เดือนที่ 2 ของปีวัว ที่ชีวิตยังต้องมึนมัว และพันพัวกับไวรัส COVID-19 “ระเบียงรถใหม่” นำเสนอเรื่องราวของรถสายเลือดซามูไรล้วนๆ มีตั้งแต่รถขนาดกระจิริดกระจิ๋วหลิวซึ่งตัวถังยาวไม่ถึง 3 เมตรครึ่ง ไปจนถึงรถขนาดใหญ่โตโอ้โฮเฮะที่ตัวถังยาวเกือบ 5 ม. มีทั้งรถขับเคลื่อนด้วยพลังของเครื่องยนต์สันดาปภายในรถขับเคลื่อนด้วยระบบไฮบริดชนิดไม่ต้องเสียบปลั๊กเพื่อชาร์จไฟ และรถขับด้วยพลังไฟฟ้าล้วนๆ ไม่มีการติดตั้งเครื่องยนต์ใดๆเริ่มกันที่ HONDA N-ONE (ฮอนดา เอน-วัน) รถขนาดจิ๋วที่เรียกกันในญี่ปุ่นว่า KEIJIDOSHA หรือ KEI CAR หรือ K-CAR ซึ่งมีความหมายตรงกับ MINICAR หรือ MICROCAR ในภาษาอังกฤษนั่นเอง ในญี่ปุ่นรถประเภทนี้เสียภาษีต่ำกว่ารถประเภทอื่นๆ กฎหมายญี่ปุ่นเริ่มกำหนดกติกา และคุณลักษณะของรถประเภทนี้เมื่อปี 1949 และปรับปรุงเปลี่ยนแปลงมาแล้วหลายครั้ง ครั้งล่าสุดซึ่งกระทำเมื่อเดือนตุลาคม 1998 และยังใช้จนถึงปัจจุบันกำหนดว่า ต้องเป็นรถที่มีตัวถังยาวไม่เกิน 3.40 ม. กว้างไม่เกิน 1.48 ม. และสูงไม่เกิน 2.00 ม. กับติดตั้งเครื่องยนต์ที่มีขนาดความจุไม่เกิน 660 ซีซี และมีกำลังสูงสุดไม่เกิน 47 กิโลวัตต์ หรือ 64 แรงม้า บริษัทรถยนต์ญี่ปุ่นแทบทุกรายล้วนมีรถประเภทนี้ให้เลือกใช้ด้วยกันทั้งนั้น บางบริษัทผลิตเอง บางบริษัทจ้างบริษัทอื่นผลิต เฉพาะกรณีของ HONDA MOTOR (ฮอนดา มอเตอร์) ในเมืองปลาดิบ ก่อนเดือนพฤศจิกายน 2020 มีรถ K-CAR ให้เลือกใช้รวม 4 อนุกรม คือ HONDA N-VAN (ฮอนดา เอน-แวน) HONDA N-WGN (ฮอนดา เอน-แวกอน) HONDA N-BOX (ฮอนดา เอน-บอกซ์) และ HONDA S660 (ฮอนดา เอส 660) ที่เลือกใช้อักษร N เป็นชื่อรุ่น ยักษ์รองของเมืองปลาดิบบอกว่า เพราะ N ย่อมาจาก NORIMONO (โนริโมโน) ในภาษาญี่ปุ่น ซึ่งแปลว่า “ยานพาหนะ” ในภาษาไทยนั่นเอง ส่วน HONDA N-ONE ที่กำลังอวดตัวอยู่นี้ เพิ่งเปิดตัวเมื่อวันพฤหัสบดีที่ 19 พฤศจิกายน 2020 และเริ่มการจำหน่ายทั่วเกาะญี่ปุ่นในวันถัดมา คันนี้ไม่ใช่รถอนุกรมใหม่ แต่เป็นรถรุ่นที่ 2 เป็นทายาทสายตรงของรถชื่อเดียวกันรุ่นแรกที่เริ่มจำหน่ายเมื่อเดือนพฤศจิกายน 2012 และถูกปลดจากสายการผลิตไปนานกว่า 1 ปี ก่อนการปรากฏตัวของรถรุ่นใหม่นี้ เป็นรถ 5 ประตูแฮทช์แบค ในตัวถังทรง 2 กล่อง ยาว 3.395 ม. กว้าง 1.475 ม. และสูง 1.545 ม. ซึ่งมีจุดเด่นสะดุดตาตรงดวงโคมไฟหน้ารูปวงกลม