GLA ในรูปแบบรถพลังงาน ไฟฟ้าในรหัสใหม่ EQAเข้าสู่เดือนที่ 3 ของปีวัวตัวผอม “ระเบียงรถใหม่” นำเสนอเรื่องราวของรถที่ยอดขายไม่ผอม คือ SUV หรือ SPORT UTILITY VEHICLE ที่ค่าย “สื่อสากล” นิยมเรียกในภาษาไทยว่า รถกิจกรรมกลางแจ้ง เป็นรถสารพัดสารพันแบบ คือ มีทั้งรถที่ขับเคลื่อนด้วยพลังของเครื่องยนต์สันดาปภายใน รถไฮบริดชนิดไม่ต้องเสียบปลั๊กเพื่อชาร์จไฟ รถไฮบริดชนิดต้องเสียบปลั๊กเพื่อชาร์จไฟ หรือ PLUG-IN HYBRID (พลัก-อิน ไฮ-บริด) และรถพลังไฟฟ้าล้วนๆ ไม่มีการติดตั้งเครื่องยนต์ใดๆ เป็นรถ 3 สัญชาติ คือ รถเยอรมัน รถอเมริกัน และรถเกาหลี ทั้งหมดเป็นรถกิจกรรมกลางแจ้งที่ตัวถังมีโครงสร้างเหมือนรถเก๋ง ซึ่งเรียกกันในภาษาอังกฤษว่า CROSSOVER SUV (ครอสส์โอเวอร์ เอสยูวี) หรือรถกิจกรรมกลางแจ้งข้ามพันธุ์นั่นเอง เริ่มกันที่รถพลังไฟฟ้า MERCEDES-BENZ EQA 250 (เมร์เซเดส-เบนซ์ อีคิวเอ 250) ผลงานใหม่ของค่าย “ดาวสามแฉก” ก่อนหน้านี้ยักษ์ใหญ่ของเมืองเบียร์มีรถพลังไฟฟ้ารหัส EQ (อีคิว) อยู่ 2 อนุกรม คือ MERCEDES-BENZ EQC (เมร์เซเดส-เบนซ์ อีคิวซี) ซึ่งเปิดตัวเมื่อเดือนกันยายน 2018 กับ MERCEDES-BENZ EQV (เมร์เซเดส-เบนซ์ อีคิววี) ซึ่งเปิดตัวเมื่อเดือนกันยายน 2019 และเริ่มจำหน่ายในปี 2020 อนุกรมแรกเป็นรถกิจกรรมกลางแจ้งข้ามพันธุ์ขนาดเล็กกะทัดรัด ติดตั้งระบบขับ-เคลื่อนทุกล้อซึ่งใช้มอเตอร์ไฟฟ้า 2 ชุด กำลังรวมสุทธิ 300 กิโลวัตต์/408 แรงม้า ทำงานร่วมกับเกียร์อัตโนมัติจังหวะเดียว และแบทเตอรีลิเธียม-ไอออน ขนาด 80 กิโลวัตต์ชั่วโมง สามารถทำความเร็วสูงสุด 180 กม./ชม. และชาร์จไฟเต็มแต่ละครั้งรถจะวิ่งได้ไกล 421-462 กม. เมื่อวัดตามมาตรฐาน NEDC ส่วนอนุกรมหลังเป็นรถตู้อเนกประสงค์ขนาดใหญ่ ติดตั้งระบบขับเคลื่อนล้อหน้าซึ่งใช้มอเตอร์ไฟฟ้าขนาด 150 กิโลวัตต์/204 แรงม้า ทำงานร่วมกันกับเกียร์อัตโนมัติจังหวะเดียว และแบทเตอรีลิเธียม-ไอออน ขนาด 100 กิโลวัตต์ชั่วโมง สามารถทำความเร็วสูงสุด 140 กม./ชม. และชาร์จไฟเต็มแต่ละครั้งรถจะวิ่งได้ไกล 418 กม. เมื่อวัดตามมาตรฐาน EURO ส่วนรถอนุกรมใหม่สุด คือ MERCEDES-BENZ EQA นี้ เป็น SUBCOMPACT LUXURY CROSSOVER SUV