มีผลงานของยักษ์ใหญ่เมืองน้ำหอมสอดแทรกมาด้วย 1 แบบเช่นกัน คือ รถติดป้ายชื่อ RENAULT ARKANA (เรอโนลต์ อาร์กานา) รถยี่ห้อฝรั่งเศสแต่ผลิตนอกฝรั่งเศส ซึ่งเพิ่งเปิดเผยโฉมหน้าและรายละเอียดผ่านสื่อต่างๆ เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 4 มีนาคม 2021 นี่เองก่อนหน้านี้ผู้ผลิตรถยนต์หมายเลขหนึ่งของฝรั่งเศสมี เอสยูวี หรือรถกิจกรรมกลางแจ้งให้ลูกค้าในเมืองน้ำหอมเลือกใช้รวม 3 อนุกรม ทุกอนุกรมล้วนเป็น CROSSOVER SUV (ครอสส์โอเวอร์ เอสยูวี) หรือรถกิจกรรมกลางแจ้งข้ามพันธุ์ คือ เป็นรถกิจกรรมกลางแจ้งที่พัฒนาจากรถเก๋ง และตัวถังก็มีโครงสร้างแบบ UNIBODY (ยูนิบอดี) เหมือนรถเก๋ง รถขนาดเล็กสุด คือ RENAULT CAPTUR (เรอโนลต์ กัปตือร์) ซึ่งปัจจุบันเป็นรถรุ่นที่ 2 เปิดตัวที่งานมหกรรมยานยนต์ฟรังค์ฟวร์ทครั้งล่าสุดเมื่อเดือนกันยายน 2019 ถัดไป คือ RENAULT KADJAR (เรอโนลต์ กัดจาร์) ซึ่งเป็นรถรุ่นแรกและอยู่ในสายการผลิตมายาวนานตั้งแต่ปี 2015 ส่วนรถขนาดใหญ่ที่สุด คือ RENAULT KOLEOS (เรอโนลต์ โกเลโอส) ซึ่งปัจจุบันเป็นรถรุ่นที่ 2 เริ่มจำหน่ายเมื่อปี 2016 ทั้งหมดเป็นรถติดป้ายยี่ห้อฝรั่งเศสที่ไม่ได้ผลิตในฝรั่งเศส กล่าวคือ 2 อนุกรมแรกผลิตในสเปน ส่วนอนุกรมหลังสุดผลิตที่เมือง BUSAN (บูซาน) ในเกาหลีใต้ รถอนุกรมล่าสุด คือ RENAULT ARKANA (เรอโนลต์ อาร์กานา) นี้ ก็เป็นรถกิจกรรมกลางข้ามพันธุ์เช่นกัน เป็นรถขนาดเล็กกะทัดรัด รวมทั้งเป็นรถกิจกรรมกลางแจ้งแบบแรกของค่ายนี้ที่ตัวถังส่วนท้ายมีรูปลักษณ์เหมือนรถคูเป เป็นตัวถังยาว 4.568 ม. กว้าง 1.820 ม. และสูง 1.576 ม.ซึ่งติดตั้งเก้าอี้ที่นั่ง 2 แถว นั่งได้รวม 5 คน มีห้องเก็บของท้ายรถซึ่งจุ 513 ลิตร และขยายเป็น 1,263 ลิตร เมื่อพับราบเบาะหลัง ตัวถังที่ว่านี้ผ่านการทดสอบความแข็งแรงแบบสมัครใจ ซึ่งรู้จักกันในชื่อ EURO NCAP (ยูโร เอนซีเอพี) เรียบร้อยแล้ว ผลปรากฏว่าได้ระดับความแข็งแรงสูงสุด คือ 5 ดาว เปิดรับการสั่งจองในฝรั่งเศสเมื่อวันพุธที่ 10 มีนาคม 2021 โดยกำหนดค่าตัวเริ่มต้นไว้ที่ระดับ 29,700 ยูโร หรือประมาณ 1.13 ล้านบาทไทย แบ่งการตกแต่ง/ติดตั้งอุปกรณ์เป็น 3 ระดับ กำกับด้วยรหัส ZEN-INTENS-RS LINE มีแต่รถขับเคลื่อนล้อหน้า ยังไม่มีรถขับเคลื่อนทุกล้อ แต่มีระบบขับให้เลือก 2 แบบ คือ ขับด้วยพลังของเครื่องยนต์เบนซินซึ่งทำงานร่วมกันกับระบบไฮบริดแบบอ่อน ที่ค่ายนี้ไม่ยอมเรียกว่า MILD HYBRID แต่เลี่ยงไปใช้ MICRO-HYBRID กับขับด้วยระบบไฮบริดชนิดไม่ต้องมีการเสียบปลั๊กเพื่อชาร์จไฟ ระบบขับแบบแรก ใช้เครื่องยนต์เทอร์โบเบนซินฉีดเชื้อเพลิงโดยตรง DOHC 4 สูบเรียง 1,333 ซีซี 103 กิโลวัตต์/140 แรงม้า (รหัสเครื่องยนต์ TCE 140 EDC FAP) ทำงานร่วมกันกับระบบไฮบริดแบบอ่อน ซึ่งใช้แบทเตอรีลิเธียม-ไอออน ขนาด 12 โวลท์ 0.13 กิโลวัตต์ชั่วโมง และระบบเกียร์อัตโนมัติคลัทช์คู่ 7 จังหวะ รถที่ติดตั้งระบบขับแบบนี้สามารถทำอัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ใน 9.8 วินาที ทำความเร็วสูงสุด 205 กม./ชม. และเมื่อวัดตามมาตรฐาน WLTP จะมีอัตราสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงเฉลี่ย 5.8 ลิตร/100 กม. หรือ 17.2 กม./ลิตร และปล่อยคาร์บอนไดออกไซด์ 131 กรัม/กม. ส่วนระบบขับไฮบริดชนิดไม่ต้องเสียบ ที่ค่ายนี้ตั้งชื่อว่า E-TECH HYBRID 145 ใช้เครื่องยนต์เบนซิน DOHC 4 สูบเรียง 1,598 ซีซี 69 กิโลวัตต์/94 แรงม้า ทำงานร่วมกันกับมอเตอร์ไฟฟ้า 36 กิโลวัตต์/49 แรงม้า แบทเตอรีลิเธียม-ไอออน 230 โวลท์ 12 กิโลวัตต์ชั่วโมง และระบบเกียร์อัตโนมัติ E-TECH ได้กำลังสุทธิสูงสุด 105 กิโลวัตต์/143 แรงม้า รถที่ติดตั้งระบบขับไฮบริดนี้ อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม.ทำได้ใน 10.8 วินาที ความเร็วสูงสุด 172 กม./ชม. มีอัตราสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงเฉลี่ย 4.9 ลิตร/100 กม.หรือ 20.4 กม./ลิตร (WLTP)และปล่อยคาร์บอนไดออกไซด์ 111 กรัม/กม. (WLTP) เป็นรถอีกแบบหนึ่งของค่ายนี้ที่ไม่ได้ผลิตในฝรั่งเศส แต่ใช้โรงงานที่เมือง BUSAN (บูซาน) ของสาธารณรัฐเกาหลีเป็นที่ผลิต RENAULT ARKANA