ยักษ์ใหญ่เจ้าของเครื่องหมายการค้า "ดาวสามแฉก” ก็เป็นผู้ผลิตรถยนต์สัญชาติเยอรมันอีกรายหนึ่งที่มีรถ เอสยูวี ให้เลือกใช้อย่างหลากหลาย คือ มี เอสยูวี ซึ่งพัฒนาจากรถเก๋ง อย่างที่เรียกกันในภาษาอังกฤษว่า CROSSOVER SUV หรือที่เรียกในพากย์ไทยสไตล์ "สื่อสากล" ว่ารถกิจกรรมกลางแจ้งข้ามพันธุ์ ให้เลือกใช้มากมายถึง 7 อนุกรม คือ รถขนาดเล็กกว่าเล็กกะทัดรัด MERCEDES-BENZ GLA รถขนาดเล็กกะทัดรัด MERCEDES-BENZ GLB รถขนาดเล็กกะทัดรัด MERCEDES-BENZ GLC กับ MERCEDES-BENZ GLC COUPE รถขนาดกลาง MERCEDES-BENZE GLE กับ MERCEDES-BENZ GLE COUPE รถขนาดใหญ่ MERCEDES-BENZ GLS และมีรถกิจกรรมกลางแจ้งพันธุ์แท้ที่ตัวถังมีโครงสร้างเหมือนรถพิคอัพอีก 1 อนุกรม คือ MERCEDES-BENZ G-KLASSเฉพาะ เมร์เซเดส-เบนซ์ จีแอลเอ (MERCEDES-BENZ GLA) ซึ่งพัฒนาจากรถเก๋ง เมร์เซเดส-เบนซ์ เอ-คลาสส์ (MERCEDES-BENZ A-CLASS) และเป็นรถ เอสยูวี ขนาดเล็กที่สุดในสายการผลิตนั้น รถรุ่นแรกซึ่งมีการผลิตในหลายประเทศเริ่มจำหน่ายเมื่อเดือนมีนาคม 2014 และเมื่อนับจนถึงสิ้นปีหมูทองท้องเหี่ยวสามารถขายในตลาดทั่วโลกไปแล้วมากกว่า 1 ล้านคัน ส่วนรถรุ่นที่ 2 ซึ่งจะมีการผลิตทั้งในเยอรมนีและสาธารณรัฐประชาชนจีน เพิ่งเปิดตัวเมื่อต้นเดือนธันวาคม 2019 และต้องรอจนถึงฤดูใบไม้ผลิของปี 2020 นั่นแหละจึงจะเริ่มการจำหน่ายในยุโรป หลังจากนั้นจึงเป็นคิวของสหรัฐอเมริกาและจีน ส่วนประเทศไทยยังไม่มีการกล่าวถึง โดยที่ในระยะแรกรถรุ่นใหม่นี้จะมีให้เลือกเพียง 2 โมเดล คือ MERCEDES-BENZ GLA 200 กับ MERCEDES-AMG GLA 35 4MATIC รถเล็กแต่แรงและเร็ว เมร์เซเดส-เอเอมจี จีแอลเอ 35 4 เมทิค (MERCEDES-AMG GLA 35 4MATIC) ที่เลือกมารวมไว้ใน "ระเบียงรถใหม่" เดือนนี้ นับเป็นผลงานใหม่ชิ้นสุดท้ายในรอบปีหมูทองร้องหาลุงของ เอเอมจี (AMG) ซึ่งเป็นหน่วยย่อยที่รับผิดชอบภารกิจการออกแบบ/พัฒนารถเร็วรถแรงของค่าย "ดาวสามห่วง" และเป็นโมเดลแรกของรถอนุกรมนี้ที่ออกสู่โชว์รูมพร้อมกับป้ายยี่ห้อ เมร์เซเดส-เอเอมจี (MERCEDES-AMG) ตัวถังขนาดเล็กกว่าเล็กกะทัดรัดของรถโมเดลนี้ คือต้องเพิ่มอีกหลายเซนติเมตรจึงจะยาว 4 เมตรครึ่ง พัฒนาจากตัวถังซึ่งยาว 4.410 ม.กว้าง 1.834 ม. สูง 1.611 ม. และมีค่าสัมประสิทธิ์แรงต้านอากาศ 0.28 ของ เมร์เซเดส-เบนซ์ จีแอลเอ (MERCEDES-BENZ GLA) รุ่นสามัญ โดยปรับปรุงและเปลี่ยนแปลงรายละเอียดในหลายจุดทั้งภายนอกและภายใน ตัวอย่างเช่น เมื่อมองจากภายนอกจุดเปลี่ยนที่เห็นได้ชัด คือ แผงกระจังที่ออกแบบขึ้นใหม่ทั้งหมดและเป็นการออกแบบสไตล์เดียวกันกับรถ เมร์เซเดส-เอเอมจี (MERCEDES-AMG) โมเดลอื่นๆ กระทะล้ออัลลายขนาด 19 นิ้วเคลือบสีเทา TANTALUM GREY ที่ทำขึ้นโดยเฉพาะสำหรับรถโมเดลนี้ และท่อไอเสียรูปวงกลมที่ติดตั้งทั้งด้านขวาและด้านซ้ายของตัวถัง เป็นรถขับเคลื่อนทุกล้อ ด้วยพลังของเครื่องยนต์เทอร์โบเบนซินฉีดเชื้อเพลิงโดยตรง DOHC 4 สูบเรียง 1,991 ซีซี ซึ่งให้กำลังสูงสุด 225 กิโลวัตต์/306 แรงม้า ที่ 5,800 รตน. ให้แรงบิดสูงสุด 400 นิวตัน-เมตร/40.8 กก.-ม. ที่ 3,000-4,000 รตน. และส่งกำลังสู่ล้อผ่านระบบเกียร์อัตโนมัติคลัทช์คู่ AMG SPEEDSHIFT DCT 8G อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ทำได้ใน 5.1 วินาที ความเร็วสูงสุดจำกัดไว้ที่ 250 กม./ชม. และเมื่อวัดตามมาตรฐาน NEDC จะมีอัตราสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงเฉลี่ย 7.4-7.5 ลิตร/100 กม. หรือ 13.3-13.5 กม./ลิตร และปล่อยคาร์บอนไดออกไซด์ 170-171 กรัม/กม.