เบาะหนังแท้ จะได้เปรียบกว่าเบาะผ้าในเรื่อง “การดูแลรักษา” “ความทนทาน” และ “เกิดไฟฟ้าสถิตน้อยกว่า” เท่านั้น ส่วนเรื่อง “การยึดผู้นั่งไม่ให้ลื่นไถล” “การระบายความชื้น” “เป็นฉนวนความร้อนที่ดี” และ “กลิ่น” เป็นรองหมดเคยมีคนถามว่า “เบาะผ้า” กับ “เบาะหนังแท้” แบบไหนดีกว่ากัน ถ้ามองเผินๆ ก็ต้องตอบว่า “เบาะหนังแท้” ดีกว่า เพราะแพงกว่า สวยกว่า และดูหรูหรากว่า แต่ถ้ามองถึงคุณสมบัติของมันจริงๆ แล้ว กลับไม่เป็นอย่างนั้น ไปทำความเข้าใจกันครับ ไม่ว่าเบาะหนังแท้ หรือเบาะผ้า ต่างก็มีข้อดีข้อด้อยต่างกันไป ผมขอยกตัวอย่างทีละเรื่อง เรื่องแรก “การยึดผู้นั่งไม่ให้ลื่นไถล” เบาะหนังแท้จะลื่นกว่ามาก ถ้าใครเถียงว่าเบาะหนังแท้ไม่ลื่น นั่นเป็นเพราะเขาใช้รูปทรงช่วยยึดร่างกายเราเอาไว้ครับ ถ้าหุ้มด้วยผ้า จะยิ่งดีกว่านี้อีก “การระบายความชื้น” เรื่องนี้ยังสู้เบาะผ้าไม่ได้ เพราะอากาศผ่านเนื้อผ้าได้ง่ายกว่า แต่ถ้าเทียบกับหนังเทียมซึ่งเนื้อตันเลย เบาะหนังแท้จะดีกว่ามาก “เป็นฉนวนความร้อนที่ดี” เบาะผ้าก็ยังได้เปรียบอยู่ดี ถ้าวัสดุที่หุ้มเก้าอี้นั้น เป็นฉนวนความร้อนที่ดี พูดให้เข้าใจง่าย ก็คือ ตอนเย็น (อากาศเย็น) มันจะไม่ดูดความร้อนจากผิวหนังเรา ทำให้ไม่รู้สึกเย็นวาบเหมือนถูกหนังเทียม ตอนอากาศร้อนมันก็ไม่คายความร้อนใส่ผิวหนังเราที่สัมผัส ข้อนี้ถ้าเทียบกับหนังเทียมแล้ว หนังแท้กินขาดครับ แต่ยังแพ้เบาะผ้า “การดูแลรักษา และความทนทาน” หนังแท้ได้เปรียบครับ โดยเฉพาะเวลาของเหลวหกเลอะ จะไม่ซึมเข้าเนื้อทันทีเหมือนเบาะผ้า และไม่กักเก็บฝุ่นละออง ใครใช้เบาะผ้าต้องหมั่นดูดฝุ่นเป็นระยะ และแม้จะถนอมอย่างไร ก็จะเปื่อยไปตามอายุการใช้งานเสมอ ส่วนหนังแท้ก็ต้องมีการบำรุงรักษาด้วยการทาน้ำมันถนอมหนังแท้เช่นกัน “กลิ่น” เบาะผ้าไม่มีกลิ่น แต่สะสมกลิ่นแปลกปลอมได้ดี ต้องใช้อย่างถูกต้อง ส่วนเบาะหนังแท้มีกลิ่นของมันเองในตัว คือ กลิ่นหนัง บวกกลิ่นน้ำยาฟอก บวกสีย้อม ใครที่แพ้จากหนังแท้ อย่าทนใช้ครับ เสียสุขภาพเปล่าๆ ข้อสุดท้าย “เกิดไฟฟ้าสถิต” เบาะผ้า (โดยเฉพาะที่มีสัดส่วนของใยสังเคราะห์สูง) ถือเป็นข้อเสีย มักเกิดไฟฟ้าสถิตจากการเสียดสีของเครื่องแต่งกายกับเบาะ โดยเฉพาะตอนลุกและก้าวลง พอจับบานประตูก็จะมีการคายประจุไฟฟ้า จะเป็นมากตอนอากาศแห้ง เช่น หน้าหนาว ให้ใช้วิธีจับขอบประตูไว้ แล้วก้าวลงแบบให้เสื้อผ้าถูกับเบาะน้อยที่สุดครับ สุดท้าย ถ้าดูข้อดีของเบาะหนังแท้ จะได้เปรียบกว่าเบาะผ้าในเรื่อง “การดูแลรักษา” “ความทนทาน” กับ “เกิดไฟฟ้าสถิตน้อยกว่า” เท่านั้น ส่วนเรื่อง “การยึดผู้นั่งไม่ให้ลื่นไถล” “การระบายความชื้น” “เป็นฉนวนความร้อนที่ดี” และ “กลิ่น” เป็นรองทั้งหมด แต่หากใครชอบเบาะหนังแท้ และจุดอ่อนของมันไม่รบกวน ก็ต้องถือว่า เบาะหนังแท้ “ดีกว่า” สำหรับผู้นั้นครับ