รายงาน(formula)
ย้อนรอยครึ่งศตวรรษ วิกฤตน้ำมันแพงในไทย จาก 2 บาท ถึง 40บาท/ลิตร !
วิกฤตน้ำมันแพงไม่ใช่เรื่องใหม่ หากย้อนดูอดีต วิกฤตราคาน้ำมันเชื้อเพลิงในประเทศไทยเคยเกิดขึ้นมาแล้วหลายครั้ง ซึ่งเราได้รวบรวมเหตุการณ์วิกฤตน้ำมันแพง ที่คนไทยต้องเผชิญ มาเตือนความจำกันอีกครั้ง
ปี 2516
เริ่มต้นครั้งแรก ปี 2516 ในยุครัฐบาล "จอมพลถนอม กิตติขจร" ราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกปรับตัวสูงขึ้น เนื่องจากเป็นช่วงที่เศรษฐกิจโลกเริ่มขยายตัว ทำให้ความต้องการใช้น้ำมันเชื้อเพลิงมีมาก ประกอบกับสถานการณ์การเมืองโลกขณะนั้น เกิดข้อพิพาทระหว่างประเทศอาหรับกับอิสราเอล ส่งผลให้ราคาน้ำมันเชื้อเพลิงในประเทศสูงตามไปด้วย ไทยจึงได้ออกพระราชกำหนดแก้ไข และป้องกันภาวะขาดแคลนน้ำมันเชื้อเพลิง ปี 2516 กำหนดให้นายกรัฐมนตรีมีอำนาจออกคำสั่งเพื่อกำหนดมาตรการแก้ไข และป้องกันการขาดแคลนน้ำมันเชื้อเพลิง
ราคาน้ำมันเชื้อเพลิง ในช่วงปี 2516-2517 น้ำมันเบนซิน ขยับจาก 2.30 บาท/ลิตร ขึ้นเป็น 3.62 บาท/ลิตร เท่ากับปรับขึ้นราว 57 % ส่วนน้ำมันดีเซลจาก 1.05 บาท เป็น 2.33 บาท/ลิตร หรือบวก 122 %
ปี 2522
ในยุคของ พลเอกเกรียงศักดิ์ ชมะนันทน์ เกิดวิกฤตราคาน้ำมันเชื้อเพลิงในตลาดโลกพุ่งสูงเป็นครั้งที่ 2 โดยกลุ่มประเทศผู้ส่งออกปิโตรเลียม (OPEC) ได้ประกาศขึ้นราคาน้ำมันดิบ 4 ครั้ง ผลกระทบในยุคนั้นลุกลามไปสู่ ราคาค่าไฟ และสินค้า บางช่วงเกิดปัญหาไฟฟ้าขาดแคลน จนเกิดเพลงฮิทติดหู อย่างเพลง “น้ำมันแพง” ที่มีเนื้อร้องว่า "น้ำมัน ขาดแคลน คุยกับแฟน ก็ต้องดับไฟ" ปัญหาน้ำมันแพงในยุคนั้น สั่นคลอนรัฐบาล พลเอกเกรียงศักดิ์ ชมะนันทน์ จนต้องลาออกในช่วงปี 2523
ปี 2533
เดือนสิงหาคม ปี 2533 เกิดสงครามอ่าวเปอร์เซีย ราคาน้ำมันเชื้อเพลิงในตลาดโลกสูงขึ้นจนเป็นวิกฤตการณ์อีกครั้ง จากระดับราคา 18.9 เหรียญสหรัฐฯ/บาร์เรล ในเดือนมกราคม ปี 2533 เพิ่มเป็น 31 เหรียญสหรัฐฯ/บาร์เรล ในช่วงปลายเดือนสิงหาคม ปี 2533 และราคาน้ำมันเชื้อเพลิงในประเทศก็ขยับขึ้น โดยเบนซินจาก 8.45 บาท เป็น 11.05 บาท เท่ากับ 31 % ส่วนดีเซลจาก 6.10 บาท เป็น 8.40 บาท/ลิตร เท่ากับ 38 %
ปี 2551
ในประเทศไทย ราคาน้ำมันเชื้อเพลิงเริ่มเพิ่มสูงขึ้นมาเรื่อยๆ ตั้งแต่ปี 2546 จนมาแตะราคาสูงสุดในยุค พลเอก สุรยุทธ์ จุลานนท์ น้ำมันดีเซลมีราคาสูงถึง 44.24 บาท/ลิตร และน้ำมันเบนซิน 42.89 บาท/ลิตร ก่อนที่ในช่วงปลายปีราคาน้ำมันจะปรับลดลงมาอย่างรวดเร็ว
ปี 2557
ช่วงปลายยุครัฐบาล ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ไทยเจอวิกฤตราคาน้ำมันเชื้อเพลิงอีกครั้ง ราคาน้ำมันดีเซล 29.99 บาท/ลิตร ส่วนน้ำมันเบนซินแตะราคาสูงสุดที่ 49.15 บาท/ลิตร นับเป็นราคาที่สูงที่สุดเป็นประวัติการณ์ ซึ่งในยุคนั้นราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกอยู่ที่ 110 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล และยังมีปัจจัยภายใน เช่น การยกเลิกเบนซิน 91 การเก็บภาษี และกองทุนที่สูง และเงินบาทอ่อนค่า
ไตรมาสแรกปี 2565 ราคาน้ำมันปรับขึ้นไปแล้วเท่าไร ?
