เป็นอีกเดือนหนึ่งที่ “ระเบียงรถใหม่” นำเสนอเรื่องราวของ เอสยูวี หรือรถกิจกรรมกลางแจ้งล้วนๆ เป็นรถหลากหลายชาติพันธุ์ ซึ่งมีการผลิตทั้งใน และนอกประเทศ กล่าวคือ มีทั้งรถยี่ห้ออังกฤษที่ผลิตในอังกฤษ รถยี่ห้อฝรั่งเศสที่ผลิตในฝรั่งเศส รถยี่ห้อฝรั่งเศสแต่ผลิตในสเปน และรถยี่ห้ออเมริกันแต่ผลิตในอิตาลี ที่เหมือนกันก็คือ ทั้งหมดล้วนเป็นรถกิจกรรมกลางแจ้งที่ตัวถังมีโครงสร้างเหมือนรถเก๋ง ซึ่งเรียกกันในภาษาอังกฤษว่า CROSSOVER SUV (ครอสส์โอเวอร์ เอสยูวี) หรือที่เรียกในภาษาไทยสไตล์ “สื่อสากล” ว่า รถกิจกรรมกลางแจ้งข้ามพันธุ์ และทั้งหมดล้วนติดตั้งระบบขับไฮบริดชนิดที่ต้องมีการเสียบปลั๊กเพื่อชาร์จไฟแบทเตอรี อย่างที่เรียกในภาษาอังกฤษว่า PLUG-IN HYBRID (พลัก-อิน ไฮบริด) เริ่มกันด้วยผลงานใหม่ป้ายแดงของยอดผู้ผลิตรถ เอสยูวี เมืองอังกฤษซึ่งปัจจุบันมีเจ้าของอยู่ในอินเดียLAND ROVER DISCOVERY SPORT (แลนด์ โรเวอร์ ดิสคัฟเวอรี สปอร์ท) เป็นรถขนาดเล็กกะทัดรัดที่เริ่มจำหน่ายในเมืองผู้ดีเมื่อเดือนมกราคม 2015 แทนที่รถ LAND ROVER FREELANDER (แลนด์ โรเวอร์ ฟรีแลนเดอร์) ซึ่งอยู่ในสายการผลิตระหว่างปี 1997-2014 มีตัวถังขนาดเดียว คือ ตัวถังทรง 2 กล่อง ยาว 4.597 ม. กว้าง 1.895 ม. สูง 1.727 ม. และมีค่าสัมประสิทธิ์แรงต้านอากาศ 0.37-0.38 แต่มีห้องโดยสารให้เลือกได้ 2 แบบ คือ แบบติดตั้งเก้าอี้ที่นั่ง 2 แถว นั่งได้รวม 5 คน กับแบบติดตั้งเก้าอี้ที่นั่ง 3 แถว นั่งได้ 7 คน นับเป็นรถที่โดนใจผู้ใช้ และครองตำแหน่งรถขายดีที่สุดของค่ายนี้อย่างต่อเนื่องกันมาแล้วหลายปี ปีที่ขายดีที่สุด คือ 2017 ซึ่งทำยอดขายในทุกตลาดได้มากถึง 126,078 คัน รถที่จำหน่ายในเมืองแม่ขณะนี้ เป็นรุ่นที่เพิ่งผ่านการปรับปรุงแบบ FACELIFT หรือ “ยกหน้า” เริ่มจำหน่ายเมื่อไตรมาสสุดท้ายปี 2019 ตามข้อมูลล่าสุดเมื่อปลายเดือนมิถุนายนที่เพิ่งผ่านพ้นไป มีรถเบนซินให้เลือก 2 โมเดลหลัก คือ DISCOVERY SPORT P200 AWD กับ DISCOVERY SPORT P250 AWD ทั้งคู่เป็นรถขับทุกล้อติดตั้งเครื่องยนต์บลอคเดียวกัน คือ เครื่องเทอร์โบเบนซินฉีดตรง DOHC 4 สูบเรียง 1,997 ซีซี ซึ่งทำงานร่วมกับระบบ MILD HYBRID หรือไฮบริดแบบอ่อน แต่ปรับแต่งต่างกัน คือโมเดลแรกให้กำลังสูงสุด 147 กิโล-วัตต์/200 แรงม้า ส่วนโมเดลหลังให้กำลังสูงสุด 183 กิโลวัตต์/249 แรงม้า และมีรถดีเซล 4 โมเดลหลัก คือ DISCOVERY SPORT D150 FWD-DISCOVERY SPORT D150 AWD-DISCOVERY SPORT D180 AWD-DISCOVERY SPORT D240 AWD ทุกโมเดลติดตั้งเครื่องยนต์บลอคเดียวกัน คือ เครื่องเทอร์โบดีเซลฉีดตรง DOHC 4 สูบเรียง 1,999 ซีซี แต่มีรายละเอียดต่างกัน และปรับตกแต่งต่างกัน คือ รถ 