไร ? ตวัน : ซูบารุ วางเป้าหมายที่จะเป็นผู้นำตลาดรถยนต์ เอสยูวี ในอีก 3 ปีข้างหน้า ซึ่งต้องมีส่วนแบ่งการตลาดประมาณ 30-40 % ฟอร์มูลา : นอกจากเสริมสินค้า จะต้องทำอะไรอีก เพื่อให้ถึงเป้าหมาย ? ตวัน : เริ่มต้นที่ตัวสินค้าก่อน ถึงแม้ว่าจะมีแค่ เอกซ์วี และฟอเรสเตอร์ แต่ 2 รุ่นนี้จะมีไลน์อัพที่เหมาะสม ตัวอย่าง ฟอเรสเตอร์ จะมีรุ่นเริ่มต้น รุ่นกลาง และ FULL FUNCTION SAFETY อนาคตอาจมีรุ่นตกแต่งพิเศษ หรือรุ่นอื่นๆ เข้ามาเสริม เพื่อตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคให้มากยิ่งขึ้น อีกส่วนหนึ่ง คือ โชว์รูมและศูนย์บริการเต็มรูปแบบ หรือที่เรียกว่า 3 S คือ SALE, SERVICE และSPARE PART ปัจจุบัน บริษัทฯ ได้เริ่มพัฒนา ปรับปรุง ให้เพียงพอกับจำนวนรถยนต์ที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยล่าสุด ได้ขยายเครือข่ายผู้ำจำหน่ายไปที่ สระบุรี สมุทรสาคร ปทุมธานี อุบลราชธานี สุรินทร์ ลำปาง สุราษฎร์ธานี สงขลา ชลบุรี และระยอง ทำให้ บริษัทฯ มีผู้จำหน่ายเพิ่มขึ้นเป็น 35 แห่ง ครอบคลุม 23 จังหวัดทั่วประเทศ พร้อมตั้งเป้าเพิ่มเป็น 45 แห่ง ภายในสิ้นปีนี้ สุดท้าย การตลาด จะมุ่งเน้นการให้ความรู้แก่ผู้บริโภค จัดกิจกรรมเพื่อให้ผู้บริโภคได้รับรู้ถึงจุดเด่นของผลิตภัณฑ์ทั้งในแง่การนำไปใช้งานได้จริง เครื่องยนต์ ระบบขับเคลื่อน ALL WHEEL DRIVE รวมถึงเทคโนโลยีระบบความปลอดภัยล่าสุด EYE SIGHT ที่ใช้กล้อง 2 ตัว ซึ่งมีฟังค์ชันหลักๆ เช่น AUTO BRAKE ขณะที่ขับรถไปบนถนนแล้ว มีรถ หรือคนอยู่ด้านหน้า ซึ่งผู้ขับขี่อาจไม่ได้อยู่ในสภาวะพร้อมในการเบรค เมื่อกล้องตรวจสอบแล้วคำนวณว่า อาจจะเกิดอุบัติเหตุ รถจะเบรคอัตโนมัติ และยังอำนวยความสะดวก เช่น เมื่อจอดรถติดไฟแดง และรถคันหน้าเคลื่อนตัวไปแล้ว ระบบจะเตือนให้เราออกรถ หรือขณะอยู่บนไฮเวย์ เราตั้งความเร็วอัตโนมัติ ระบบ EYE SIGHT จะมี ADAPTIVE SWITCH CONTROL พอรถคันหน้าชะลอตัว ระบบจะลดความเร็วตามรถคันหน้า เมื่อรถคันหน้าไป รถจะกลับไปวิ่งตามความเร็วที่ตั้งไว้ และความก้าวหน้าของระบบนี้ คือ จะเริ่มทำงานตั้งแต่รถเคลื่อนตัว การที่ใช้กล้อง 2 ตัว ทำให้การประมวลผลแม่นยำยิ่งขึ้น ฟอร์มูลา : การแข่งขันด้านอุตสาหกรรมรถยนต์ในเมืองไทยเป็นอย่างไร ? ตวัน : เป็นการแข่งขันที่เข้มข้นมาก ก็เป็นผลดีต่อผู้บริโภค เพราะค่ายรถยนต์ต่างๆ มีการนำเสนอรถยนต์ รวมถึงเทคโนโลยีที่เหมาะสมในการใช้งานมากขึ้นเรื่อยๆ และราคาที่แข่งขันกันสูงมาก ทำให้ผู้บริโภคมีทางเลือกมากขึ้น โดยเฉพาะตลาดรถยนต์ขนาดเล็ก รถเพื่อการพาณิชย์ ตรงนี้มีการแข่งขันสูง ฟอร์มูลา : ปีที่แล้ว มียอดขาย และปีนี้ตั้งเป้าไว้เท่าไร ? ตวัน : ปีที่แล้วมียอดขาย 2,400 คัน ส่วนปีนี้ตั้งไว้ 4,655 คัน สาเหตุที่ตั้งเป้ายอดขายเติบโตมากขนาดนี้ เพราะ ซูบารุ มีพโรดัคท์อย่างรุ่น ฟอเรสเตอร์ ปีที่แล้วมีข้อจำกัดเรื่องโควตาประเทศไทยได้รถมาแค่ 2,000 กว่าคัน และข้อจำกัดของรุ่น เอกซ์วี แต่ปีนี้ ฟอเรสเตอร์ ประกอบในประเทศ จึงทำให้ไม่มีปัญหาเรื่องโควตา ยอดขายโดยรวมของปีนี้ 50 % จะเป็นรุ่น ฟอเรสเตอร์ และ เอกซ์วี 40 % ที่เหลือ 10 % เป็นรถที่นำเข้าจากประเทศญี่ปุ่น ฟอร์มูลา : คุณมองว่าจนถึงปัจจุบัน ซูบารุ ประสบความสำเร็จมากน้อยเพียงใด ? ตวัน : ซูบารุ เติบโตขึ้นอย่างแข็งแรง โดยเกิดการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ในช่วงปลายปี 2555 ซูบารุ เปิดตัวรุ่น เอกซ์วี ที่ได้รับสิทธิ AFTA ซึ่งทำให้รถรุ่นนี้มีราคาที่แข่งขันได้ในตลาด เป็นจุดเริ่มต้นที่ทำให้ยอดขายของ ซูบารุ ก้าวกระโดดจาก 100 คัน เป็น 2,000-3,000 คัน/ปี และปีนี้เดือนเมษายน มีโรงงานประกอบรถยนต์แห่งที่ 3 ของโลกที่ ซูบารุ ประเทศญี่ปุ่นร่วมลงทุน จะเห็นได้ชัดเจนว่า ซูบารุ ประสบความเร็จ ทีละขั้นอย่างยั่งยืน อีกเหตุผลหนึ่งที่ทำให้ ซูบารุ ประสบความสำเร็จมากจนถึงปัจจุบัน คือ ผู้บริโภคเปิดใจ ยอมรับ และเลือกจากตัวสินค้ามากขึ้น หรือเลือกสินค้าให้เหมาะสมกับการใช้งาน และเหมาะสมกับตนเองมากขึ้น ในอดีตผู้บริโภคอาจเลือกจากบแรนด์ หรือตัวสินค้าที่ไม่ได้ใช้จริงๆ แค่เป็นวิถีปฏิบัติในอดีตที่ผ่านมา แต่ปัจจุบันผู้บริโภคจะเลือกสินค้าที่เหมาะสมกับตัวเองมากขึ้น กลุ่มผู้บริโภคที่ชอบเดินทาง มีไลฟ์สไตล์ที่แตกต่าง ก็จะมองหารถยนต์ที่ตอบสนองความต้้องการของตัวเองมากขึ้น โดยไม่ได้ยึดติด จึงทำให้ ซูบารุ เป็นอีกหนึ่งทางเลือกสำหรับผู้ที่ชอบขับรถท่องเที่ยวไปทำกิจกรรมต่างๆ ฟอร์มูลา : จากเดิมเน้นไปที่รถยนต์นั่ง แต่ปัจจุบัน เน้น