จากสถิติราคาขายปลีกน้ำมันใน กทม. และปริมณฑล ถึงช่วงต้นเดือน มีนาคม 2565 พบว่า นับตั้งแต่มีการปรับขึ้นราคาน้ำมันเชื้อเพลิงครั้งแรกของปีนี้ เมื่อวันที่ 5 มกราคม ที่ผ่านมา ราคาแกสโซฮอล 95 ซึ่งคนไทยนิยมใช้มากที่สุด มีการปรับขึ้นมากถึง 18 รอบ ในช่วงเวลาเพียง 2 เดือนเศษ ตรงกันข้าม นับตั้งแต่เข้าปี 2565 มีการปรับลดราคากลุ่มเบนซิน และแกสโซฮอลเพียง 1 รอบเท่านั้น คือ เมื่อวันที่ 19 กุมภาพันธ์ ที่ปรับลด 0.40 บาท/ลิตร
ขณะที่ราคากลุ่มน้ำมันดีเซล รวมถึง B7 ที่คนไทยนิยมใช้มากที่สุด และ B20 ซึ่งราคาเท่ากัน มีการประกาศปรับขึ้นล่าสุดในวันที่ 4 มีนาคม อีก 0.20 บาท/ลิตร ทำให้มีการปรับขึ้นราคาแล้ว 8 ครั้งในปีนี้ แม้จะมีการประกาศปรับลดราคาลง 2 บาท/ลิตร เมื่อวันที่ 18 กุมภาพันธ์ ที่ผ่านมา (ข้อมูล ณ วันที่ 14 มีนาคม 2565)
ราคาน้ำมันในไทย บวกค่าอะไร ก่อนถึงหัวจ่าย ?
โครงสร้างราคาขายน้ำมันเชื้อเพลิงของไทย ที่มีผลต่อการปรับราคาน้ำมันภายในประเทศ (ข้อมูลจากกระทรวงพลังงาน) ประกอบด้วย
1. ต้นทุนเนื้อน้ำมัน ( 40-60 %) คือ ต้นทุนราคาน้ำมันสำเร็จรูปที่ผลิตจากโรงกลั่น ซึ่งอ้างอิงราคาตามตลาดกลางภูมิภาคเอเชีย (ทั้งน้ำมันเบนซิน และน้ำมันดีเซล)
2. ภาษีต่างๆ ( 30-40 %) ได้แก่ ภาษีสรรพสามิต ภาษีเทศบาล และภาษีมูลค่าเพิ่ม เพื่อนำมาใช้เป็นงบประมาณในการพัฒนาประเทศ และบำรุงท้องถิ่น โดยภาษีที่จัดเก็บ มีดังนี้
- ภาษีสรรพสามิต: จัดเก็บโดยกระทรวงการคลัง ตาม พรบ. ภาษีสรรพสามิต นำมาใช้เพื่อพัฒนาประเทศ
- ภาษีเทศบาล: จัดเก็บโดยกระทรวงการคลัง ในอัตรา 10 % ของภาษีสรรพสามิต ตาม พรบ. ภาษีสรรพสามิต มาตรา 150 และจัดส่งให้กระทรวงมหาดไทยเพื่อนำมาใช้ในการพัฒนาท้องถิ่น
- ภาษีมูลค่าเพิ่ม: จัดเก็บ 7 % ของราคาขายส่งน้ำมันเชื้อเพลิง และจัดเก็บอีก 7 % ของค่าการตลาดน้ำมันเชื้อเพลิงแต่ละชนิด
3. กองทุนต่างๆ (5-20 %) ดังนี้
- กองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง: จัดเก็บตามประกาศคณะกรรมการบริหารกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง (กบน.) เพื่อรักษาเสถียรภาพราคาขายปลีกน้ำมันในประเทศไม่ให้เกิดความผันผวน
- กองทุนเพื่อส่งเสริมการอนุรักษ์พลังงาน: จัดเก็บตามประกาศคณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ (กพช.) เพื่อส่งเสริมสนับสนุนพลังงานทางเลือก พลังงานทดแทน เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพ และลดการใช้พลังงาน
4. ค่าการตลาด (10-18 %) คือ ส่วนที่เป็นต้นทุน ค่าใช้จ่าย และกำไรของธุรกิจค้าปลีกน้ำมันทั้งระบบ ตั้งแต่การจัดการคลังน้ำมัน การขนส่งน้ำมันเชื้อเพลิงมายังสถานีบริการ และการให้บริการของสถานีบริการที่เติมน้ำมันแต่ละลิตรให้แก่ประชาชน
คนไทยชอบเติมน้ำมันประเภทใด ?
