ไอดี.3 โฟล์คสวาเกน รุ่นประหยัด ที่ไม่ใช้เครื่องยนต์โฟล์คสวาเกน (VOLKSWAGEN) ของเยอรมนี นับเป็นผู้ผลิตรถยนต์ยักษ์ใหญ่อีกรายหนึ่งที่ให้ความสำคัญเป็นอย่างมากกับรถพลังไฟฟ้า เมื่อนับจนถึงสิ้นปี 2024 ค่ายนี้ตั้งใจจะใช้เงินในโครงการพัฒนารถไฟฟ้าถึง 33,000 ล้านยูโร หรือไม่น้อยกว่า 1.15 ล้านล้านบาทไทยนั่นเทียว อย่างไรก็ตาม มีความเห็นเป็นส่วนตัวว่า เป็นค่ายที่เริ่มงานด้านนี้ช้าไปหน่อยเมื่อเทียบกับยักษ์ใหญ่อีกหลายค่าย รถพลังไฟฟ้าล้วนๆ ของค่ายนี้ที่ทีมงานของ “สื่อสากล” มีโอกาสสัมผัสตัวจริงเป็นแบบแรก แต่จนแล้วจนรอดก็ยังไม่มีโอกาสได้ขับ คือ โฟล์คสวาเกน อี-อัพ ! (VOLKSWAGEN E-UP!) ซึ่งเริ่มการจำหน่ายในเมืองเบียร์เมื่อปี 2013 ส่วนโฟล์คสวาเกน ไอดี.3 (VOLKSWAGEN ID.3) ที่กำลังนำเรื่องราวมาเล่าสู่กันฟังในเดือนนี้ เป็นรถพลังไฟฟ้าล้วนๆ แบบใหม่ เพิ่งปรากฏตัวแบบ WORLD PREMIERE หรือ “ครั้งแรกในโลก” ที่งานมหกรรมยานยนต์ฟรังค์ฟวร์ทครั้งล่าสุดเมื่อเดือนกันยายน 2019 พร้อมเปิดรับการสั่งจองในเดือนเดียวกัน และยืนยันว่าจะเริ่มการส่งมอบรถในฤดูร้อนของปี 2020 (ประมาณไตรมาส 3) เป็นรถที่วิจารณ์กันในยุโรปว่า มีความสำคัญต่อค่ายนี้ระดับเดียวกันกับรถ โฟล์คสวาเกน บีเทิล (VOLKSWAGEN BEETLE) รุ่นดั้งเดิม ซึ่งเริ่มจำหน่ายเมื่อปี 1938 อยู่ในสายการผลิตยาวนานกว่า 6 ทศวรรษ และมียอดผลิตทั่วโลกมากกว่า 21 ล้านคัน กับรถ โฟล์คสวาเกน กอล์ฟ (VOLKSWAGEN GOLF) ซึ่งเริ่มจำหน่ายเมื่อปี 1974 เปลี่ยนรุ่นไปแล้ว 7 ครั้ง และขายทั่วโลกไปแล้วมากกว่า 30 ล้านคัน เป็นรถพลังไฟฟ้าในตัวถัง 5 ประตูแฮทช์แบค 5 ที่นั่ง ที่ออกแบบขึ้นใหม่ทั้งหมดตั้งแต่หัวจรดหาง เป็นตัวถังยาว 4.261 ม. กว้าง 1.809 ม. สูง 1.552 ม. ซึ่งมีค่าสัมประสิทธิ์แรงต้านอากาศ 0.267 และหน้าตาดูดีมาก เป็นรถขับเคลื่อนล้อหลัง ที่ใช้มอเตอร์ไฟฟ้าขนาด 150 กิโลวัตต์/204 แรงม้า ทำงานร่วมกันกับแบทเตอรี ซึ่งจะมีให้เลือกรวม 3 ขนาด คือ ขนาด 45 กิโลวัตต์ชั่วโมง ซึ่งชาร์จไฟเต็มแต่ละครั้งรถจะวิ่งได้ไกล 330 กม. (เมื่อวัดตามมาตรฐาน WLTP) ขนาด 58 กิโลวัตต์ชั่วโมง ซึ่งวิ่งได้ไกล 420 กม. (WLTP) และขนาด 77 กิโลวัตต์ชั่วโมง ซึ่งวิ่งได้ไกล 550 กม. (WLTP) แต่ในระยะแรก รถที่เปิดรับการสั่งจองไปแล้วจะติดตั้งแบทเตอรีขนาดกลาง คือ ขนาด 58 กิโลวัตต์ชั่วโมง ที่น่าสนใจมาก และบางคนอาจคาดไม่ถึงก็คือ เนื่องจากเมื่อวิ่งช้าๆ ผู้คนที่เดินไปมาตามท้องถนนยากจะได้ยินเสียงวิ่งของรถพลังไฟฟ้าล้วนๆ ค่ายนี้จึงตั้งใจจะติดตั้งเสียงรถวิ่งเทียมไว้ในรถแบบนี้ด้วย เป็นผลงานจากความร่วมมือกับ เลสลี มันโดคี (LESLIE MANDOKI) นักดนตรี และนักประพันธ์เพลงชาวฮังการีชื่อดังวัย 67 ปี เสียงนี้จะดังขึ้นเองโดยอัตโนมัติเมื่อรถเริ่มออกวิ่งจนเมื่อวิ่งเร็ว 30 กม./ชม. และจะดังขึ้นด้วยเมื่อรถวิ่งถอยหลัง ยักษ์ใหญ่ของเมืองเบียร์บอกว่านี่ คือ รถพลังไฟฟ้าที่ไม่รวยก็เป็นเจ้าของได้ เพราะเปรียบเทียบกันแล้วก็จะพบว่า เป็นรถที่มีต้นทุนในการครอบครอง และการใช้งานต่ำกว่ารถเครื่องยนต์สันดาปภายในขนาดเดียวกัน โดยระบุตัวเลขว่า โฟล์คสวาเกน ไอดี.3 (VOLKSWAGEN ID.3) รุ่นติดตั้งแบทเตอรีขนาดเล็กสุด คือ 45 กิโลวัตต์ชั่วโมง ซึ่งในเยอรมนีติดป้ายค่าตัว 23,430 ยูโร (ประมาณ 820,000 บาทไทย) โดยเฉลี่ยจะช่วยประหยัดเงินได้มากถึงปีละ 840 ยูโร หรือประมาณ 29,000 บาทไทยนั่นเทียว นอกจากรถแบบนี้แล้ว ปัจจุบัน โฟล์คสวาเกน ในเยอรมนีมีรถพลังไฟฟ้าล้วนๆ ให้เลือกอีก 2 แบบ คือ โฟล์คสวาเกน อี-อัพ! (VOLKSWAGEN E-UP!) ซึ่งค่าตัวรวมภาษีมูลค่าเพิ่มร้อยละ 19 เริ่มต้นที่ 21,975 ยูโร และชาร์จไฟเต็มแต่ละครั้งจะวิ่งได้ไกล 258 กม. (WLTP) กับโฟล์คสวาเกน อี-กอล์ฟ (VOLKSWAGEN E-GOLF) ซึ่งค่าตัวเริ่มต้นที่ 31,900 ยูโร และวิ่งได้ไกล 230 กม. (WLTP) เมื่อชาร์จไฟเต็ม