เดือนนี้เป็นคิวของรถ เอสยูวี อีกครั้งหนึ่ง ทั้งหมดล้วนเป็นรถกิจกรรมกลางแจ้งข้ามพันธุ์พลังสูง ติดตั้งเครื่องยนต์ทันสมัยไฮเทคซึ่งให้กำลังสูงตั้งแต่ 225 กิโลวัตต์/306 แรงม้า จนถึง 450 กิโลวัตต์/612 แรงม้า ที่แปลกไปจากการชุมนุมรถ เอสยูวี ครั้งก่อนๆ ก็คือ เกือบทั้งหมดเป็นผลงานใหม่ของผู้ผลิตรถยนต์เพียงรายเดียว คือ เจ้าของเครื่องหมายการค้า "ดาวสามแฉก” มีผลงานของผู้ผลิตรถยนต์รายอื่นสอดแทรกมาเพียงแบบเดียว คือ เอาดี อาร์เอส คิว 8 (AUDI RS Q8) ของค่าย "สี่ห่วง" ที่ตัดสินใจเลือกเป็นรถเปิด "ระเบียงรถใหม่" เดือนนี้ค่าย "สี่ห่วง" ซึ่งมี เอสยูวี หรือรถกิจกรรมกลางแจ้งให้เลือกใช้อย่างหลากหลาย ตั้งแต่รถขนาดเล็กอย่าง เอาดี คิว 2 (AUDI Q2) ไปจนถึงรถขนาดใหญ่โตมโหฬารอย่าง เอาดี คิว 8 (AUDI Q8) ดังที่กล่าวไปแล้วใน "ระเบียงรถใหม่" ฉบับเดือนกันยายน 2019 เริ่มนำรถกิจกรรมกลางแจ้งข้ามพันธุ์ขนาดใหญ่ติดป้ายชื่อ เอาดี คิว 8 (AUDI Q8) ออกตลาดทั้งในเยอรมนีและอีกหลายประเทศในทวีปยุโรปเมื่อไตรมาส 3 ของปี 2018 และไม่เปิดทางเลือกให้แก่คนรักรถที่อยากเป็นเจ้าของรถอนุกรมนี้เลย เพราะมีรถโมเดลเดียว คือ AUDI Q8 50 TDI QUATTRO ติดตั้งเครื่องยนต์เทอร์โบดีเซลฉีดเชื้อเพลิงโดยตรง DOHC วี 6 สูบ 2,967 ซีซี 210 กิโลวัตต์/286 แรงม้า มีระบบการทำงานอย่างที่เรียกกันในภาษารถยนต์ว่า MILD HYBRID หรือไฮบริดแบบอ่อน และติดป้ายค่าตัวเริ่มต้นที่ระดับ 76,300 ยูโร อย่างไรก็ตาม ในช่วงเวลา 1ปีเศษที่ผ่านมานี้ เจ้าของเครื่องหมาย "สี่ห่วง" ได้เปิดทางเลือก โดยเสนอรถอนุกรมนี้ให้ลูกค้าในยุโรปเลือกใช้อีก 3 โมเดล คือ AUDI Q8 45 TDI QUATTRO ติดตั้งเครื่องยนต์ MILD HYBRID เทอร์โบดีเซลฉีดเชื้อเพลิงโดยตรง DOHC วี 6 สูบ 2,967 ซีซี 170 กิโลวัตต์/231 แรงม้า AUDI Q8 55 TFSI QUATTRO ติดตั้งเครื่องยนต์ MILD HYBRID เทอร์โบเบนซินฉีดเชื้อเพลิงโดยตรง DOHC วี 6 สูบ 2,995 ซีซี 250 กิโลวัตต์/340 แรงม้า และ AUDI SQ8 TDI ติดตั้งเครื่องยนต์ MILD HYBRID เทอร์โบดีเซลฉีดเชื้อเพลิงโดยตรง DOHC วี 6 สูบ 3,956 ซีซี 320 กิโลวัตต์/435 แรงม้า ทุกโมเดลส่งกำลังเครื่องยนต์สู่ล้อคู่หน้าคู่หลังผ่านระบบเกียร์อัตโนมัติ 8 จังหวะ TIPTRONIC ล่าสุดคือเมื่อวันศุกร์ที่ 