กรมธุรกิจพลังงาน รายงานภาพรวมการใช้น้ำมันเชื้อเพลิงเฉลี่ยต่อวันในเดือน มกราคม 2565 พบว่า
ปริมาณการใช้กลุ่มแกสโซฮอลเพิ่มขึ้น อยู่ที่ 29.91 ล้านลิตร/วัน แบ่งเป็น
- แกสโซฮอล 95 ปริมาณการใช้เฉลี่ย 15.79 ล้านลิตร/วัน (ใช้มากที่สุดในกลุ่มแกสโซฮอล)
- แกสโซฮอล 91 ปริมาณการใช้เฉลี่ย 7.04 ล้านลิตร/วัน
- แกสโซฮอล E20 ปริมาณการใช้เฉลี่ย 6.13 ล้านลิตร/วัน
- แกสโซฮอล E85 ปริมาณการใช้เฉลี่ย 0.95 ล้านลิตร/วัน
การใช้น้ำมันเบนซินในประเทศไทยลดลงเรื่อยๆ อยู่ที่ 0.63 ล้านลิตร/วัน เนื่องจากราคาเบนซินที่อยู่ในระดับสูง โดยทะลุ 40 บาท/ลิตร ในช่วงปลายเดือน มกราคม จนถึงปัจจุบัน (ข้อมูลเดือน มกราคม 2565)
ปริมาณการใช้น้ำมันกลุ่มดีเซล เฉลี่ยอยู่ที่ 75.87 ล้านลิตร/วัน แบ่งเป็น
- น้ำมันดีเซลหมุนเร็ว B7 ปริมาณการใช้เฉลี่ยอยู่ที่ 62.63 ล้านลิตร/วัน (ใช้มากที่สุดในกลุ่มดีเซล)
- น้ำมันดีเซลหมุนเร็วธรรมดา ปริมาณการใช้เฉลี่ยอยู่ที่ 3.83 ล้านลิตร/วัน
- น้ำมันดีเซลหมุนเร็ว B20 ปริมาณการใช้เฉลี่ยอยู่ที่ 0.23 ล้านลิตร/วัน
ทำไมราคาน้ำมันแพง ?
เกิดจาก 3 สาเหตุ โดยมาจากปัจจัยภายนอก นั่นคือ ราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกปรับตัวสูงขึ้นอย่างต่อเนื่องจนเกือบจะแตะ 100 เหรียญสหรัฐฯ/บาร์เรล ทำให้ประเทศไทยซึ่งเป็นผู้นำเข้าน้ำมันได้รับผลกระทบ ต้องใช้น้ำมันเชื้อเพลิงราคาแพงไปด้วย ซึ่งสาเหตุที่ราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกพุ่งทะยาน มีดังนี้
1. ความขัดแย้งระหว่างรัสเซีย ยูเครน และสหรัฐฯ ซึ่งเป็นประเทศผู้ผลิตน้ำมันรายสำคัญของโลก
2. การลดกำลังการผลิตน้ำมันของกลุ่มประเทศโอเปค ซึ่งเป็นผู้ส่งออกน้ำมันเชื้อเพลิงรายใหญ่ได้ลดกำลังการผลิตน้ำมันลงถึง 10 ล้านบาร์เรล/วัน (ในปี 2020) ทำให้เกิดปัญหาขาดแคลน แต่ปัจจุบันกลุ่มโอเปคทยอยผลิตเพิ่มครั้งละ 400,000 บาร์เรล/วัน ซึ่งยังไม่เพียงพอต่อความต้องการของโลก
3. สถานการณ์ COVID-19 ยืดเยื้อมากว่า 2 ปี ทำให้เศรษฐกิจ และปริมาณการค้าโลกสะดุด แต่ก็เริ่มฟื้นตัวในช่วงนี้ ทำให้ความต้องการบริโภคน้ำมันเชื้อเพลิงสูงเกินกว่ากำลังการผลิต จึงทำให้ราคาน้ำมันพุ่งสูงขึ้นในรอบ 7 ปี
เมื่อไร...ราคาน้ำมันจะลง ?
