เลือกผลงานใหม่ของค่าย ASTON MARTIN (แอสตัน มาร์ทิน) มาร่วมขบวนต้อนรับคณะรัฐบาลของนายกรัฐมนตรีคนใหม่ 2 รุ่น 2 แบบ อันดับแรกคือ ASTON MARTIN DB12 (แอสตัน มาร์ทิน ดีบี 12) ที่กำลังอวดโฉมอยู่นี้ เป็นรถใหม่ที่เริ่มการจำหน่ายไปแล้ว แต่จนถึงขณะนี้ยังไม่แน่ใจว่ามีผู้สั่งจองคนใดได้รถไปขับหรือยัง เพราะผู้ผลิตบอกกล่าวในวันเปิดตัวว่า จะเริ่มการส่งมอบรถรุ่นนี้ในไตรมาสที่สามของปีกระต่าย
รถสปอร์ทรหัส DB เป็นรถอังกฤษพันธุ์แท้ที่มีประวัติความเป็นมายาวนานมาก คือ ยาวเกือบ 8 ทศวรรษ รถรุ่นแรกซึ่งติดป้ายชื่อ ASTON MARTIN DB1 (แอสตัน มาร์ทิน ดีบี 1) อยู่ในสายการผลิตระหว่างปี 1948-1950 ก่อนถูกแทนที่ด้วยรถรุ่นที่ 2 คือ ASTON MARTIN DB2 (แอสตัน มาร์ทิน ดีบี 2) ซึ่งอยู่ในสายการผลิตระหว่างปี 1950-1953 แล้วก็ไล่เลียงกันมาจนล่าสุดก่อนหน้านี้ก็คือ ASTON MARTIN DB11 (แอสตัน มาร์ทิน ดีบี 11) ซึ่งเปิดตัวเมื่อปี 2016 ในฐานะตัวตายตัวแทนของรถ ASTON MARTIN DB9 (แอสตัน มาร์ทิน ดีบี 9) และยังคงมีจำหน่ายจนกระทั่งปี 2023 นี้
จำได้ว่าเคยบอกไปแล้วครั้งหนึ่งใน “ระเบียงรถใหม่” นี้ แต่จำไม่ได้ว่าปีไหน ? และเดือนใด ? ว่ารหัส DB ของรถสปอร์ทเมืองผู้ดีอนุกรมนี้ มีที่มาที่ไปซึ่งทรงความสำคัญและมีความหมายมากต่อค่าย ASTON MARTIN เพราะย่อจากชื่อของ SIR DAVID BROWN (เซอร์ เดวิด บราวน์) ซึ่งเป็นเจ้าของกิจการระหว่างปี 1947-1972 ก่อนต้องขายกิจการไปทั้งหมดเพราะมีปัญหาด้านการเงิน
รถรุ่นล่าสุด ASTON MARTIN DB12 (แอสตัน มาร์ทิน ดีบี 12) เปิดตัวเมื่อวันพุธที่ 24 พฤษภาคม 2023 อันเป็นวาระที่ค่ายนี้มีอายุครบ 110 ปี และรถสปอร์ท ASTON MARTIN DB มีอายุครบ 75 ปีพอดี เป็นการเปิดตัวพร้อมคำประกาศอย่างมั่นอกมั่นใจว่า นี่คือ การเริ่มต้นของรถสปอร์ทพันธุ์ใหม่จากค่าย ASTON MARTIN
คำอธิบายที่ตามติดมาก็คือ เป็นรถที่ออกแบบและพัฒนาขึ้นใหม่ แต่ไม่ได้ละทิ้งสิ่งดีๆ ที่เคยพบเคยเห็นกันในรถรุ่นก่อนๆ ไปทั้งหมด ส่วนสำคัญของตัวรถ ตั้งแต่ แชสซีส์ ระบบขับเคลื่อน รายละเอียดของตัวถังทั้งภายนอกและภายใน ไปจนถึง INFOTAINMENT หรือระบบสื่อสารบันเทิง ล้วนออกแบบขึ้นใหม่ทั้งหมด หรือเปลี่ยนแปลงไปมากจากของที่เคยมีอยู่เดิม
มีตัวถังให้เลือกใช้ 2 แบบ เหมือนรถรุ่นก่อนๆ คือ ตัวถัง 2 ประตูคูเป ซึ่งเรียกขานกันว่า ASTON MARTIN DB12 COUPE (แอสตัน มาร์ทิน ดีบี 12 คูเป) กับตัวถังเปิดประทุน ซึ่งเปลี่ยนชื่อเป็น ASTON MARTIN DB12 VOLANTE (แอสตัน มาร์ทิน ดีบี 12 โวลันเต) ในวันเปิดตัวที่กล่าวข้างต้น มีแต่ตัวถังคูเปเท่านั้นที่ผู้คนได้สัมผัส
ASTON MARTIN DB12 COUPE มีขนาดตัวถังยาว 4.725 ม. กว้าง 2.060 ม. (รวมกระจกมองข้างขณะพับ) สูง 1.295 ม. และมีช่วงฐานล้อ 2.805 ม. เป็นตัวถัง 2+2 ที่นั่ง ซึ่งโครงสร้างทำจากอลูมิเนียมขึ้นรูป ชิ้นส่วนอื่นๆ รวมทั้งเปลือกตัวถัง ทำจากวัสดุผสม มี TORSIONAL STIFFNESS หรือค่าความแข็งเกร็งต่อแรงบิดสูงกว่ารถรุ่นเดิมเล็กน้อย คือ ร้อยละ 7 กับมีน้ำหนักรถเปล่า 1,685 กก. เป็นรถสปอร์ทอย่างที่เรียกกันในภาษาอังกฤษว่า FRONT MID MOUNTED ENGINE/ REAR WHEEL DRIVE คือ วางเครื่องกลางลำค่อนไปด้านหน้า/ขับเคลื่อนด้วยล้อหลัง
