เซนโตดีเอซี ซูเพอร์คาร์รุ่นพิเศษฉลองอายุครบ 110 ปี บูกัตตีปิด “ระเบียงรถใหม่” ในเดือนแห่งการชุมนุมรถสปอร์ทระดับ “ซูเพอร์คาร์” ด้วยผลงานใหม่ของค่าย บูกัตตี ออโทโมบิลส์ เอสเอเอส (BUGATTI AUTOMOBILES SAS) ผู้ผลิตรถยนต์หลายชีวิต ซึ่งเริ่มกิจการเมื่อปี 1919 และเปลี่ยนมือเจ้าของมาแล้วหลายครั้ง เจ้าของกิจการปัจจุบัน คือ กลุ่มบริษัทรถยนต์ยักษ์ใหญ่ โฟล์คสวาเกน กรุพ (VOLKSWAGEN GROUP) ของเยอรมนี ซึ่งซื้อกิจการจากเจ้าของเดิมซึ่งเป็นคนอิตาลีเมื่อปี 1998 ขณะนี้ยอดผู้ผลิตรถสปอร์ทสุดหรูซึ่งมีที่ทำการและโรงงานอยู่ในฝรั่งเศส ผลิตรถเพียง 2 แบบ คือ บูกัตตี ชีรน (BUGATTI CHIRON) ซึ่งเริ่มเข้าสู่สายการผลิตแทนที่รถรุ่นเดิม คือ บูกัตตี เวย์รน (BUGATTI VEYRON) เมื่อปี 2016 กับ บูกัตตี ชีรน สปอร์ท (BUGATTI CHIRON SPORT) ซึ่งพัฒนาต่อกิ่งต่อยอดมาอีกทอดหนึ่งจากรถแบบแรกและเริ่มจำหน่ายเมื่อปี 2018 กับมีรถอย่างที่เรียกกันในภาษาอังกฤษว่า ONE OFF ซึ่งเป็นรถที่ผลิตในจำนวนจำกัดอีก 3 แบบ คือ บูกัตตี ดีโว (BUGATTI DIVO) บูกัตตี ลา วัวตือเรอ นัวร์ (BUGATTI LA VOITURE NOIRE) และบูกัตตี เซนโตดีเอซี (BUGATTI CENTODIECI) โมเดลสุดท้าย คือ บูกัตตี เซนโตดีเอซี (BUGATTI CENTODIECI) ซึ่งเป็นรถแบบใหม่ล่าสุดนี้ เพิ่งเปิดตัวเมื่อกลางเดือนสิงหาคม 2019 ผลิตเป็นพิเศษเพื่อเฉลิมฉลองวาระที่ค่ายนี้มีอายุครบ 110 ปี ในปี 2019 (ชื่อ CENTODIECI เป็นภาษาอิตาลี แปลว่า 110) รวมทั้งเพื่อรำลึกถึงรถสปอร์ท บูกัตตี อีบี 110 (BUGATTI EB110) ซึ่งเริ่มผลิตเมื่อปี 1991 และผลิตเพียง 118 คัน ในยุคที่เจ้าของกิจการ คือ โรมาโน อาร์ติโอลี (ROMANO ARTIOLI) นักธุรกิจชาวอิตาลี ก่อนขายกิจการให้แก่ค่าย โฟล์คสวาเกน เมื่อปี 1998 เป็นรถที่จะผลิตในจำนวนจำกัดมากๆ คือ เพียง 10 คัน ไม่มีขาดไม่มีเกิน ตั้งราคายังไม่รวมภาษีไว้สูงลิบลับที่ระดับ 8 ล้านยูโร หรือเท่ากับประมาณ 280 ล้านบาทไทย (เมื่อคิดว่าเงินของคนหัวแดง 1 ยูโร แลกได้ด้วยเงินของคนหัวดำ 35 บาทถ้วน) และบอกว่ามีผู้ซื้อหมดแล้วทุกคันตั้งแต่ยังไม่ได้เปิดตัวด้วยซ้ำ เช่นเดียวกับรถสไตล์เดียวกันนี้อีก 2 แบบที่กล่าวข้างต้น รถรุ่นพิเศษรุ่นนี้ไม่ใช่รถที่ออกแบบขึ้นใหม่ทั้งหมด แต่นำรถซึ่งมีอยู่แล้วในสายการผลิต คือ บูกัตตี ชีรน (BUGATTI CHIRON) มาพัฒนาต่อกิ่งต่อยอดและสร้างมูลค่าเพิ่ม ปรากฏตัวที่งานมหกรรมยาน-ยนต์การกุศล PEBBLE BEACH CONCOURS D’ELEGANCE ซึ่งมีขึ้นที่สนามกอล์ฟเลื่องชื่อในรัฐแคลิฟอร์เนียของสหรัฐอเมริกาเมื่อวันอาทิตย์ที่ 18 สิงหาคม 2019 ตัวถังซึ่งขนาดไม่ได้แตกต่างจากรถซึ่งเป็นที่มาอย่างมีสาระสำคัญ มีรายละเอียดของตัวถังภายนอกหลายจุดซึ่งออกแบบโดยได้รับแรงบันดาลใจจากรถ บูกัตตี อีบี 110 (BUGATTI EB110) ที่กล่าวข้างต้น ตัวอย่าง คือ แผงกระจังหน้า บานกระจกที่โอบล้อมเสาค้ำหลังคาคู่หน้าจนมองไม่เห็น และช่องดักลมด้านข้างช่องเล็กๆ จำนวน 5 ช่องในแต่ละด้านของตัวถัง อุปกรณ์ทางอากาศพลศาสตร์ก็ปรับเปลี่ยนหลายจุด รวมทั้งปีกท้ายขนาดใหญ่โตมโหฬารที่ค่ายนี้บอกว่าช่วยเพิ่มแรงกดท้ายรถได้ 90 กก. เป็นรถขับเคลื่อนทุกล้อด้วยพลังของเครื่องยนต์เบนซินฉีดตรง DOHC ดับเบิลยู 16 สูบ 7,993 ซีซี ติดเทอร์โบ 4 ชุด ให้กำลังสูงสุด 1,176 กิโลวัตต์/1,600 แรงม้า และส่งกำลังสู่ล้อผ่านระบบเกียร์อัตโนมัติคลัทช์คู่ 7 จังหวะ อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ใช้เวลาเพียง 2.4 วินาที อัตราเร่ง 0-200 กม./ชม. ใช้เวลา 6.1 วินาที และอัตราเร่ง 0-300 กม./ชม. ทำได้ใน 13.1 วินาที ส่วนความเร็วสูงสุดจำกัดไว้ที่ 380 กม./ชม. เห็นตัวเลขแล้วก็อดสงสัยไม่ได้ว่าทำไมจึงจำกัดไว้แค่นี้ ? เพราะรถซึ่งเป็นที่มา คือ บูกัตตี ชีรน (BUGATTI CHIRON) ยังจำกัดไว้สูงกว่า คือ สูงถึง 420 กม./ชม.