รายงานของ ศูนย์วิเคราะห์เศรษฐกิจ ทีทีบี หรือ TTB ANALYTICS วิเคราะห์ว่า ราคาน้ำมันเชื้อเพลิงยังเป็นส่วนสำคัญที่จะทำให้เงินเฟ้อในปี 2565 ยังอยู่ในระดับสูง เนื่องจาก กิจกรรมทางเศรษฐกิจโลกกำลังฟื้นตัว รวมถึงช่วงปลายปี 2564 และต้นปี 2565 มีสภาพภูมิอากาศที่หนาวมากกว่าปกติ ส่งผลให้ทั่วโลกมีปริมาณความต้องการเชื้อเพลิงเพิ่มสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว ขณะเดียวกันประเทศผู้ผลิตน้ำมันเชื้อเพลิงไม่สามารถปรับเพิ่มกำลังการผลิตได้เพียงพอกับความต้องการ จึงสร้างแรงกดดันเพิ่มต่อราคาน้ำมัน โดยเฉพาะในช่วงต้นปีนี้ แม้ไทยจะได้รับผลดีจากการที่รัฐบาลเข้าตรึงราคาเชื้อเพลิงบางประเภท แต่ไม่เพียงพอที่จะช่วยลดแรงกดดันด้านราคาที่เพิ่มขึ้น
TTB ANALYTICS ประเมินว่า หลังเข้าสู่ไตรมาสที่ 2 ปี 2565 แรงกดดันด้านราคาพลังงานจะคลี่คลายลงบ้าง แต่ยังคงมีอยู่อย่างต่อเนื่องไปจนกว่ากลุ่มผู้ผลิตน้ำมันเชื้อเพลิงจะสามารถบริหารจัดการทยอยเพิ่มกำลังการผลิตให้ได้ตามเป้าหมายในช่วงไตรมาส 3
ประเทศไทย มีคณะกรรมการบริหารกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง (กบน.) ที่มีการใช้กองทุนน้ำมันเป็นกลไกสำคัญเพื่อช่วยพยุงราคาไว้ โดยทำให้ราคาน้ำมันหน้าสถานีบริการในประเทศไม่สูงมากกว่านี้ และก็ไม่ได้ถือว่ามีราคาแพงที่สุดในกลุ่มประเทศอาเซียน
วันสำคัญในประวัติศาสตร์น้ำมันไทย
7 มกราคม 2546
เป็นวันที่กำหนดราคาจำหน่าย แกสโซฮอล 95 และแกสธรรมชาติ CNG ครั้งแรกอย่างเป็นทางการ โดยโครงการ น้ำมันแกสโซฮอล เริ่มจากแนวคิดพระราชดำริของ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 9 ในการหาสิ่งมาทดแทนพลังงานที่กำลังจะหมดไปของน้ำมัน บวกกับแนวทางการแก้ปัญหาของพืชผักที่มีราคาตกต่ำ
17 มีนาคม 2550
ตามนโยบายของกระทรวงพลังงาน ที่ส่งเสริมการใช้เอธานอลเพื่อผลิตแกสโซฮอล 95 อย่างต่อเนื่อง จึงเพิ่มไลน์ของ “แกสโซฮอล 91” มาเป็นทางเลือกให้แก่ประชาชน ในราคาที่ถูกกว่าแกสโซฮอล 95 เล็กน้อย และถูกกว่าน้ำมันเบนซิน 91 ไม่น้อยกว่า 1.50 บาท/ลิตร
1 มกราคม 2551
การพัฒนาพลังงานทดแทน “แกสโซฮอล E20” ในเมืองไทยเป็นผลสำเร็จ ด้วยส่วนผสมของเอธานอล 20 % และน้ำมันเบนซิน 80% เป็นผลให้ราคาประหยัดลงกว่า 6 บาท/ลิตร ซึ่งจะทำให้ประเทศลดการนำเข้าน้ำมันเชื้อเพลิง ลดค่าใช้จ่ายลงได้มาก และยังลดมลพิษในอากาศอีกด้วย
16 พฤษภาคม 2557
วันที่ได้รับการบันทึกว่าราคาน้ำมันที่สูงที่สุดเป็นประวัติการณ์ เนื่องจากในปี 2557 ไทยเผชิญกับวิกฤตราคาน้ำมันครั้งใหญ่ ราคาน้ำมันดีเซลพุ่งถึง 29.99 บาท/ลิตร และราคาน้ำมันเบนซินแตะสูงสุดที่ 49.15 บาท/ลิตร
26 มีนาคม 2563
วันที่ทั่วโลกกำลังเผชิญกับภัย COVID-19 ประเทศไทยยังคงอยู่ในขั้นวิกฤตทั้งการระบาดของโรค และภาคเศรษฐกิจ แต่คนไทยก็ยังพอมีรอยยิ้มกับราคาน้ำมันเชื้อเพลิงที่ถูกลงอย่างไม่น่าเชื่อ นั่นคือ แกสโซฮอล 95 อยู่ที่ประมาณ (18-19 บาท/ลิตร), แกสโซฮอล 91 (16-17 บาท/ลิตร), แกสโซฮอล E20 (15-16 บาท/ลิตร), แกสโซฮอล E85 (14-15 บาท/ลิตร), ดีเซล B7 (19-20 บาท/ลิตร), ดีเซล B10 (16-17 บาท/ลิตร) และดีเซล B20 (16-17 บาท/ลิตร)
10 อันดับประเทศ ราคาน้ำมันเชื้อเพลิงแพงสุดในอาเซียน