ขุมพลังขับเคลื่อนเป็น ONE MAN, ONE ENGINE หรือ “เครื่องยนต์เครื่องเดียวประกอบโดยช่างคนเดียว” ผลิตผลของค่าย MERCEDES-AMG (เมร์เซเดส-เอเอมจี) ซึ่งเป็นพันธมิตรทางเทคนิคกับค่ายนี้ เป็นเครื่องทวินเทอร์โบเบนซินฉีดเชื้อเพลิงโดยตรง วี 8 สูบ 3,982 ซีซี ซึ่งให้กำลังสูงสุด 500 กิโลวัตต์/680 แรงม้า ที่ 6,000 รตน.ให้แรงบิดสูงสุด 800 นิวทันเมตร/81.6 กก.-ม. ที่ 2,750-6,000 รตน. และส่งกำลังสู่ล้อคู่หลังผ่านระบบเกียร์อัตโนมัติ 8 จังหวะ มีโหมดการขับให้เลือกใช้ 5 แบบ คือ WET-GT-SPORT-SPORT PLUS-INDIVIDUAL โดยที่แต่ละโหมดมีความแตกต่างทั้งระบบขับ ระบบบังคับเลี้ยว และการปรับแชสซีส์ สมรรถนะความเร็วตามตัวเลขของผู้ผลิต รถคูเปรุ่นใหม่นี้ใช้เวลา 3.6 วินาที ในการทำอัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. และทำความเร็วสูงสุด 325 กม./ชม. ค่าตัวที่ซื้อขายกันในเมืองผู้ดี เริ่มต้นที่ระดับ 185,000 ปอนด์ หรือประมาณ 8.3 ล้านบาทไทย
ส่วนรถเปิดประทุนซึ่งเพิ่งตามมาเมื่อต้นเดือนสิงหาคม มีรายละเอียดมากมายที่เปลี่ยนแปลงไป การตัดส่วนหลังคาออกทั้งหมดแล้วแทนที่ด้วยประทุนหลังคาที่เปิดก็ได้ปิดก็ได้ ส่งผลกระทบในทางลบเป็นอย่างมากต่อค่าความแข็งเกร็งต่อแรงบิด จึงต้องใส่ใจเป็นพิเศษในการเพิ่มความแข็งแรงของแชสซีส์ สิ่งหนึ่งที่กระทำ คือ เพิ่มความแข็งแรงของจุดยึดระบบรองรับ (หน้า อิสระปีกนก 2 ชั้น สปริงขด เหล็กกันโคลง/ หลัง อิสระ มัลทิลิงค์ สปริงขด เหล็กกันโคลง) และเพิ่มโครงยึดตามขวางชิ้นหนึ่งตรงจุดติดตั้งเครื่องยนต์ ฯลฯ
ประทุนหลังคาที่กล่าวข้างต้น เป็นประทุนแบบอ่อนที่รับเป็นมรดกตกทอดจากรถเปิดประทุนรุ่นก่อนคือ ASTON MARTIN DB11 VOLANTE (แอสตัน มาร์ทิน ดีบี 11 โวลันเต) เป็นประทุนหลังคาที่เปิด/ปิดโดยการกดปุ่ม และกระทำได้ขณะรถยังวิ่งเร็วไม่เกิน 50 กม./ชม. การเปิดใช้เวลา 14 วินาที แต่การปิดเพิ่มเวลาเป็น 16 วินาที
การเปลี่ยนแปลงเหล่านี้ ส่งผลให้น้ำหนักตัวเพิ่มขึ้นถึง 111 กก. เมื่อเทียบกับรถคูเป แต่ผลกระทบต่อสมรรถนะความเร็วเกิดขึ้นเพียงเล็กน้อย จนน่าจะกล่าวได้ว่าไม่มีผลอะไร อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม.ทำได้ใน 3.7 วินาที คือ ช้ากว่ากันเพียง 0.1 วินาที ส่วนความเร็วสูงสุดยังทำได้เท่าเดิม คือ 325 กม./ชม.
ที่เปลี่ยนไปเพียงเล็กน้อยเช่นกัน ก็คือค่าตัว ซึ่งนิตยสารรถยนต์ฉบับหนึ่งของเมืองผู้ดีคาดหมายว่า จะเริ่มต้นที่ระดับ 200,000 ปอนด์ หรือประมาณ 9.0 ล้านบาทไทย
ASTON MARTIN DB12
รถสปอร์ทคูเปและรถสปอร์ทเปิดประทุน วางเครื่องกลางลำ/ขับล้อหลัง
มิติตัวถัง 4.725x2.060x1.295 ม. น้ำหนักรถเปล่า 1,685 และ 1,796 กก.
เครื่องยนต์ทวินเทอร์โบเบนซินฉีดตรง วี 8 สูบ 3,982 ซีซี 680 แรงม้า
อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ใน 3.6 และ 3.7 วินาที ความเร็วสูงสุด 325 กม./ชม.
ราคาในอังกฤษ เริ่มต้นที่ 185,000 ปอนด์ (ประมาณ 8.3 ล้านบาทไทย)