อย่างไรก็ตาม มีโอกาสที่จะเกิดปรากฏการณ์ BEV มอเตอไรเซชัน หรือยุคที่ผู้บริโภคสามารถเข้าถึง และเป็นเจ้าของรถยนต์ไฟฟ้าได้ง่ายดายยิ่งขึ้น นั่นคือ การเปิดตัวรถ BEV ในระดับราคา 5 แสนบาท ในช่วงเดือนสิงหาคม ที่ผ่านมาของบริษัทเกิดใหม่ในไทย 2-3 แห่ง
แต่สภาพแวดล้อมตลาดที่มีความแตกต่างกันระหว่างยุคมอเตอไรเซชันของเครื่อง ICE กับโอกาสเกิด BEV มอเตอไรเซชัน นั้นน่าจะต่างกันมาก ยุคเดิมผลักดันโดย 2 เจ้าตลาดยักษ์ใหญ่ อย่าง TOYOTA และ HONDA สภาพเศรษฐกิจในยุคนั้นกำลังเจริญเติบโต ตลาดมีกำลังซื้อสูง สัดส่วนประชากรต่อรถของไทยยังต่ำ ระบบโครงสร้างของถนน และการจราจรเริ่มพัฒนา รองรับการใช้งานของรถยนต์นั่งส่วนบุคคล แต่การที่ BEV มอเตอไรเซชัน มีรถ BEV ราคาต่ำให้เข้าถึงเพียงปัจจัยเดียว ยังขาด ยังไม่พอ องค์ประกอบเสริมที่ยังไม่สมบูรณ์ เช่น การที่ผลิตภัณฑ์ BEV ราคาต่ำ ถูกจำหน่ายโดยผู้ผลิตหน้าใหม่ตลาดยังขาดความมั่นใจในตัวผู้ขายเอง ในขณะที่เทคโนโลยีของรถ BEV ต้องการระบบสาธารณูปโภคพื้นฐานรองรับ ทั้งที่จอดรถรอชาร์จ จุดบริการชาร์จไฟ นอกจากนี้ ความรู้ความเข้าใจพื้นฐานเกี่ยวกับรถยนต์ไฟฟ้าของตลาดระดับยังมีไม่มาก ประกอบกับเงื่อนไขทางด้านเศรษฐกิจ กำลังซื้อที่ลดลงต่อเนื่อง จากผลกระทบรุนแรงของ COVID-19 ภาวะสงครามในยุโรป รวมถึงอัตราเงินเฟื้อ และภาระหนี้สินครัวเรือน การเป็น “แขกหน้าใหม่” ในตลาดของรถ BEV ราคาต่ำ จึงต้องใช้เวลา อย่างไรก็ตาม เมื่อทุกอย่างพร้อม วันข้างหน้า ตลาดรถเมืองไทยอาจเป็นประเทศแรกในโลกที่เกิดสภาวะ BEV มอเตอไรเซชันก็ได้ใครจะไปรู้ บทความแนะนำ