เวบไซท์ GLOBALPRICE.COM รายงานราคาน้ำมันเบนซิน สูตรพิเศษ/ลิตร ในประเทศสมาชิกอาเซียน ประจำวันที่ 9 มีนาคม 2565 ดังนี้
1. สิงคโปร์ 4 ดอลลาร์สิงคโปร์ (97 บาท)
2. ลาว 17,180 กีบ (49 บาท)
3. เมียนมาร์ 2,299.020 จาด (43 บาท)
4. ฟิลิปปินส์ 65.950 เปโซ (42 บาท)
5. ไทย ประมาณ 40 บาท/ลิตร
6. เวียดนาม 27,347.500 ด่อง ( 40 บาท)
7. กัมพูชา 4,700 เรียล (38 บาท)
8. อินโดนีเซีย 12,892.000 รูเปี๊ยะห์ (30 บาท)
9. บรูไน 1.03 ดอลลาร์ (25 บาท)
10. มาเลเซีย 2.050 ริงกิต (17 บาท)
เริ่มต้นครั้งแรก ปี 2516 ในยุครัฐบาล "จอมพลถนอม กิตติขจร" ราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกปรับตัวสูงขึ้น เนื่องจากเป็นช่วงที่เศรษฐกิจโลกเริ่มขยายตัว ทำให้ความต้องการใช้น้ำมันเชื้อเพลิงมีมาก ประกอบกับสถานการณ์การเมืองโลกขณะนั้น เกิดข้อพิพาทระหว่างประเทศอาหรับกับอิสราเอล ส่งผลให้ราคาน้ำมันเชื้อเพลิงในประเทศสูงตามไปด้วย ไทยจึงได้ออกพระราชกำหนดแก้ไข และป้องกันภาวะขาดแคลนน้ำมันเชื้อเพลิง ปี 2516 กำหนดให้นายกรัฐมนตรีมีอำนาจออกคำสั่งเพื่อกำหนดมาตรการแก้ไข และป้องกันการขาดแคลนน้ำมันเชื้อเพลิง
ราคาน้ำมันเชื้อเพลิง ในช่วงปี 2516-2517 น้ำมันเบนซิน ขยับจาก 2.30 บาท/ลิตร ขึ้นเป็น 3.62 บาท/ลิตร เท่ากับปรับขึ้นราว 57 % ส่วนน้ำมันดีเซลจาก 1.05 บาท เป็น 2.33 บาท/ลิตร หรือบวก 122 %
ปี 2522
ในยุคของ พลเอกเกรียงศักดิ์ ชมะนันทน์ เกิดวิกฤตราคาน้ำมันเชื้อเพลิงในตลาดโลกพุ่งสูงเป็นครั้งที่ 2 โดยกลุ่มประเทศผู้ส่งออกปิโตรเลียม (OPEC) ได้ประกาศขึ้นราคาน้ำมันดิบ 4 ครั้ง ผลกระทบในยุคนั้นลุกลามไปสู่ ราคาค่าไฟ และสินค้า บางช่วงเกิดปัญหาไฟฟ้าขาดแคลน จนเกิดเพลงฮิทติดหู อย่างเพลง “น้ำมันแพง” ที่มีเนื้อร้องว่า "น้ำมัน ขาดแคลน คุยกับแฟน ก็ต้องดับไฟ" ปัญหาน้ำมันแพงในยุคนั้น สั่นคลอนรัฐบาล พลเอกเกรียงศักดิ์ ชมะนันทน์ จนต้องลาออกในช่วงปี 2523
ปี 2533
เดือนสิงหาคม ปี 2533 เกิดสงครามอ่าวเปอร์เซีย ราคาน้ำมันเชื้อเพลิงในตลาดโลกสูงขึ้นจนเป็นวิกฤตการณ์อีกครั้ง จากระดับราคา 18.9 เหรียญสหรัฐฯ/บาร์เรล ในเดือนมกราคม ปี 2533 เพิ่มเป็น 31 เหรียญสหรัฐฯ/บาร์เรล ในช่วงปลายเดือนสิงหาคม ปี 2533 และราคาน้ำมันเชื้อเพลิงในประเทศก็ขยับขึ้น โดยเบนซินจาก 8.45 บาท เป็น 11.05 บาท เท่ากับ 31 % ส่วนดีเซลจาก 6.10 บาท เป็น 8.40 บาท/ลิตร เท่ากับ 38 %
ปี 2551
ในประเทศไทย ราคาน้ำมันเชื้อเพลิงเริ่มเพิ่มสูงขึ้นมาเรื่อยๆ ตั้งแต่ปี 2546 จนมาแตะราคาสูงสุดในยุค พลเอก สุรยุทธ์ จุลานนท์ น้ำมันดีเซลมีราคาสูงถึง 44.24 บาท/ลิตร และน้ำมันเบนซิน 42.89 บาท/ลิตร ก่อนที่ในช่วงปลายปีราคาน้ำมันจะปรับลดลงมาอย่างรวดเร็ว
ปี 2557
ช่วงปลายยุครัฐบาล ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ไทยเจอวิกฤตราคาน้ำมันเชื้อเพลิงอีกครั้ง ราคาน้ำมันดีเซล 29.99 บาท/ลิตร ส่วนน้ำมันเบนซินแตะราคาสูงสุดที่ 49.15 บาท/ลิตร นับเป็นราคาที่สูงที่สุดเป็นประวัติการณ์ ซึ่งในยุคนั้นราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกอยู่ที่ 110 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล และยังมีปัจจัยภายใน เช่น การยกเลิกเบนซิน 91 การเก็บภาษี และกองทุนที่สูง และเงินบาทอ่อนค่า
ไตรมาสแรกปี 2565 ราคาน้ำมันปรับขึ้นไปแล้วเท่าไร ?
