รุ่นเล็กติดเทอร์โบทั้งเบนซิน และดีเซล 1.6 ลิตรปิด “ระเบียงรถใหม่” ในเดือนแห่งการชุมนุมรถกิจกรรมกลางแจ้งสายเลือดซามูไร และสายพันธุ์โสม ด้วยรถอนุกรมใหม่สุดของยักษ์รองเมืองกิมจิ คือ เกีย เซล-โตส (KIA SELTOS) ซึ่งเพิ่งเปิดตัวที่กรุงนิวเดลีของอินเดียเมื่อปลายเดือนมิถุนายนที่เพิ่งผ่านพ้นไปนี่เอง หากสงสัยว่าทำไมรถเกาหลีจึงไปเปิดตัวที่อินเดีย ? คำตอบก็คือ นี่เป็นรถแบบแรกที่ค่ายนี้จะนำออกสู่โชว์รูมในอินเดีย รวมทั้งเป็นรถซึ่งมีการผลิตทั้งในเกาหลีใต้ และอินเดียอีกต่างหาก ในเมืองโสมสถานที่ผลิต คือ โรงงานในเมืองกวางจู (GWANGJU) ส่วนในแดนภารตะโรงงานที่ผลิตตั้งอยู่ในรัฐอันตระประเทศ (ANDHRA PRADESH) เป็นผลงานรังสรรค์ของทีมงานที่มีนักออกแบบชาวเกาหลีเจ้าของนาม ยุงชุนจู (BYUNG CHUL-JUH) เป็นผู้นำ เป็นรถขนาดเล็กอย่างที่เรียกกันในภาษาอังกฤษว่า SUBCOMPACT CROSSOVER SUV หรือที่เรียกเป็นภาษาไทยสไตล์ “สื่อสากล” ว่า รถกิจกรรมกลางแจ้งข้ามพันธุ์ขนาดเล็กกว่าเล็กกะทัดรัด และเป็นรถที่ค่ายนี้ตั้งใจออกแบบ/พัฒนาโดยมีผู้ใช้รถวัยหนุ่มวัยสาวผู้เข้าใจในเทคโนโลยีอันก้าวล้ำนำสมัยเป็น กลุ่มลูกค้าเป้าหมาย แต่ที่ดูไม่เข้ากันเลยกับกลุ่มเป้าหมายที่ว่านี้ คือ ชื่อรุ่น SELTOS ซึ่งยักษ์รองเมืองโสมอธิบายว่าเป็นชื่อบุตรชายของ เฮอร์คิวลิส (HERCULES) ซึ่งเป็น จอมพลังในเทพปกรณัมโบร่ำโบราณของกรีก ตัวถังซึ่งยาว 4.375 ม. กว้าง 1.800 ม. และสูง 1.600-1.615 ม. ใช้ชิ้นส่วนหลายชิ้นร่วมกันกับรถบางรุ่นของผู้ผลิตรถยนต์ต้นสังกัด คือ ฮันเด โคนา (HYUNDAI KONA) และ ฮันเด เวนู (HYUNDAI VENUE) ที่เพิ่งผ่านตาไป หน้าตา และรูปทรงองค์เอวของตัวถังดูดี มีเส้นสายที่ดูลื่นตา มีแผงกระจังหน้ารูป “จมูกเสือ” อันเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวของรถยี่ห้อนี้ นับเป็นประจักษ์พยานยืนยันอีกครั้งหนึ่งว่าการออกแบบตัวถังรถยนต์ของเกาหลียุคนี้ ไม่ใช่เรื่องที่ใครจะดูหมิ่นดูแคลนได้ ภายในห้องโดยสารก็ออกแบบโดยให้ความสำคัญทั้งคุณภาพ และความสะดวกสบาย ระบบเสียงติดตั้งลำโพง BOSE ระดับพรีเมียมรวม 8 ตัว ในเมืองโสมซึ่งเริ่มการจำหน่ายไปเรียบร้อยแล้ว ก่อนตัดสินใจจ่ายเงินผู้ซื้อต้องเลือกให้ได้ก่อนว่าต้องการรถขับเคลื่อนล้อหน้าหรือรถขับเคลื่อนทุกล้อ เมื่อเลือกได้แล้วก็ต้องเลือกสิ่งสำคัญสิ่งที่ 2 คือ เลือกเครื่องยนต์ ซึ่งก็มีให้เลือก 2 แบบ 2 ขนาด คือ เครื่องเทอร์โบเบนซินฉีดเชื้อเพลิงโดยตรง DOHC 4 สูบเรียง 1,591 ซีซี 130 กิโลวัตต์/177 แรงม้า กับเครื่องเทอร์โบดีเซลฉีดเชื้อเพลิงโดยตรง DOHC 4 สูบเรียง 1,598 ซีซี 100 กิโลวัตต์/136 แรงม้า เครื่องยนต์ทั้ง 2 ขนาดนี้ ยักษ์รองเมืองโสมอวดสรรพคุณว่าทรงพลัง ประสิทธิภาพสูง และเป็นผลลัพธ์ของเทคโนโลยีที่เรียกชื่อในภาษาอังกฤษว่า SMARTSTREAM TECHNOLOGY ซึ่งเป้าหมายหลัก คือ การประหยัดน้ำมันเชื้อเพลิง และไอพิษต่ำ ส่วนระบบเกียร์หมดสิทธิ์เลือกเพราะมีแบบเดียว คือ เกียร์อัตโนมัติคลัทช์คู่ 7 จังหวะ รถเบนซินซึ่งมีล้อให้เลือก 3 ขนาด คือ 16 นิ้ว 17 นิ้ว 18 นิ้ว อัตราสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงเฉลี่ยซึ่งแปรผันไปตามขนาดล้ออยู่ระหว่าง 10.9-12.7 และอัตราการปล่อยคาร์บอนไดออกไซด์ซึ่งก็เปลี่ยนไปตามขนาดล้ออยู่ระหว่าง 132-155 กรัม/กม. ส่วนรถดีเซลซึ่งก็มีล้อ 3 ขนาดเช่นกัน ตัวเลขเปลี่ยนเป็น 14.8-17.6 กม./ลิตร และ 105-127 กรัม/กม. ที่ต้องเลือกด้วยเช่นกัน คือ สีตัวถังซึ่งมีให้เลือกหลากหลายมาก คือ มีทั้งตัวถังสีเดียว (ONE TONE COLOR) ซึ่งเลือกได้ 6 สี ได้แก่ สีดำ CHERRY BLACK สีขาว SNOW WHITE PEARL สีเทา STEEL GRAY สีเทาเข้ม GRAVITY GRAY สีส้ม MAS ORANGE สีน้ำเงิน DARK OCEAN BLUE และตัวถัง 2 สี (TWO-TONE COLOR) ซึ่งมีให้เลือก 5 คู่สี คือ สีดำ/สีขาว CHERRY BLACK/CLEAR WHITE สีดำ/สีเทาเข้ม CHERRY BLACK/GRAVITY GRAY สีดำ/สีส้ม CHERRY BLACK/MAS ORANGE สีดำ/สีน้ำเงิน CHERRY BLACK/DARK OCEAN BLUE สีดำ/สีเหลือง CHERRY BLACK/YELLOW ค่าตัวในเกาหลีใต้เริ่มต้นที่ 19.29 ล้านวอน หรือเท่ากับประมาณ 0.48 ล้านบาทไทย