คือ หนึ่ง เพื่อเฉลิมฉลองวาระครบรอบ 110 ปี ของการก่อตั้งกิจการ ASTON MARTIN สอง เพื่อเฉลิมฉลองวาระครบรอบ 75 ปี ของรถสปอร์ท ASTON MARTIN DBS ซึ่งรถรุ่นแรกเริ่มการจำหน่ายเมื่อปี 1948 และสาม เพื่อเป็นการส่งท้ายหรือปิดฉากให้แก่รถ ASTON MARTIN DBS รุ่นปัจจุบันซึ่งเริ่มจำหน่ายเมื่อปี 2018 และกำลังจวนเจียนจะถูกปลดจากสายการผลิต
รถรุ่นพิเศษดังกล่าวนี้ ไม่ได้ออกแบบขึ้นใหม่ทั้งหมด แต่เป็นการนำรถ ASTON MARTIN DBS รุ่นสามัญที่เริ่มจำหน่ายเมื่อปี 2018 ดังที่กล่าวข้างต้น มาเสริมแต่งและปรับเปลี่ยนรายละเอียดในบางจุดทั้งภายนอกและภายในตัวถัง เพื่อให้เกิดความแตกต่างและความพิเศษ ส่วนรหัส 770 ในชื่อรุ่น มาจากค่าแรงม้าสูงสุดของเครื่องยนต์ที่ใช้
รวมทั้งบอกไปแล้วว่า เช่นเดียวกับรถซึ่งเป็นที่มา รถรุ่นพิเศษนี้มีตัวถังให้เลือก 2 แบบ คือ ตัวถัง 2 ประตูคูเป 2+2 ที่นั่ง ซึ่งติดป้ายชื่อ ASTON MARTIN DBS 770 ULTIMATE (แอสตัน มาร์ทิน ดีบีเอส 770 อัลทิเมท) และติดป้ายราคา 314,000 ปอนด์ หรือประมาณ 13.5 ล้านบาทไทย กับตัวถัง 2 ประตูเปิดประทุน 2+2 ที่นั่ง ซึ่งติดป้ายชื่อ ASTON MARTIN DBS 770 ULTIMATE VOLANTE (แอสตัน มาร์ทิน ดีบีเอส 770 อัลทิเมท โวลันเต) และติดป้ายราคาค่าตัว 337,000 ปอนด์ หรือเท่ากับประมาณ 14.5 ล้านบาทไทย (เมื่อคำนวณว่า เงินอังกฤษ 1 ปอนด์ แลกได้ด้วยเงินไทย 43 บาทถ้วน)
ตัวถังทั้งสองแบบนี้มีขนาดเท่ากัน คือ ยาว 4.715 ม.กว้าง 2.145 ม.(รวมกระจกมองข้าง) สูง 1.218 ม. มีช่วงฐานล้อยาว 2.805 ม. และมีน้ำหนักรถพร้อมขับรวมผู้ขับ 1,845 และ 1,945 กก.ตามลำดับ เครื่องยนต์ที่ใช้ในตัวถังทั้งสองแบบนี้ก็เป็นเครื่องบลอคเดียวกัน คือ เครื่องทวินเทอร์โบเบนซิน QOHC วี 12 สูบ 5,204 ซีซี ที่ยกมาทั้งบลอคจากรถ ASTON MARTIN DBS ซึ่งเป็นที่มา แต่ปรับแต่งรายละเอียดในบางจุด จนกำลังสูงสุดเพิ่มจาก 533 กิโลวัตต์/725 แรงม้า เป็น 566 กิโลวัตต์/770 แรงม้า (อันเป็นที่มาของชื่อรุ่น 770 ULTIMATE ดังที่กล่าวข้างต้น)
สมรรถนะความเร็วตามตัวเลขของผู้ผลิต รถคูเป อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ทำได้ใน 3.4 วินาที ความเร็วสูงสุด 340 กม./ชม. ส่วนรถเปิดประทุน อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ต้องเพิ่มเวลาเป็น 3.6 วินาที ส่วนความเร็วสูงสุด 340 กม./ชม. เท่ากัน
จะจำกัดจำนวนผลิตไว้เพียง 499 คัน แบ่งเป็นรถคูเป 300 คัน กับรถเปิดประทุน 199 คัน ขณะนำเรื่องราวมาเล่าสู่กันฟังเป็นครั้งที่สองในเดือนนี้ นิตยสารรถยนต์รายสัปดาห์ชั้นนำของเมืองผู้ดี คือ AUTOCAR (ออโทคาร์) ได้ยืนยันแล้วว่า รถรุ่นพิเศษทั้ง 499 คันนี้ มีผู้สั่งซื้อแล้วทั้งหมด
ที่ตัดสินใจกระทำในสิ่งที่ไม่เคยทำมาก่อน คือ นำเรื่องราวของรถรุ่นพิเศษนี้มาเล่าสู่กันฟังซ้ำสอง ก็เนื่องจากครั้งแรกคือในฉบับเดือนเมษายน 2023 มีแต่ภาพของรถคูเป ASTON MARTIN DBS 770 ULTIMATE เพราะผู้ผลิตยังไม่ได้เปิดเผยโฉมหน้าของรถเปิดประทุนโรดสเตอร์ ASTON MARTIN DBS 770 ULTIMATE VOLANTE จนกระทั่งเมื่อตอนกลางเดือนเมษายนที่เพิ่งผ่านพ้นไปนี่เอง ก็มีการเผยแพร่ภาพของรถเปิดประทุน ผ่านสื่อต่างๆ อย่างเป็นทางการ เพื่อความสมบูรณ์แบบจึงจำเป็นต้องมีการฉายซ้ำดังที่กล่าว
ASTON MARTIN DBS 770 ULTIMATE VOLANTE
รถสปอร์ทเปิดประทุนแบบ ROADSTER 2 ประตู 2+2 ที่นั่ง
มิติตัวถัง 4.715x2.145 (รวมกระจกมองข้าง) x1.285 ม. ติดตั้งประทุนอ่อน
เครื่องยนต์ทวินเทอร์โบเบนซิน วี 12 สูบ 5,204 ซีซี 566 กิโลวัตต์/770 แรงม้า
ระบบเกียร์อัตโนมัติ 8 จังหวะ ZF ขับเคลื่อนล้อหลัง
ราคาในอังกฤษ เริ่มต้นที่ 337,000 ปอนด์ (ประมาณ 14.5 ล้านบาทไทย) 