20 พฤศจิกายน 2019 นี่เอง ทางเลือกอีกทางหนึ่งก็อุบัติขึ้น เมื่อมีการเปิดตัวรถโมเดลที่ 5 คือ เอาดี อาร์เอส คิว 8 (AUDI RS Q8) ที่กำลังอวดรูปโฉมโนมพรรณอยู่นี้ เป็นการเปิดตัวพร้อมกันกับคำยืนยันสรรพคุณว่า “นี่คือรถกิจกรรมกลางแจ้งที่ทรงพลังที่สุดของเอาดี” และพร้อมกันกับป้ายราคารวมภาษีมูลค่าเพิ่มร้อยละ 19 ซึ่งเริ่มต้นที่ระดับ 127,000 ยูโร หรือเท่ากับประมาณ 4.32 ล้านบาทไทย รวมทั้งบอกกล่าวด้วยว่าต้องรอจนถึงไตรมาสแรกของปีหนูทองร้องหากัญชานั่นแหละ จึงจะเริ่มการส่งมอบรถ ทั้งในเยอรมนีและประเทศอื่นๆในยุโรป รถแรงรถเร็วโมเดลหัวกะทินี้ มีตัวถังเพียงแบบเดียวเหมือนรถโมเดลอื่นๆ เป็นตัวถัง 5 ประตู 5 ที่นั่ง ซึ่งมีค่าสัมประสิทธิ์แรงต้านอากาศ 0.36 และมีรูปทรงส่วนท้ายคล้ายรถคูเป ติดตั้งเครื่องยนต์ MILD HYBRID ไบเทอร์โบเบนซินฉีดเชื้อเพลิงโดยตรง DOHC วี 8 สูบ ความจุ 3,996 ซีซี ให้กำลังสูงสุด 441 กิโลวัตต์/600 แรงม้า ที่ 6,000 รตน. และแรงบิดสูงสุด 800 นิวตัน-เมตร/81.6 กก.-ม. ที่ 2,200-4,500 รตน. ส่วนระบบเกียร์เพื่อส่งกำลังเครื่องยนต์สู่ล้อคู่หน้า/คู่หลังก็เป็นเกียร์อัตโนมัติ 8 จังหวะ TIPTRONIC สมรรถนะความเร็วตามตัวเลขของผู้ผลิต ชวนให้สะท้านใจทั้งตีนต้นและตีนปลาย อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ใช้เวลาเพียง 3.8 วินาที ความเร็วสูงสุดจำกัดไว้ที่ 250 กม./ชม. และจะเพิ่มเป็น 305 กม./ชม. เมื่อติดชุดตกแต่งจากโรงงานซึ่งมีชื่อว่า DYNAMIC PACKAGE มีอัตราสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงเฉลี่ย 12.1 ลิตร/100 กม. หรือ 8.3 กม./ลิตร และปล่อยคาร์บอนไดออกไซด์ 276-277 กรัม/กม. เป็นรถที่มีโหมดการขับให้เลือกถึง 7 โหมด คือCOMFORT-AUTO-DYNAMIC-EFFICIENCY-ALLROAD-OFFROAD-INDIVIDUAL ติดตั้งกระทะล้อขนาดใหญ่ที่สุดที่เคยพบเคยเห็นกันในรถ "สี่ห่วง" (มีให้เลือก 2 ขนาด คือ 22 นิ้ว กับ 23 นิ้ว) และมีสีตัวถังให้เลือกรวม 9 สี เป็นสีทึบ 1 สี คือ สีดำ TIEFSCHAWRZ เป็นสีมุก 1 สี คือ สีเทา DAYTONA GRAY และเป็นสีเมทัลลิค 7 สี คือ สีส้ม DRAGON ORANGE สีเงิน FOIL SILVER สีน้ำเงิน GALAXY BLUE สีขาว GLACIER WHITE สีแดง MATTE RED สีน้ำเงิน NAVARRE BLUE สีดำ ORCA BLACK