จากสถิติราคาขายปลีกน้ำมันใน กทม. และปริมณฑล ถึงช่วงต้นเดือน มีนาคม 2565 พบว่า นับตั้งแต่มีการปรับขึ้นราคาน้ำมันเชื้อเพลิงครั้งแรกของปีนี้ เมื่อวันที่ 5 มกราคม ที่ผ่านมา ราคาแกสโซฮอล 95 ซึ่งคนไทยนิยมใช้มากที่สุด มีการปรับขึ้นมากถึง 18 รอบ ในช่วงเวลาเพียง 2 เดือนเศษ ตรงกันข้าม นับตั้งแต่เข้าปี 2565 มีการปรับลดราคากลุ่มเบนซิน และแกสโซฮอลเพียง 1 รอบเท่านั้น คือ เมื่อวันที่ 19 กุมภาพันธ์ ที่ปรับลด 0.40 บาท/ลิตร
ขณะที่ราคากลุ่มน้ำมันดีเซล รวมถึง B7 ที่คนไทยนิยมใช้มากที่สุด และ B20 ซึ่งราคาเท่ากัน มีการประกาศปรับขึ้นล่าสุดในวันที่ 4 มีนาคม อีก 0.20 บาท/ลิตร ทำให้มีการปรับขึ้นราคาแล้ว 8 ครั้งในปีนี้ แม้จะมีการประกาศปรับลดราคาลง 2 บาท/ลิตร เมื่อวันที่ 18 กุมภาพันธ์ ที่ผ่านมา (ข้อมูล ณ วันที่ 14 มีนาคม 2565)
ราคาน้ำมันในไทย บวกค่าอะไร ก่อนถึงหัวจ่าย ?
โครงสร้างราคาขายน้ำมันเชื้อเพลิงของไทย ที่มีผลต่อการปรับราคาน้ำมันภายในประเทศ (ข้อมูลจากกระทรวงพลังงาน) ประกอบด้วย
1. ต้นทุนเนื้อน้ำมัน ( 40-60 %) คือ ต้นทุนราคาน้ำมันสำเร็จรูปที่ผลิตจากโรงกลั่น ซึ่งอ้างอิงราคาตามตลาดกลางภูมิภาคเอเชีย (ทั้งน้ำมันเบนซิน และน้ำมันดีเซล)
2. ภาษีต่างๆ ( 30-40 %) ได้แก่ ภาษีสรรพสามิต ภาษีเทศบาล และภาษีมูลค่าเพิ่ม เพื่อนำมาใช้เป็นงบประมาณในการพัฒนาประเทศ และบำรุงท้องถิ่น โดยภาษีที่จัดเก็บ มีดังนี้
- ภาษีสรรพสามิต: จัดเก็บโดยกระทรวงการคลัง ตาม พรบ. ภาษีสรรพสามิต นำมาใช้เพื่อพัฒนาประเทศ
- ภาษีเทศบาล: จัดเก็บโดยกระทรวงการคลัง ในอัตรา 10 % ของภาษีสรรพสามิต ตาม พรบ. ภาษีสรรพสามิต มาตรา 150 และจัดส่งให้กระทรวงมหาดไทยเพื่อนำมาใช้ในการพัฒนาท้องถิ่น
- ภาษีมูลค่าเพิ่ม: จัดเก็บ 7 % ของราคาขายส่งน้ำมันเชื้อเพลิง และจัดเก็บอีก 7 % ของค่าการตลาดน้ำมันเชื้อเพลิงแต่ละชนิด
3. กองทุนต่างๆ (5-20 %) ดังนี้
- กองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง: จัดเก็บตามประกาศคณะกรรมการบริหารกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง (กบน.) เพื่อรักษาเสถียรภาพราคาขายปลีกน้ำมันในประเทศไม่ให้เกิดความผันผวน
- กองทุนเพื่อส่งเสริมการอนุรักษ์พลังงาน: จัดเก็บตามประกาศคณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ (กพช.) เพื่อส่งเสริมสนับสนุนพลังงานทางเลือก พลังงานทดแทน เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพ และลดการใช้พลังงาน
4. ค่าการตลาด (10-18 %) คือ ส่วนที่เป็นต้นทุน ค่าใช้จ่าย และกำไรของธุรกิจค้าปลีกน้ำมันทั้งระบบ ตั้งแต่การจัดการคลังน้ำมัน การขนส่งน้ำมันเชื้อเพลิงมายังสถานีบริการ และการให้บริการของสถานีบริการที่เติมน้ำมันแต่ละลิตรให้แก่ประชาชน
คนไทยชอบเติมน้ำมันประเภทใด ?
