บอกไปแล้วว่าในภาพยนตร์สายลับ 007 เรื่องล่าสุด คือ NO TIME TO DIE ซึ่งมีชื่อในพากย์ไทยว่า พยัคฆร้ายฝ่าเวลามรณะ นั้น มีรถติดป้ายยี่ห้อ ASTON MARTIN (แอสตัน มาร์ทิน) ร่วมแสดงบทบาทอยู่ 4 รุ่น คือ ASTON MARTIN DB5 (แอสตัน มาร์ทิน ดีบี 5) ASTON MARTIN V8 (แอสตัน มาร์ทิน วี 8) ASTON MARTIN DBS SUPERLEGGERA (แอสตัน มาร์ทิน ดีบีเอส ซูเพอร์เลกเกรา) และรถอนาคต ASTON MARTIN VALHALLA (แอสตัน มาร์ทิน วัลฮัลลา)ให้รายละเอียดเพิ่มเติมไว้ตรงนี้ว่า รุ่นแรกเป็นรถอดีตที่อยู่ในสายการผลิตระหว่างปี 1963-1965 รุ่นที่ 2 เป็นรถอดีตที่อยู่ในสายการผลิตระหว่างปี 1969-1989 รุ่นที่ 3 เป็นรถปัจจุบันซึ่งเริ่มเข้าสู่สายการผลิตเมื่อกลางปี 2018 ส่วนรุ่นสุดท้ายซึ่งเป็นรถอนาคต เป็นรถสปอร์ทระดับ HYPERCAR ที่ค่ายนี้กำลังร่วมกันพัฒนากับทีมแข่งรถกรองด์ปรีซ์ RED BULL RACING (เรด บูลล์ เรซิง) เป็นรถคูเปวางเครื่องกลางลำ/ขับเคลื่อนล้อหลัง ที่ตั้งใจจะผลิตเพียง 500 คัน และน่าจะเริ่มการผลิตได้ภายในปี 2021 บอกไปแล้วเช่นกันว่าในโอกาสที่ภาพยนตร์เรื่องล่าสุดนี้จะเริ่มการฉายในเดือนพฤศจิกายน 2020 ยอดผู้ผลิตรถสปอร์ทเมืองผู้ดีจะเฉลิมฉลองด้วยรถรุ่นพิเศษ 2 รุ่น และก็บอกไปเรียบร้อยแล้วว่า รุ่นหนึ่ง คือ ASTON MARTIN VANTAGE 007 EDITION (แอสตัน มาร์ทิน วานเทจ 007 เอดิชัน) แต่ยังไม่ได้บอกว่าอีกรุ่น คือ รถอะไร ? มาถึงตรงนี้ก็คงทราบกันแล้วว่า คือ ASTON MARTIN DBS SUPERLEGGERA 007 EDITION (แอสตัน มาร์ทิน ดีบีเอส ซูเพอร์เลกเกรา 007 เอดิชัน) ที่กำลังอวดโฉมอยู่นี้นี่เอง ดัดแปลงแต่งเติมจากรถ ASTON MARTIN DBS SUPERLEGGERA (แอสตัน มาร์ทิน ดีบีเอส ซูเพอร์เลกเกรา) รุ่นปัจจุบัน ซึ่งติดป้ายค่าตัว 225,000 ปอนด์ หรือประมาณ 9.45 ล้านบาทไทย ให้มีลักษณะเหมือนกับรถคันที่แสดงบทบาทในภาพยนตร์ โดยหน่วยงานพิเศษของค่ายนี้ซึ่งมีชื่อว่า Q BY ASTON MARTIN (คิว บาย แอสตัน มาร์ทิน) มีการปรับเปลี่ยนรายละเอียดหลายรายการ คือ ตั้งแต่เคลือบสีตัวถังด้วยสีเทา CERAMIC GREY หุ้มหลังคา กระจกมองข้าง และอุปกรณ์อากาศพลศาสตร์อีกหลายชิ้นด้วยคาร์บอนไฟเบอร์สีดำ ติดตั้งกระทะล้อแบบพิเศษขนาด 11 นิ้ว ซึ่งเรียกชื่อยาวเหยียดในภาษาอังกฤษว่า GLOSS BLACK DIAMOND TURNED Y-SPOKE 21 INCH WHEEL ไปจนถึงการติดสัญลักษณ์ 007 ในหลายตำแหน่งของตัวรถ ส่วนกลไกที่ทำให้รถวิ่งได้ไม่มีการเปลี่ยนแปลงอะไร เครื่องยนต์ที่ซ่อนตัวภายใต้ฝากระโปรงหน้ายังคงเป็นเครื่องทวินเทอร์โบเบนซิน DOHC วี 12 สูบ 5,204 ซีซี 725 แรงม้า บลอคเดิม ระบบเกียร์เพื่อส่งกำลังเครื่องยนต์สู่ล้อคู่หลังก็ยังเป็นเกียร์อัตโนมัติ 8 จังหวะ ZF ชุดเดิม ตัวเลขความเร็วทั้งตีนต้นและตีนปลายซึ่งคาดว่าน่าจะทำได้เหมือนรถซึ่งเป็นที่มา เห็นแล้วขนพองสยองเกล้า อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ใช้เวลาแค่ 3.4 วินาที ความเร็วสูงสุด 340 กม./ชม. กำหนดค่าตัวไว้ที่ 279,025 ปอนด์ หรือประมาณ 11.7 ล้านบาทไทย และจำกัดจำนวนผลิตไว้เพียง 25 คัน สั่งจองวันนี้แล้วต้องรอจนถึงไตรมาสแรกของปีหน้า จึงจะเริ่มการส่งมอบรถ