เอสยูวี คุณคิดว่า ซูบารุ มาถูกทางแล้วใช่ไหม ? ตวัน : ใช่ครับ โดย ซูบารุ นำเทคโนโลยีที่มีสมรรถนะสูงมาใช้เพื่อให้เข้ากันกับการใช้งานของผู้บริโภค แต่สิ่งที่ ซูบารุ ไม่เคยละทิ้ง คือ เครื่องยนต์ บอกเซอร์ แต่มีการพัฒนาระบบหัวฉีดเพื่อให้ประหยัดน้ำมันมากขึ้น นอกจากนี้ยังมีระบบ SYMMETRICAL ALL WHEEL DRIVE ที่ทำให้เราชนะรายการแข่งขันที่โด่งดังต่างๆ มากมาย ซึ่งเราได้นำเทคโนโลยีตรงนี้มาปรับใช้กับรถยนต์ ไม่ว่าจะเป็น เอกซ์วี หรือ ฟอเรสเตอร์ เป็นการพัฒนาผลิตภัณฑ์ให้เหมาะสมแก่ผู้บริโภค ฟอร์มูลา : จุดเด่นโดยรวมของ ซูบารุ คืออะไร ? ตวัน : ซูบารุ เป็นบแรนด์ที่มุ่งเน้นด้านการขับขี่ ผู้บริโภคอาจมองว่า ซูบารุ เป็นรถที่แรง จริงๆ แล้ว ซูบารุ อาจไม่ใช่รถที่แรงที่สุด แต่เป็นหนึ่งในรถยนต์ที่มีการบังคับควบคุมดีที่สุด เครื่องบอกเซอร์ไม่ใช่เครื่องยนต์แรงที่สุด มีเครื่องหลายประเภทที่ทำให้แรงกว่านี้ได้ จุดเด่นของเครื่องบอกเซอร์ อยู่ที่มีจุดศูนย์ถ่วงต่ำ ทำให้การทรงตัวของรถดี ระบบการขับขี่ การขับเคลื่อนมีหลายระบบ แต่ขับเคลื่อน 4 ล้อ จุดเด่น คือ เรื่องการเกาะถนน ซูบารุ ในเจเนอเรชันปัจจุบัน จึงเป็นรถที่ให้การขับขี่ที่ดี และเป็นรถที่ความปลอดภัยสูงรุ่นหนึ่งของโลก ซูบารุ เป็นรถยนต์เพียงไม่กี่บแรนด์ที่ทุกโมเดลผ่านมาตรฐานความปลอดภัยสูงสุดของสหรัฐอเมริกา และยุโรปในทุกรุ่น ฟอร์มูลา : วางเป้าหมายในการทำงานกับ ซูบารุ ไว้อย่างไร ? ตวัน : เรื่องการพัฒนารถยนต์ ซูบารุ อย่างยั่งยืน เรามุ่งเน้นในเรื่องการพัฒนาสินค้าให้ตอบสนองต่อความต้องการให้ดียิ่งขึ้น และขยายโชว์รูม และศูนย์บริการให้มีคุณภาพ ให้ครอบคลุมมากยิ่งขึ้น รวมถึงเรื่องอะไหล่ การให้ข้อมูล การบริการหลังการขาย ผมจึงมองเป้าหมายในการทำงานเป็นเรื่องของการพัฒนา ให้ ซูบารุ เป็นหนึ่งในทางเลือกของลูกค้าชาวไทยอย่างยั่งยืน เราลงทุนเปิดโรงงาน อยากนำเสนอรถยนต์รุ่นใหม่ๆ และไลน์อัพที่มากขึ้น เพื่อให้ผู้บริโภคได้เลือกรถยนต์ที่มีเทคโนโลยีใหม่ๆ เหมาะกับการใช้งานของเขา
เรื่องโดย : นุสรา เงินเจริญ
ภาพโดย : เกรียงศักดิ์ ปันสม
นิตยสาร 399 ฉบับเดือน สิงหาคม ปี 2562
คอลัมน์ Online : สัมภาษณ์พิเศษ(formula)
ลิงค์สำหรับแชร์ : https://autoinfo.co.th/article/286092