ชื่อของ MITSUBISHI DELICA (มิตซูบิชิ เดลีคา) เริ่มมีมาตั้งแต่ปี 1968 อยู่ในกลุ่มรถแวน และพิคอัพทรัค ส่วนชื่อ DELICA มีที่มาจากคำว่า DELIVERY CAR และ MITSUBISHI DELICA รุ่นล่าสุดอยู่ในเจเนอเรชันที่ 6 ใช้ชื่อว่า MITSUBISHI DELICA D:5 (มิตซูบิชิ เดลีคา ดี:5) ตามรถที่เป็นต้นแบบ คือ CONCEPT D:5 ออกแบบเน้นการผสมผสานระหว่างรถเอมพีวีกับเอสยูวี โดยได้รับการปรับโฉมให้สวยงาม ทันสมัยมากยิ่งขึ้น ในรูปแบบของรถมีนีแวนทรงกล่อง มิติตัวรถ ยาว/กว้าง/สูง 4,800/1,795/1,875 มม. ระยะฐานล้อ 2,850 มม. ระยะห่างจากพื้นดิน 185 มม. เพิ่มสูงขึ้นจากตัวเดิม 20 มม. ใช้พแลทฟอร์มร่วมกับ OUTLANDER (เอาท์แลนเดอร์), LANCER EVO X (แลนเซอร์ เอโว เอกซ์) และ ASX (เอเอสเอกซ์) ในส่วนของแชสซีส์มีความแข็งแกร่งมากขึ้น น้ำหนักเบาขึ้น ให้ความปลอดภัยสูง การลดน้ำหนักในจุดต่างๆลง มีผลทำให้รถรุ่นนี้เบากว่ารุ่นที่แล้วถึง 300- 500 กก. ซึ่งมีผลต่อการควบคุมบังคับ และการสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงทำได้ดีขึ้นมากทีเดียวDELICA ใหม่ มาพร้อมความอเนกประสงค์ในการใช้งาน มุมปะทะด้านหน้า และมุมจากด้านหลังออกแบบใหม่ให้สามารถผ่านอุปสรรคในการขับขี่ได้ดียิ่งขึ้น รวมไปถึงขับเคลื่อนด้วยระบบ 4 ล้อที่จะช่วยเพิ่มสมรรถนะในการลุยบนเส้นทางทุรกันดารได้อย่างง่ายดาย และปลอดภัย จนรถรุ่นนี้ได้รับความนิยมเป็นอย่างสูงในประเทศออสเตรเลีย กระจังหน้าแบบโครเมียม ด้านล่างของกันชนหน้า และหลังออกแบบเป็นสปอยเลอร์ดักลมไปในตัว ไฟหน้า และไฟท้ายแบบแอลอีดี ประตูซ้าย/ขวา ที่ด้านหลังเป็นแบบสไลด์เพื่อความสะดวกในการใช้งาน และประหยัดพื้นที่ ส่วนปลายของหลังคามีสปอยเลอร์เพื่อผลทางด้านอากาศพลศาสตร์ และไม่ให้กระแสลมย้อนกลับมาที่ตัวรถ ห้องโดยสารสามารถรองรับผู้โดยสารได้ 7-8 ที่นั่งตามรุ่นย่อยต่างๆ มีความสูงเพิ่มขึ้นจากรุ่นที่แล้ว 100 มม. โดยที่ความสูงโดยรวมของตัวรถกลับลดลง 100 มม. แผงหน้าปัดออกแบบมาได้ทันสมัย ใช้งานง่าย พวงมาลัยแบบมัลทิฟังค์ชันมาพร้อมแพดเดิล ชิฟท์ เพื่อเพิ่มความสะดวกในการเปลี่ยนตำแหน่งเกียร์ ในส่วนของคอนโซลกลางติดตั้งจอขนาด 10.1 นิ้ว เพื่อรองรับระบบความบันเทิง และระบบนำทาง นอกจากนี้ บริเวณเพดานหลังคามีจอขนาด 11.5 นิ้ว สำหรับผู้โดยสารด้านหลัง ระบบเครื่องเสียงระดับพรีเมียมจาก ROCKFORD FOSGATE (รอค ฟอร์ด ฟอสเกท) พร้อมแอมพ์ที่มีกำลังขับขนาด 860 วัตต์ ลำโพง 12 ตัว ระบบ DOLBY DIGITAL 5.1 เซอร์ราวน์ด ซาวน์ด ระบบปรับอากาศแบบควบคุมอุณหภูมิอัตโนมัติ ตำแหน่งข้างคันเกียร์มีสวิทช์ควบคุมระบบขับเคลื่อน 3 รูปแบบ คือ 2 ล้อ, 4 ล้อ และลอค เครื่องยนต์ดีเซล คอมมอนเรล เทอร์โบ อินเตอร์คูเลอร์ รหัส 4N14 แบบ 4 สูบ ความจุ 2.3 ลิตร ให้กำลังสูงสุด 148 แรงม้า ที่ 3,500 รตน. แรงบิดสูงสุด 38.7 กก.