กรมธุรกิจพลังงาน รายงานภาพรวมการใช้น้ำมันเชื้อเพลิงเฉลี่ยต่อวันในเดือน มกราคม 2565 พบว่า
ปริมาณการใช้กลุ่มแกสโซฮอลเพิ่มขึ้น อยู่ที่ 29.91 ล้านลิตร/วัน แบ่งเป็น
- แกสโซฮอล 95 ปริมาณการใช้เฉลี่ย 15.79 ล้านลิตร/วัน (ใช้มากที่สุดในกลุ่มแกสโซฮอล)
- แกสโซฮอล 91 ปริมาณการใช้เฉลี่ย 7.04 ล้านลิตร/วัน
- แกสโซฮอล E20 ปริมาณการใช้เฉลี่ย 6.13 ล้านลิตร/วัน
- แกสโซฮอล E85 ปริมาณการใช้เฉลี่ย 0.95 ล้านลิตร/วัน
การใช้น้ำมันเบนซินในประเทศไทยลดลงเรื่อยๆ อยู่ที่ 0.63 ล้านลิตร/วัน เนื่องจากราคาเบนซินที่อยู่ในระดับสูง โดยทะลุ 40 บาท/ลิตร ในช่วงปลายเดือน มกราคม จนถึงปัจจุบัน (ข้อมูลเดือน มกราคม 2565)
ปริมาณการใช้น้ำมันกลุ่มดีเซล เฉลี่ยอยู่ที่ 75.87 ล้านลิตร/วัน แบ่งเป็น
- น้ำมันดีเซลหมุนเร็ว B7 ปริมาณการใช้เฉลี่ยอยู่ที่ 62.63 ล้านลิตร/วัน (ใช้มากที่สุดในกลุ่มดีเซล)
- น้ำมันดีเซลหมุนเร็วธรรมดา ปริมาณการใช้เฉลี่ยอยู่ที่ 3.83 ล้านลิตร/วัน
- น้ำมันดีเซลหมุนเร็ว B20 ปริมาณการใช้เฉลี่ยอยู่ที่ 0.23 ล้านลิตร/วัน
ทำไมราคาน้ำมันแพง ?
เกิดจาก 3 สาเหตุ โดยมาจากปัจจัยภายนอก นั่นคือ ราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกปรับตัวสูงขึ้นอย่างต่อเนื่องจนเกือบจะแตะ 100 เหรียญสหรัฐฯ/บาร์เรล ทำให้ประเทศไทยซึ่งเป็นผู้นำเข้าน้ำมันได้รับผลกระทบ ต้องใช้น้ำมันเชื้อเพลิงราคาแพงไปด้วย ซึ่งสาเหตุที่ราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกพุ่งทะยาน มีดังนี้
1. ความขัดแย้งระหว่างรัสเซีย ยูเครน และสหรัฐฯ ซึ่งเป็นประเทศผู้ผลิตน้ำมันรายสำคัญของโลก
2. การลดกำลังการผลิตน้ำมันของกลุ่มประเทศโอเปค ซึ่งเป็นผู้ส่งออกน้ำมันเชื้อเพลิงรายใหญ่ได้ลดกำลังการผลิตน้ำมันลงถึง 10 ล้านบาร์เรล/วัน (ในปี 2020) ทำให้เกิดปัญหาขาดแคลน แต่ปัจจุบันกลุ่มโอเปคทยอยผลิตเพิ่มครั้งละ 400,000 บาร์เรล/วัน ซึ่งยังไม่เพียงพอต่อความต้องการของโลก
3. สถานการณ์ COVID-19 ยืดเยื้อมากว่า 2 ปี ทำให้เศรษฐกิจ และปริมาณการค้าโลกสะดุด แต่ก็เริ่มฟื้นตัวในช่วงนี้ ทำให้ความต้องการบริโภคน้ำมันเชื้อเพลิงสูงเกินกว่ากำลังการผลิต จึงทำให้ราคาน้ำมันพุ่งสูงขึ้นในรอบ 7 ปี
เมื่อไร...ราคาน้ำมันจะลง ?
รายงานของ ศูนย์วิเคราะห์เศรษฐกิจ ทีทีบี หรือ TTB ANALYTICS วิเคราะห์ว่า ราคาน้ำมันเชื้อเพลิงยังเป็นส่วนสำคัญที่จะทำให้เงินเฟ้อในปี 2565 ยังอยู่ในระดับสูง เนื่องจาก กิจกรรมทางเศรษฐกิจโลกกำลังฟื้นตัว รวมถึงช่วงปลายปี 2564 และต้นปี 2565 มีสภาพภูมิอากาศที่หนาวมากกว่าปกติ ส่งผลให้ทั่วโลกมีปริมาณความต้องการเชื้อเพลิงเพิ่มสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว ขณะเดียวกันประเทศผู้ผลิตน้ำมันเชื้อเพลิงไม่สามารถปรับเพิ่มกำลังการผลิตได้เพียงพอกับความต้องการ จึงสร้างแรงกดดันเพิ่มต่อราคาน้ำมัน โดยเฉพาะในช่วงต้นปีนี้ แม้ไทยจะได้รับผลดีจากการที่รัฐบาลเข้าตรึงราคาเชื้อเพลิงบางประเภท แต่ไม่เพียงพอที่จะช่วยลดแรงกดดันด้านราคาที่เพิ่มขึ้น
