ชีวิตอิสระ
ดอย ผา ป่า ถ้ำ 4 แหล่งท่องเที่ยวธรรมชาติ สุดประทับใจ
ปีใหม่นี้ “ชีวิตอิสระ” ยังคงเสาะแสวงหาสถานที่ท่องเที่ยวใหม่ๆ รวมถึงเส้นทางผจญภัยด้วยรถยนต์ มานำเสนอแฟนๆ ต่อไป แต่ถ้าถามว่า ที่ผ่านมาแหล่งท่องเที่ยวใดที่เราประทับใจที่สุดในแต่ละภาคของประเทศไทย คำตอบเป็นดังนี้
1. ภาคเหนือ
ดอยผาฮี้ จ. เชียงราย




กาแฟผาฮี้ การันตีรางวัลชนะเลิศ

ห้ามพลาด วิถีชีวิตยามเช้า
ใครมานอนพักที่ดอยผาฮี้ อยากแนะนำให้ตื่นแต่เช้า เพราะนอกจากจะได้ชมพระอาทิตย์ขึ้น รวมถึงทะเลหมอกที่สวยงามแล้ว ถ้ามาช่วงเวลาที่มีพิธีกรรม จะได้เห็นประเพณีความเชื่อต่างๆ ที่หาดูได้ยาก

2. ภาคใต้
ถํ้าเลสเตโกดอน จ. สตูล

ฟอสซิล 6 ยุค ที่พิพิธภัณฑ์ทุ่งหว้า
เนื่องจากต้องการหาคำตอบว่าเหตุใดองค์การยูเนสโกจึงประกาศให้อุทยานธรณีสตูล เป็นอุทยานธรณีของโลก
ลุยถ้ำเลสเตโกดอน แหล่งค้นพบที่ยิ่งใหญ่
ไฮไลท์ที่พลาดไม่ได้ คือ การล่องเรือชม “ถ้ำเลสเตโกดอน” (อ่านว่า ถ้ำ-เล-สะ-เต-โก-ดอน) ที่ถูกค้นพบ “ฟันช้างสเตโกดอน” ซึ่งเก่าแก่กว่าช้างแมมมอธ ที่อยู่ในยุคน้ำแข็งเมื่อ 20,000 ปีก่อนเสียอีก
ล่องเรือผจญภัย ชมหินงาม และซากฟอสซิล






3. ภาคอีสาน
ผาชะนะได จ. อุบลราชธานี

ผาชะนะได ไปไม่ง่ายอย่างที่คิด


รับตะวันก่อนใครในสยาม
ผาชะนะได ตั้งอยู่ในบริเวณป่าดงนาทาม ของเขตอุทยานแห่งชาติผาแต้ม มีความสูงเหนือระดับน้ำทะเลปานกลางประมาณ 450 เมตร เป็นจุดชมพระอาทิตย์ขึ้นแห่งแรกของประเทศไทย เนื่องจากอยู่ทางทิศตะวันออกสุดของแผ่นดินสยาม และเป็นตำแหน่งที่กรมอุตุนิยมวิทยาใช้เป็นจุดคำนวณการมองเห็นลำแสงเริ่มแรกของดวงอาทิตย์ในเขตประเทศไทย ณ เส้นแวงที่ 105 องศา 37 ลิปดา 17 ฟิลิปดา ตามคำขวัญที่คุ้นหูอย่าง “รับตะวันก่อนใครในสยาม” ที่ผาชะนะได เมื่อยืนอยู่บนหน้าผา จะเห็นภูเขาทะมึนสลับซับซ้อนทางฝั่ง สปป. ลาว (มีลำน้ำโขงเป็นเขตแดน) เป็นฉากอยู่ตรงกลางตัดกับท้องฟ้าที่อยู่ด้านบน และลำน้ำโขงที่อยู่ด้านล่างด้วยวิวแบบพาโนรามา หากวันไหนอากาศมีความชื้นสูง ประมาณช่วงปลายฝนต้นหนาว จะเห็นทะเลหมอกปกคลุมเหนือลำน้ำโขง นับเป็นจุดชมทะเลหมอกที่สวยงามแห่งหนึ่งของเมืองไทย บรรยากาศยามค่ำคืนก็ใช่ย่อย ถ้าวันไหนท้องฟ้าเปิด เราสามารถมองเห็นกลุ่มดาวต่างๆ ได้ชัดเจน พร้อมกับกระแสลมเย็นเอื่อยๆ เวลากลางคืน สร้างบรรยากาศโรแมนทิคได้อย่างเหลือเชื่อละลานตาดอกไม้ป่าที่ดงนาทาม




