โวลโว ทรัคส์ เปิดตัวหัวลากใหม่ จัดเต็มความปลอดภัยสุดล้ำ

โวลโว ทรัคส์ ประเทศไทย ยกระดับมาตรฐานความปลอดภัยในรถหัวลาก โวลโว รุ่น เอฟเอช ด้วย "ACTIVE SAFETY PACKAGE" หรือแพคเกจระบบเทคโนโลยีเพื่อความปลอดภัยเชิงป้องกัน ที่สามารถเลือกติดตั้งเพิ่มได้ ทั้งนี้เพื่อตอบโจทย์ความต้องการของผู้ประกอบการงานขนส่ง ที่ต้องการความปลอดภัยระดับสูงสุด และยกระดับงานขนส่งไทยสู่สมาร์ทลอจิสติคส์

เอริค ลาบัท ประธานกรรมการ โวลโว ทรัคส์ ประเทศไทย เปิดเผยว่า การเปิดตัวอุปกรณ์ และระบบเทคโนโลยีเพื่อความปลอดภัยเชิงป้องกัน ในรถหัวลาก โวลโว รุ่น เอฟเอช ครั้งนี้ เพื่อช่วยยกระดับมาตรฐานความปลอดภัยบนท้องถนนประเทศไทย ซึ่งถือเป็นส่วนหนึ่งของความรับผิดชอบต่อสังคมในฐานะผู้ผลิตรถบรรทุกชั้นนำของโลก อีกทั้งยังช่วยผู้ประกอบการงานขนส่ง รักษาทรัพยากรอันมีค่า อย่างพนักงานขับรถ และสินค้าขนส่งที่มีมูลค่าสูง ให้สามารถไปถึงเป้าหมายได้อย่างปลอดภัยสูงสุด และระบบความปลอดภัยใหม่นี้ ถูกทดลองใช้ในยุโรปมานานหลายปีแล้ว   แพคเกท "ACTIVE SAFETY PACKAGE" หรือ แพคเกจระบบเทคโนโลยีเพื่อความปลอดภัยเชิงป้องกัน ประกอบด้วย   1. ระบบเตือนการชนด้านหน้า รักษาระยะห่างและเบรคฉุกเฉินอัตโนมัติ (ADAPTIVE CRUISE CONTROL WITH FORWARD COLLISION WARNING AND EMERGENCY BRAKING)   2. ระบบพวงมาลัยอัจฉริยะ โวลโว ไดนามิค สเตียริง (VOLVO DYNAMIC STEERING) ให้เสถียรภาพการควบคุมพวงมาลัยในการขับขี่ทุกสถานการณ์   3. ระบบแจ้งเตือนผู้ขับขี่ (DRIVER ALERT SUPPORT) เมื่อมีอาการเหนื่อยล้า หรือหลับใน โดยตรวจจับจากพฤติกรรมการควบคุมพวงมาลัย   4. ระบบแจ้งเตือน เมื่อขับขี่ออกนอกช่องทาง (LANE KEEPING SUPPORT) ตรวจจับเส้นแบ่งช่องทางเดินรถ และแจ้งเตือนเมื่อขับรถออกนอกช่องทาง   5. ระบบแจ้งเตือน เมื่อเปลี่ยนช่องทางเดินรถ (LANE CHANGE SUPPORT) ตรวจจับยานพาหนะที่จุดบอดจากฝั่งผู้โดยสาร และแจ้งเตือนการเปลี่ยนช่องทางเดินรถ ที่ไม่ปลอดภัย   6. แผงหน้าปัดพร้อมจอสี 7 นิ้ว (INFORMATION DISPLAY 7”)   7. กล้องมองหลัง (BACKUP MONITORING)   วิลาวัลย์ วิศปาแพ้ว รองประธานฝ่ายการตลาด กล่าวเพิ่มเติมว่า "ระบบความปลอดภัยที่เราแนะนำในครั้งนี้ ถูกติดตั้งในรถหัวลาก รุ่น เอฟเอช เป็นรถหัวลากรุ่นแรกของประเทศไทย ที่มาพร้อมเทคโนโลยีความปลอดภัย โดยลูกค้าสามารถเลือกติดตั้งเพิ่มกับรถใหม่ ซึ่งถือเป็นการลงทุนระยะยาวที่คุ้มค่า โดยมีค่าใช้จ่ายเพิ่มเพียง 150,000 บาท และเรามั่นใจว่า จะได้รับการตอบรับอย่างดีจากกลุ่มลุกค้าของเรา"