TTB ANALYTICS ประเมินว่า หลังเข้าสู่ไตรมาสที่ 2 ปี 2565 แรงกดดันด้านราคาพลังงานจะคลี่คลายลงบ้าง แต่ยังคงมีอยู่อย่างต่อเนื่องไปจนกว่ากลุ่มผู้ผลิตน้ำมันเชื้อเพลิงจะสามารถบริหารจัดการทยอยเพิ่มกำลังการผลิตให้ได้ตามเป้าหมายในช่วงไตรมาส 3
ประเทศไทย มีคณะกรรมการบริหารกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง (กบน.) ที่มีการใช้กองทุนน้ำมันเป็นกลไกสำคัญเพื่อช่วยพยุงราคาไว้ โดยทำให้ราคาน้ำมันหน้าสถานีบริการในประเทศไม่สูงมากกว่านี้ และก็ไม่ได้ถือว่ามีราคาแพงที่สุดในกลุ่มประเทศอาเซียน
วันสำคัญในประวัติศาสตร์น้ำมันไทย
7 มกราคม 2546
เป็นวันที่กำหนดราคาจำหน่าย แกสโซฮอล 95 และแกสธรรมชาติ CNG ครั้งแรกอย่างเป็นทางการ โดยโครงการ น้ำมันแกสโซฮอล เริ่มจากแนวคิดพระราชดำริของ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 9 ในการหาสิ่งมาทดแทนพลังงานที่กำลังจะหมดไปของน้ำมัน บวกกับแนวทางการแก้ปัญหาของพืชผักที่มีราคาตกต่ำ
17 มีนาคม 2550
ตามนโยบายของกระทรวงพลังงาน ที่ส่งเสริมการใช้เอธานอลเพื่อผลิตแกสโซฮอล 95 อย่างต่อเนื่อง จึงเพิ่มไลน์ของ “แกสโซฮอล 91” มาเป็นทางเลือกให้แก่ประชาชน ในราคาที่ถูกกว่าแกสโซฮอล 95 เล็กน้อย และถูกกว่าน้ำมันเบนซิน 91 ไม่น้อยกว่า 1.50 บาท/ลิตร
1 มกราคม 2551
การพัฒนาพลังงานทดแทน “แกสโซฮอล E20” ในเมืองไทยเป็นผลสำเร็จ ด้วยส่วนผสมของเอธานอล 20 % และน้ำมันเบนซิน 80% เป็นผลให้ราคาประหยัดลงกว่า 6 บาท/ลิตร ซึ่งจะทำให้ประเทศลดการนำเข้าน้ำมันเชื้อเพลิง ลดค่าใช้จ่ายลงได้มาก และยังลดมลพิษในอากาศอีกด้วย
16 พฤษภาคม 2557
วันที่ได้รับการบันทึกว่าราคาน้ำมันที่สูงที่สุดเป็นประวัติการณ์ เนื่องจากในปี 2557 ไทยเผชิญกับวิกฤตราคาน้ำมันครั้งใหญ่ ราคาน้ำมันดีเซลพุ่งถึง 29.99 บาท/ลิตร และราคาน้ำมันเบนซินแตะสูงสุดที่ 49.15 บาท/ลิตร
26 มีนาคม 2563
วันที่ทั่วโลกกำลังเผชิญกับภัย COVID-19 ประเทศไทยยังคงอยู่ในขั้นวิกฤตทั้งการระบาดของโรค และภาคเศรษฐกิจ แต่คนไทยก็ยังพอมีรอยยิ้มกับราคาน้ำมันเชื้อเพลิงที่ถูกลงอย่างไม่น่าเชื่อ นั่นคือ แกสโซฮอล 95 อยู่ที่ประมาณ (18-19 บาท/ลิตร), แกสโซฮอล 91 (16-17 บาท/ลิตร), แกสโซฮอล E20 (15-16 บาท/ลิตร), แกสโซฮอล E85 (14-15 บาท/ลิตร), ดีเซล B7 (19-20 บาท/ลิตร), ดีเซล B10 (16-17 บาท/ลิตร) และดีเซล B20 (16-17 บาท/ลิตร)
10 อันดับประเทศ ราคาน้ำมันเชื้อเพลิงแพงสุดในอาเซียน
เวบไซท์ GLOBALPRICE.COM รายงานราคาน้ำมันเบนซิน สูตรพิเศษ/ลิตร ในประเทศสมาชิกอาเซียน ประจำวันที่ 9 มีนาคม 2565 ดังนี้
1. สิงคโปร์ 4 ดอลลาร์สิงคโปร์ (97 บาท)
2. ลาว 17,180 กีบ (49 บาท)
3. เมียนมาร์ 2,299.020 จาด (43 บาท)
4. ฟิลิปปินส์ 65.950 เปโซ (42 บาท)
5. ไทย ประมาณ 40 บาท/ลิตร
6. เวียดนาม 27,347.500 ด่อง ( 40 บาท)
7. กัมพูชา 4,700 เรียล (38 บาท)
8. อินโดนีเซีย 12,892.000 รูเปี๊ยะห์ (30 บาท)
9. บรูไน 1.03 ดอลลาร์ (25 บาท)
10. มาเลเซีย 2.050 ริงกิต (17 บาท) ABOUT THE AUTHOR
ก
กองบรรณาธิการบทความและสารคดี formula
ภาพโดย : ฝ่ายภาพ, อินเตอร์เนทนิตยสาร 399 ฉบับเดือน พฤษภาคม ปี 2565
คอลัมน์ Online : รายงาน(formula)