4. ภาคตะวันตก
ผืนป่าศรีสวัสดิ์ จ. กาญจนบุรี

แวะเขื่อนเจ้าเณร ไฮไลท์สำคัญของจังหวัด


ชมม่านฉัตรแก้ว ที่น้ำตกห้วยแม่ขมิ้น
เมื่อชมเขื่อนเสร็จแล้ว ให้เลี้ยวขวาผ่านน้ำตกเอราวัณ (ไม่ต้องออกถนนหลัก) และวิ่งเลยไปอีก 45 กม. เพื่อไปยังน้ำตกห้วยแม่ขมิ้น เส้นทางนี้รถเก๋งสามารถผ่านได้ เพราะเป็นทางลาดยางอย่างดี น้ำตกห้วยแม่ขมิ้น ตั้งอยู่ที่ทำการอุทยานแห่งชาติศรีนครินทร์ กรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่า และพันธุ์พืช ทางด้านซ้ายของทะเลสาบเขื่อนศรีนครินทร์ เป็นน้ำตกที่สวยที่สุดแห่งหนึ่งในกาญจนบุรี และยังคงความสมบูรณ์ทางธรรมชาติ แบ่งออกเป็น 7 ชั้น แต่ละชั้นจะมีชื่อเรียกแตกต่างกันตามความสวยงาม ชั้นที่ 1 ดงว่าน, ชั้นที่ 2 ม่านขมิ้น, ชั้นที่ 3 วังหน้าผา, ชั้นที่ 4 ฉัตรแก้ว, ชั้นที่ 5 ไหลจนหลง, ชั้นที่ 6 ดงผีเสื้อ และชั้นที่ 7 ร่มเกล้า โดยชั้นที่สวยงามที่สุด คือ ชั้น 4 “ฉัตรแก้ว” ที่มีลักษณะลดหลั่นกันมาเป็นชั้นๆ เหมือนกับผ้าม่านนั่นเองเนินสวรรค์ จุดปราบเซียน

น้ำใสไหลเย็น ต้องน้ำตกจ๊อกกระดิ่น
เมื่อพ้นเนินสวรรค์ไปแล้วก็สิ้นสุดทางดินเข้าสู่ถนนลาดยาง จุดหมายต่อไป คือ น้ำตกจ๊อกกระดิ่น ใช้ทางหลวง 3272 ผ่าน อ. ทองผาภูมิ ไปอีก 67 กม. ก็จะถึงน้ำตกที่ซ่อนตัวอยู่ในป่าลึก
บ้านอีต่อง หมู่บ้านสุดชิลล์ที่ต้องมา

ชมพระอาทิตย์ตก ที่เนินช้างศึก
เที่ยวหมู่บ้านอีต่องไปแล้ว ก่อนพระอาทิตย์จะตก อยากให้ไปสัมผัสความงดงามยามเย็นที่เนินช้างศึก จุดชมวิวเนินนี้อยู่ห่างจากหมู่บ้านอีต่องเพียงแค่ 2 กม. เท่านั้น เป็นจุดที่สูงที่สุด สามารถมองเห็นภูเขาน้อยใหญ่มากมายสุดสายตา ทั้งประเทศไทย และประเทศเพื่อนบ้าน เนินช้างศึกสามารถกางเทนท์ค้างแรมได้ฟรี มีห้องน้ำ และทหารคอยดูแลอยู่ใกล้ๆ แต่เนื่องจากสูง ลมจะแรง และอากาศเย็นเป็นพิเศษ จึงต้องเตรียมอุปกรณ์มาให้พร้อม ในตอนเช้าจะมีหมอกหนาสวยงาม นับเป็นจุดชมวิวที่สวยที่สุดแห่งหนึ่งในประเทศไทย เส้นทางที่เราพาไป เป็นเส้นทางลัดที่ถูกสร้างขึ้นตั้งแต่สมัยเริ่มทำเหมืองแร่ ตลอดสองข้างทางจะเป็นป่าโปร่งที่สวยงาม แนะนำให้มาเที่ยวช่วงฤดูร้อน และฤดูหนาวเท่านั้นABOUT THE AUTHOR
ว
วิธวินท์ ไตรพิศ
ภาพโดย : ฝ่ายภาพนิตยสาร 417 ฉบับเดือน มกราคม ปี 2563
คอลัมน์ Online : ชีวิตอิสระ(4wheels)