ที่เชื่อมต่อวงกรอบเป็นชิ้นเดียวกันด้วยแถบสีเข้ม อย่างที่เห็นได้อย่างชัดเจนในภาพประกอบ แต่ด้านหลังไม่มีจุดใดที่สมควรกล่าวถึงเป็นพิเศษ ส่วนห้องโดยสารที่นั่งได้ 4 คน เป็นผลลัพธ์ของการออกแบบที่ค่ายนี้อธิบายเป็นภาษาอังกฤษว่า A COZY CABIN SPACE WITH A MINIMALIST DESIGN หรือการออกแบบเพื่อให้เกิดความรู้สึกถึงความอบอุ่นสะดวกสบายโดยใช้สิ่งประกอบเท่าที่จำเป็นเท่านั้น ตัวอย่างหนึ่งของการออกแบบที่ว่านี้ คือ การติดตั้งถังน้ำมันเชื้อเพลิงไว้ใต้เก้าอี้ที่นั่งแถวหน้า มีทั้งรถขับล้อหน้ารถขับทุกล้อ และมีให้เลือกรวม 4 โมเดลหลัก คือ HONDA N-ONE ORIGINAL (ฮอนดา เอน-วัน ออริจินอล) HONDA N-ONE PREMIUM (ฮอนดา เอน-วัน พรีเมียม) HONDA N-ONE PREMIUM TOURER (ฮอนดา เอน-วัน พรีเมียม ทัวเรอร์) HONA N-ONE RS (ฮอนดา เอน-วัน อาร์เอส) เครื่องยนต์มีให้เลือก 2 ขนาด คือ เครื่องเบนซิน DOHC 3 สูบเรียง 658 ซีซี 43 กิโลวัตต์/58 แรงม้า (รหัสเครื่องยนต์ S07B) ซึ่งเมื่อวัดตามมาตรฐาน WLTC มีอัตราสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงเฉลี่ย 21.0-23.0 กม./ลิตร และปล่อยคาร์บอนไดออกไซด์ 101-111 กรัม/กม. กับเครื่องเทอร์โบเบนซิน DOHC 3 สูบเรียง 658 ซีซี 47 กิโลวัตต์/64 แรงม้า (รหัสเครื่องยนต์ S07B) ซึ่งเมื่อวัดตามมาตรฐาน WLTC มีอัตราสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงเฉลี่ย 20.2-21.8 กม./ลิตร และปล่อยคาร์บอนไดออกไซด์ 107-115 กรัม/กม. ส่วนระบบเกียร์ก็มี 2 แบบ คือ เกียร์ธรรมดา 6 จังหวะ กับเกียร์อัตโนมัติปรับอัตราทดต่อเนื่อง (เกียร์ CVT) ค่าตัวรวมภาษีการบริโภคร้อยละ 10 ของญี่ปุ่น เริ่มต้นที่ 1.599 ล้านเยน หรือเท่ากับประมาณ 0.480 ล้านบาทไทย เป็นรถจิ๋วประหยัดเชื้อเพลิงราคาย่อมเยา ที่ไม่ขัดสนอุปกรณ์ความปลอดภัย และอุปกรณ์ช่วยขับ เพราะเป็นรถประเภทนี้แบบแรกๆ ที่จัดให้ครบทั้ง ADAPTIVE CRUISE CONTROL (ACC) ซึ่งเป็นระบบควบคุมการขับเมื่อใช้ความเร็วคงที่ และ LANE KEEPING ASSIST SYSTEM (LKAS) ซึ่งเป็นระบบที่ช่วยป้องกันไม่ให้รถวิ่งออกนอกลู่นอกทาง นอกเหนือจากระบบอื่นๆ ที่คุ้นเคยกันมาก่อนแล้ว เช่น COLLISION MITIGATION BRAKING SYSTEM (CMBS) ซึ่งเป็นระบบห้ามล้อเพื่อลดโอกาสเกิดการชน และ PEDESTRIAN COLLISION MITIGATION STEERING SYSTEM ซึ่งเป็นระบบบังคับเลี้ยวลดโอกาสเกิดการชนคนเดินเท้าเดินถนน ฯลฯ HONDA N-ONE