BMW 750E (บีเอมดับเบิลยู 750 อี) คือ ซีดานหรูระดับธง มาพร้อมเส้นสายที่บ่งบอกความใหญ่โต ภูมิฐาน กระจังหน้าไตคู่ขนาดใหญ่ เอกลักษณ์ของ BMW หลายรุ่น รูปทรงสะท้อนมิติตัวถังทรงยาว มือเปิดประตูถูกซ่อนแนบเนียนกันกับตัวถัง ล้อแมกขนาด สปอยเลอร์หลังแบบ M
ห้องโดยสารหรูล้ำ
ความเป็นซีดานตัวธง นอกจากความหรูหราแล้ว ความสะดวกสบายก็มีความสำคัญไม่แพ้กัน เบาะด้านหลังของ BMW 750E สามารถปรับเอนได้ เพื่อความสะดวกสบายสูงสุดของผู้บริหารที่นั่งด้านหลัง ติดตั้งจอภาพขนาดใหญ่สำหรับผู้โดยสารด้านหลัง ให้ความบันเทิงเต็มพิกัด
ระบบพลัก-อิน ไฮบริด
BMW 750E ใช้ระบบพลัก-อิน ไฮบริด ประกอบด้วยเครื่องยนต์เบนซิน เทอร์โบ 3.0 ลิตร กำลังสูงสุด 313 แรงม้า มอเตอร์ไฟฟ้า กำลังสูงสุด 197 แรงม้า กำลังสูงสุดทั้งระบบที่ 489 แรงม้า อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ใน 4.8 วินาที แบทเตอรีความจุ 22.1 กิโลวัตต์ชั่วโมง แล่นด้วยไฟฟ้าล้วนไกลสุด 85 กม.
รู้หรือไม่
1. BMW 7-SERIES ตัวถังของรุ่นใหม่ล่าสุด มีทางเลือกของขุมพลังที่หลากหลาย รวมถึงการขับเคลื่อนด้วยมอเตอร์ไฟฟ้า นั่นคือ รุ่น I7 กำลังสูงสุด 544 แรงม้า อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ใน 4.7 วินาที แบทเตอรีความจุ 105.6 กิโลวัตต์ชั่วโมง แล่นได้ไกลสุดถึง 625 กม.
2. BMW ของบ้านเรามาแปลก กับการเปิดตัวรุ่นรถยนต์ไฟฟ้าก่อน นั่นคือ BMW I7 กับระดับราคาที่ 7,699,000-8,449,000 บาท โดยรุ่นแรกที่เปิดตัว คือ FIRST EDITION (เฟิร์สต์ เอดิชัน) เน้นออพชันด้านความสะดวกสบาย และระบบความบันเทิงที่จัดเต็ม
3. BMW 750E XDRIVE M SPORT เป็นรถยนต์ที่บ่งบอกว่า BMW ยังไม่ละทิ้งรถยนต์ที่มีส่วนผสมของเครื่องยนต์สันดาป พร้อมระบบพลัก-อิน ไฮบริด ติดตั้งในซีดานหรูตัวธง (เหมือนรุ่นก่อนหน้านี้) และจะเป็นซีดานที่เตรียมขึ้นสายการผลิตในประเทศไทยด้วย

