HONDA CR-V 2023 เอสยูวีรุ่นยอดนิยม เพิ่มขุมพลังไฮบริด...หล่อดี พี่ชอบ !

NEW HONDA CR-V (ฮอนดา ซีอาร์-วี) ใหม่ เป็นรถรุ่นที่ 6 เผยโฉมครั้งแรกที่ประเทศสหรัฐอเมริกา ใช้พแลทฟอร์มร่วมกับ HONDA CIVIC (ฮอนดา ซีวิค) รุ่นล่าสุด ขนาดตัวรถใหญ่ขึ้น โดยมีความกว้างเพิ่มขึ้น 10 มม. ยาวขึ้น 68 มม. และมีระยะฐานล้อเพิ่มขึ้นอีก 41 มม. มีมุมไต่ และมุมจาก 17 และ 21 องศาตามลำดับ เพียงพอต่อการใช้งานบนเส้นทางโหดๆ ได้บ้าง เป็นคู่แข่งโดยตรงกับ TOYOTA RAV4 (โตโยตา รัฟโฟร์) ภายนอกแตกต่างจากเดิมไม่มากนัก เพิ่มเหลี่ยมสันมากขึ้น ไฟหน้า และไฟท้ายแบบแอลอีดีที่ทันสมัย เป็นอุปกรณ์มาตรฐานตั้งแต่รุ่นเริ่มต้น กรอบไฟทั้งด้านหน้า และหลัง ได้รับการปรับขนาดให้เล็กเรียวกว่าในรุ่นเดิม กระจังหน้าแบบตาข่ายขนาดใหญ่ การออกแบบภายในมีส่วนคล้ายกับ HONDA CIVIC รุ่นล่าสุด โดยเฉพาะในส่วนของแผงคอนโซลด้านหน้า ในรุ่นสูงสุดจะติดตั้งจออินโฟเทนเมนท์ ขนาด 9.0 นิ้วมาให้ รองรับได้ทั้งระบบ APPLE CAR PLAY และ ANDROID AUTO ส่วนที่หน้าจอมาตรวัดเป็นแบบฟูลล์ดิจิทอล ทีเอฟที ขนาด 10.25 นิ้ว พวงมาลัยแบบมัลทิฟังค์ชัน คอนโซลกลางของ HONDA CR-V ให้พื้นที่เก็บของมากที่สุดในรถระดับเดียวกัน HONDA ไม่เพียงแค่อัพเกรดโครงสร้างตัวถังให้แข็งแกร่งขึ้นอีก 15 % เพื่อความปลอดภัยในยามเกิดอุบัติเหตุ แต่ตัวถังที่มีขนาดใหญ่ขึ้น ทำให้ HONDA CR-V รุ่นใหม่ มีขนาดตัวใหญ่ที่สุด ผู้โดยสารเบาะหลังมีพื้นที่วางขามากขึ้น และมีพื้นที่เก็บสัมภาระด้านหลังมากถึง 745 ลิตร และเมื่อพับเบาะหลัง จะมีพื้นที่เพิ่มขึ้นเป็น 2,166 ลิตร ในเวอร์ชันที่จำหน่ายในสหรัฐอเมริกา มีเครื่องยนต์ 2 แบบให้เลือกใช้ คือ เบนซิน 1.5 ลิตร เทอร์โบ 190 แรงม้า ที่ 6,000 รตน. แรงบิดสูงสุด 24.8 กก.-ม. ที่ 1,700-5,000 รตน. อัตราเร่ง 0-96 กม./ชม. ทำได้ในเวลา 7.8 วินาที ส่งพละกำลังผ่านเกียร์ CVT ระบบขับเคลื่อนมีให้เลือกทั้งขับเคลื่อน 2 และ 4 ล้อ (HONDA REAL TIME AWD) พร้อมระบบ INTELLIGENT CONTROL SYSTEM โดยปกติเครื่องยนต์จะส่งกำลังผ่านเกียร์ไปที่ล้อคู่หน้า แต่ในรุ่น AWD ระบบจะสามารถถ่ายกำลัง 50 % ไปที่ล้อคู่หลัง เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการขับเคลื่อน และขับขี่ได้อย่างปลอดภัย