-ม. ที่ 2,000 รตน. ติดตั้งอุปกรณ์กรองไอเสียใหม่ล่าสุด พร้อมกับยังมีช่องใส่สารแอดบลูเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพของน้ำมันเชื้อเพลิง ระบบส่งกำลังแบบเกียร์อัตโนมัติ 8 จังหวะ ขับเคลื่อนแบบ 4WD ความจุถังน้ำมัน 64 ลิตร เครื่องยนต์คลีนดีเซลตัวนี้ ให้แรงบิดที่รอบต่ำ มีอัตราเร่งที่นุ่มนวล ต่อเนื่องไปจนถึงรอบสูงโดยมีอัตราส่วนกำลังอัด 14.9 ที่จะช่วยลดแรงดัน และอุณหภูมิในห้องเผาไหม้ลง มีอัตราสิ้นเปลืองโดยเฉลี่ยที่ 13.6 กม./ลิตร ตามมาตรฐาน JC08 ระบบรองรับด้านหน้าแบบแมคเฟอร์สันสตรัท ด้านหลังแบบมัลทิลิงค์ ซึ่งได้รับการเซทมาสำหรับการใช้งานบนทางเรียบ และบนเส้นทางทุรกันดาร ระบบห้ามล้อแบบจานทั้ง 4 ล้อ ล้อขนาด 18 นิ้ว พร้อมยาง 255/55 R18 ส่วนเทคโนโลยี E-ASSIST เพื่อเพิ่มความปลอดภัยในการขับขี่ เช่น ระบบช่วยเบรค และรักษาระยะจากรถคันหน้า, ระบบป้องกันการเปลี่ยนเลน, ระบบปรับไฟหน้าโดยอัตโนมัติ, ระบบเตือนในขณะถอยหลัง ติดตั้งมาให้อย่างครบครัน MITSUBISHI DELICA D:5 มีนีเอมพีวีสายพันธุ์ลุย ที่สามารถใช้งานได้อย่างอเนกประสงค์เหนือกว่าคู่แข่งโดยทั่วไป มาพร้อมเครื่องยนต์คลีนดีเซล ที่ทั้งแรง และประหยัดเชื้อเพลิง ระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ ที่สามารถให้คุณพาครอบครัวไปท่องเที่ยวบนเส้นทางโหดๆ ได้อย่างไม่ยากเย็น และความปลอดภัยมีมาให้ครบครัน คงต้องลุ้นกันว่า MITSUBISHI จะนำรถอเนกประสงค์รุ่นนี้มาจำหน่ายในประเทศไทยหรือไม่ ? คุณรู้หรือไม่ ? ระบบควบคุมการขับเคลื่อน มี 3 โหมด คือ 1. โหมด 2WD ที่ใช้ขับเคลื่อนด้วยล้อคู่หน้าช่วยเรื่องการขับขี่ที่คล่องตัว และประหยัดน้ำมัน 2. โหมด 4WD ที่จะช่วยกระจายแรงขับเคลื่อนไปยังล้อหน้า และล้อหลังได้อย่างเหมาะสม ปรับเปลี่ยนไปตามสภาพผิวถนน ทำให้มีเสถียรภาพในการขับขี่ที่ดีเยี่ยม 3. โหมด LOCK จะควบคุมเซนเตอร์ดิฟฟ์ลอค เพื่อใช้ขณะขับไปลุยบนเส้นทางทุรกันดาร หรือมีความลื่นสูง ระบบจะกระจายแรงขับเคลื่อนไปยังล้อคู่หน้า/หลังให้เหมาะสมอยู่ตลอดเวลา เพื่อประสิทธิภาพการขับเคลื่อนที่ดี และปลอดภัย