2 โมเดลแรกให้กำลังสูงสุด 110 กิโลวัตต์/150 แรงม้า โมเดลถัดมาซึ่งมีระบบไฮบริดแบบอ่อนด้วย ให้กำลังสูงสุด 132 กิโลวัตต์/180 แรงม้า และโมเดลหลังสุดซึ่งก็มีระบบไฮบริดแบบอ่อนเช่นกันให้กำลังสูงสุด 176 กิโลวัตต์/240 แรงม้า ส่วน LAND ROVER DISCOVERY SPORT P300E (แลนด์ โรเวอร์ ดิสคัฟเวอรี สปอร์ท พี 300 อี) ที่เลือกมาเปิดระเบียงเดือนนี้ เป็นรถโมเดลใหม่ล่าสุด และเป็นรถที่มีแต่ห้องโดยสาร 5 ที่นั่ง เพิ่งเปิดตัวโดยไม่มีพิธีการใดๆ พร้อมเปิดรับการสั่งจองเมื่อวันพุธที่ 22 เมษายน 2020 แต่เนื่องจากสายการผลิตของค่ายนี้ซึ่งตั้งอยู่ที่เมือง HALEWOOD (เฮลวูด) ในภาคตะวันตกเฉียงเหนือของอังกฤษ ต้องหยุดการทำงานไปหลายสัปดาห์เพราะพิษไวรัส จึงคาดหมายว่าต้องรอจนถึงไตรมาส 3 ของปีจึงจะเริ่มการส่งมอบรถ นับเป็นโมเดลแรกของรถอนุกรมนี้ที่ติดตั้งระบบขับไฮบริดชนิดต้องมีการเสียบปลั๊กเพื่อชาร์จไฟ เป็นระบบขับทุกล้อ ซึ่งใช้เครื่องยนต์เทอร์โบเบนซินฉีดตรง DOHC 3 สูบเรียง 1,497 ซีซี 147 กิโลวัตต์/200 แรงม้า และระบบเกียร์อัตโนมัติ 8 จังหวะ ขับล้อคู่หน้า และใช้มอเตอร์ไฟฟ้า 80 กิโลวัตต์/109 แรงม้า ซึ่งรับพลังไฟฟ้าจากแบทเตอรีลิเธียม-ไอออนขนาด 15 กิโลวัตต์ชั่วโมงที่ติดตั้งอยู่ใต้พื้นรถบริเวณเบาะหลัง ขับล้อคู่ที่เหลือ ได้กำลังสุทธิสูงสุด 227 กิโล-วัตต์/309 แรงม้า สามารถทำอัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ใน 6.6 วินาที ความเร็วสูงสุด 210 กม./ชม. มีอัตราสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงเฉลี่ย 1.6 ลิตร/100 กม. หรือ 62.5 กม./ลิตร และปล่อยคาร์บอนไดออกไซด์ 36 กรัม/กม. (เมื่อวัดตามมาตรฐาน WLTP) กรณีวิ่งด้วยพลังไฟฟ้าล้วนๆ จะเป็นรถขับล้อหลังซึ่งชาร์จไฟเต็มแต่ละครั้ง จะวิ่งได้ไกล 62 กม. (เมื่อวัดตามมาตรฐาน WLTP) และความเร็วสูงสุดจะลดลงเป็น 135 กม./ชม. (ที่ความเร็วนี้ รถจะตัดการทำงานของมอเตอร์ไฟฟ้า และเปลี่ยนไปขับล้อหน้าด้วยเครื่องยนต์อย่างเดียว) เป็นรถที่มีโหมดการขับให้เลือก 3 แบบ คือ HYBRID MODE รถจะขับด้วยระบบไฮบริดสมบูรณ์แบบ EV MODE รถจะวิ่งด้วยพลังไฟฟ้าเพียงอย่างเดียว SAVE MODE จะขับแบบไฮบริดที่เน้นการประหยัดพลังไฟฟ้า มีรถให้เลือก 3 โมเดลย่อย คือ P300E R-DYNAMIC S ซึ่งค่าตัวเริ่มต้นที่ 45,370 ปอนด์ (ประมาณ 1.81 ล้านบาทไทย) P300E R-DYNAMIC SE 48,430 ปอนด์ (ประมาณ 1.94 ล้านบาทไทย) และ P300E R-DYNAMIC HSE 51,070 ปอนด์ (ประมาณ 2.04 ล้านบาทไทย) ทั้งหมดนี้เป็นราคาค่าตัวที่เรียกในเมืองผู้ดีว่า ON THE ROAD PRICE คือ จ่ายแล้วขับรถออกถนนได้เลย เพราะรวมภาษีมูลค่าเพิ่มร้อยละ 20 ของอังกฤษ และค่าจดทะเบียนไว้เรียบร้อยแล้ว