มีโหมดในการขับขี่ 3 โหมด ได้แก่ ECON, NORMAL และ SNOW เครื่องยนต์ตัวนี้จะติดตั้งอยู่ในรุ่น EX และ EX-L มาพร้อมล้ออัลลอยขนาด 18 นิ้ว 10 ก้านสีเงิน อัตราการสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงในเมือง/นอกเมือง โดยเฉลี่ยทำได้ 9.6/11.3 กม./ลิตร เครื่องยนต์เบนซิน 4 สูบ 2.0 ลิตร ไฮบริด ที่ทำงานร่วมกับมอเตอร์ไฟฟ้าอีก 2 ตัว ให้กำลังรวมกันถึง 204 แรงม้า ส่วนแรงบิดทำได้ 34.2 กก.-ม. ที่ 0-2,000 รตน. ส่งกำลังด้วยเกียร์แบบ E-CVT ทำความเร็วสูงสุด 184 กม./ชม. โหมดในการขับเลือกได้ 4 โหมด ได้แก่ ECON, NORMAL, SNOW และ SPORT ในรุ่น SPORT ระบบขับเคลื่อนมีให้เลือกทั้งขับเคลื่อน 2 และ 4 ล้อ (HONDA REAL TIME AWD) พร้อมระบบ INTELLIGENT CONTROL SYSTEM ใช้ล้ออัลลอยสีดำขนาด 18 นิ้ว ส่วนรุ่น SPORT TOURING จะติดตั้งระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ เป็นมาตรฐานสำหรับรถทุกคัน โดยใช้ล้อขนาด 19 นิ้วสีดำ ทาง HONDA ได้เพิ่มระบบหน่วงความเร็วขณะขับลงทางลาดชัน (HILL DESCENT CONTROL) เพิ่มประสิทธิภาพในการลุยทางโหดๆ ได้อย่างปลอดภัยมากยิ่งขึ้น ระบบรองรับด้านหน้าแบบแมคเฟอร์สันสตรัท พร้อมเหล็กกันโคลง ส่วนด้านหลังแบบมัลทิลิงค์ พร้อมเหล็กกันโคลง ระบบห้ามล้อแบบจานทั้ง 4 ล้อ พร้อมอุปกรณ์ตัวช่วยที่ทันสมัยมากมาย ด้านความปลอดภัย NEW HONDA CR-V ได้ปรับกล้องหน้าให้มีองศาการทำงานที่กว้างขึ้น 90 องศา ทำงานร่วมกับเรดาห์ที่มีสัญญาณกว้างถึง 120 องศา นอกจากนี้ ยังมีระบบควบคุมรถให้วิ่งอยู่ในเลน, ระบบเตือนมุมอับสายตา, ระบบควบคุมความเร็วแบบแปรผันตามรถคันหน้า พร้อมระบบ REAL TIME AWD ของ HONDA ที่ได้รับการอัพเดทใหม่ และมีโหมดการขับขี่หลายรูปแบบ และเป็นครั้งแรกใน CR-V ที่มีระบบควบคุมการลงเนิน คาดว่า NEW HONDA CR-V จะเผยโฉมต่อสาธารณชนในเมืองไทยช่วงปลายปีนี้ ส่วนรูปแบบของเครื่องยนต์ อุปกรณ์มาตรฐาน และราคาในแต่ละรุ่นคงต้องลุ้นอีกครั้ง   คุณรู้หรือไม่ ? ในรุ่นที่ใช้เครื่องยนต์เบนซิน 2.0 ลิตร ไฮบริด ที่ทำงานร่วมกับมอเตอร์ไฟฟ้าอีก 2 ตัว โดยตัวแรกทำหน้าที่ขับเคลื่อนล้อ ส่วนอีกตัวจะทำหน้าที่เป็นเจเนอเรเตอร์ สำหรับผลิตกระแสไฟฟ้าไปเก็บเอาไว้ในแบทเตอรีแบบลิเธียม-ไออน มีพละกำลังในการลากจูงถึง 453.6 กก. เลยทีเดียว