หรือรถกิจกรรมกลางแจ้งข้ามพันธุ์ระดับหรูขนาดเล็กกว่าเล็กกะทัดรัด ซึ่งเพิ่งเปิดตัวแบบ DIGITAL WORLD PREMIERE อันเป็นการปรากฏตัว “ครั้งแรกในโลก” ผ่านระบบออนไลน์ เมื่อวันพุธที่ 20 มกราคม 2020 แต่ต้องรอจนถึงฤดูใบไม้ผลิ หรือประมาณไตรมาส 2 ของปี จึงจะเริ่มออกโชว์รูมในเยอรมนี และอีกหลายประเทศของยุโรป ไม่ใช่รถที่ออกแบบขึ้นใหม่ทั้งหมด แต่เป็นการนำรถที่มีอยู่แล้วในสายการผลิต คือ MERCEDES-BENZ GLE SUV (เมร์เซเดส-เบนซ์ จีแอลอี เอสยูวี) รุ่นปัจจุบันซึ่งเป็นรถรุ่นที่ 2 และเปิดตัวเมื่อเดือนสุดท้ายของปี 2019 มาพัฒนาต่อกิ่งต่อยอดเป็นรถอนุกรมใหม่ จุดใหญ่ใจความของการพัฒนาที่ว่านี้ คือ การยกระบบขับล้อหน้า หรือขับทุกล้อด้วยพลังของเครื่องยนต์สันดาปภายในออกทั้งหมด แล้วแทนที่ด้วยระบบขับปลอดไอพิษซึ่งไม่มีการติดตั้งเครื่องยนต์ใดๆ ในระยะแรกจะมีรถเพียงโมเดลเดียว คือ MERCEDES-BENZ EQA 250 ซึ่งค่าตัวรวมภาษีมูลค่าเพิ่มร้อยละ 19 ในเยอรมนีเริ่มต้นที่ 47,540 ยูโร หรือประมาณ 1.76 ล้านบาทไทย ที่สมควรบอกกล่าวกันด้วยก็คือ ผู้ซื้อรถแบบนี้จะได้เงินโบนัสจากรัฐบาลเยอรมัน 6,000 ยูโร (ประมาณ 220,000 บาทไทย) กับได้ส่วนลดพิเศษจากบริษัทผู้ผลิตอีก 3,000 ยูโร (ประมาณ 111,000 บาทไทย) อีกต่างหาก รถโมเดลนี้มีตัวถังยาว 4.463 ม. กว้าง 1.834 ม. สูง 1.620 ม. มีค่าสัมประสิทธิ์แรงต้านอากาศ 0.28 และมีน้ำหนักรถพร้อมผู้ขับ 2,040 กก. ติดตั้งระบบขับล้อหน้าซึ่งใช้มอเตอร์ไฟฟ้า ASYNCHRONOUS MOTOR ขนาด 140 กิโลวัตต์/190 แรงม้า ทำงานร่วมกันกับระบบเกียร์จังหวะเดียว และแบทเตอรีลิเธียม-ไอออน ขนาด 420 โวลท์ 66.5 กิโลวัตต์ชั่วโมง สามารถทำอัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ใน 8.9 วินาที และทำความเร็วสูงสุด 160 กม./ชม. การชาร์จไฟด้วยไฟบ้าน โดยอุปกรณ์ติดตั้งพิเศษที่เรียกในภาษาอังกฤษว่า WALLBOX จากปริมาณไฟ 10-100 % ใช้เวลา 5 ชม. 45 วินาที แต่การชาร์จไฟแบบแรงด่วนในสถานีที่จัดไว้โดยเฉพาะ จากปริมาณไฟ 10-80 % จะใช้เวลาเพียง 30 นาที หลังการชาร์จไฟเต็มแต่ละครั้งรถจะวิ่งได้ไกล 486 กม. เมื่อวัดตามมาตรฐานเก่า คือ NEDC แต่จะลดเหลือ 426 กม. เมื่อใช้มาตรฐานใหม่ คือ WLTP MERCEDES-BENZ EQA 250