เรื่องเด่นจาก GADGET/HOW IT WORKS
หนังสืออัจฉริยะ MACBOOK AIR 15-INCH
MACBOOK AIR 15-INCH ราคา 1,399 ปอนด์, apple.com
ไม่เพียงแค่ขนาดที่ใหญ่กว่าเท่านั้น แต่หลายๆ ส่วนยังดีขึ้นกว่าเดิมด้วย
ชื่อ MACBOOK AIR 15 นิ้ว นั้นดูขัดกันใช่ไหม ? ปกติแล้วรุ่น “AIR” ของ APPLE นั้นควรจะเป็นอะไรที่เบา และไม่ควรใหญ่เทอะทะถูกต้องไหม ? ผิดแล้ว ! MACBOOK AIR เป็นแลพทอพขนาด 15 นิ้ว ที่บาง และเบาที่สุดในกลุ่มตลาด
หน้าจอขนาด 15.3 นิ้วของ MACBOOK AIR เครื่องนี้-สังเกตเห็นได้ว่ามันไม่ใช่ขนาด 15.6 นิ้ว ที่ใกล้เคียงกับ MACBOOK PRO รุ่น 16 นิ้ว มากเกินไป นั่นหมายความว่า มันยังคงพกพาได้สะดวก ในขณะที่ยังมีข้อดีของขุมพลัง M2 ของ APPLE ไว้ในการออก แบบที่ไร้พัดลม (ทำงานได้เงียบเป็นพิเศษ)
แต่นั่นจะทำให้เกิดคำถามว่า MACBOOK รุ่น 15 นิ้ว ในปี 2023 นั้นเป็นเพียงรุ่น 13 นิ้ว จากปี 2022 ที่มีขนาดที่ใหญ่กว่าเดิมใช่หรือไม่ ? คำตอบ คือ ก็ไม่ได้ดีขึ้นกว่าเดิมมาก แต่ก็มีจุดที่แตกต่างกันอยู่บ้าง ซึ่งส่วนใหญ่จะต่างกันไปในแง่บวก
จริงๆ แล้ว ข้อเสียเพียงอย่างเดียวก็คือ MACBOOK รุ่น 15 นิ้ว มีขนาดที่หนา และหนักมากกว่ารุ่น 13 นิ้ว แต่ก็แทบไม่ได้รู้สึกต่างมาก เนื่องจากมีน้ำหนักที่หนักกว่าเพียง 270 กรัม และหนากว่าเพียง 0.2 มม. เท่านั้น
และแน่นอนว่า คุณจะต้องเพิ่มเงินในการซื้อเครื่องนี้ ในรุ่นเริ่มต้นนั้นมีฟังค์ชันให้ครบทุกอย่าง ต้องขอบคุณชิพ M2 ของ APPLE ที่ทำให้ MACBOOK AIR ขนาด 15 นิ้ว มีราคาอยู่ที่ 1,399 ปอนด์ มันมีประสิทธิภาพมากกว่ามากมายนอกเหนือจากขนาดหน้าจอที่ใหญ่กว่า ซึ่งนับว่าสมเหตุสมผลเป็นอย่างยิ่ง
ข้อมูลจำเพาะ
ขนาดจอภาพ 15.3 นิ้ว 2880x1864 500 นิต 60HZ LED ชิพประมวลผล Apple M2 CPU 8 คอร์ (4 คอร์ประสิทธิภาพ, 4 คอร์ประสิทธิผล) GPU 10 คอร์ NEURAL ENGINE 16 คอร์ RAM
8GB/16GB/24GB พื้นที่จัดเก็บข้อมูล 256GB/512GB/1TB/ 2TB ระบบปฏิบัติการ MACOS VENTURA การเชื่อมต่อ MAGSAFE 3, 2x THUNDERBOLT 3, ช่องสายหูฟัง 3.5 มม., WI-FI 6, BLUETOOTH 5.3 ขนาด 11.5x340.4x237.6 มม.
น้ำหนัก 1.51 กก.
หน้าจอสุดโปรด
เหตุผลหลักที่คุณควรมี MACBOOK AIR ขนาด 15 นิ้ว ก็คือ จอแสดงผล สิ่งที่ดี คือ พาแนลขนาด 15.3 นิ้ว ซึ่งเป็นอะไรที่ไม่ธรรมดาในโลกของจอ “15 นิ้ว” เนื่องจากการวัดขนาดจริงๆ จากแนวทะแยงจะได้ขนาดที่เล็กกว่า 15.6 นิ้ว เพียงเล็กน้อยเท่านั้น สำหรับเราแล้ว นั่นทำให้รู้สึกว่าได้กำไรเพิ่ม มันไม่ได้ใหญ่มาก แต่ก็ไม่ได้เล็กจนเกินไป ซึ่งเป็นไปตามหลักการของ GOLDILOCKS
มีข้อมูลเพิ่มเติมมากมายเกี่ยวกับหน้าจอแสดงผล ซึ่งข้อมูลทั้ง หมดตรงกับรุ่น AIR 13 นิ้ว เป็นส่วนใหญ่ ถึงแม้หน้าจอจะมีรายละ เอียดสูงกว่าเพื่อครอบคลุมพื้นที่หน้าจอที่มากขึ้น ทว่า APPLE ก็ยังเลือกคงไว้ซึ่งความหนาแน่นของพิกเซลที่ 224PPI (ที่ 2880x 1864 พิกเซล) หมายความว่า ไม่ว่าคุณจะเลือกใช้รุ่น 13 หรือ 15 นิ้วก็ตาม ก็จะได้ความคมชัดที่เท่ากัน
ด้วยความสว่างถึง 500 บิท (รองรับระบบ HDR) และขอบเขตของสีที่กว้างครอบคลุม DCI-P3 (หมายความว่ามีสีให้เลือกใช้ถึง 1,000 ล้านสี) และเทคโนโลยี TRUE TONE (ปรับโทนแสงสีน้ำเงินออกเป็นแสงโดยรอบแทน) ซึ่งช่วยให้คุณได้เพลิดเพลินไปกับหน้าจอได้อย่างแท้จริง อีกทั้งหน้าจอยังไม่สะท้อนแสงมากเกินไป สามารถใช้งานขณะอยู่กลางแจ้งในเวลากลางวันได้สบาย
อย่างไรก็ตาม MACBOOK AIR รุ่น 15 นิ้วยังคงสืบทอดสิ่งที่ “แย่” มาจากรุ่น 13 นิ้วเช่นกัน ทว่าจากที่เคยใช้ MACBOOK AIR ขนาด 13 นิ้วมา เราแทบไม่สังเกตเห็นรอยบากนั่นในรุ่นที่ใหญ่กว่านี้ด้วยซ้ำ แน่นอนว่า APPLE สามารถผสานรอยบากกับขนาดหน้าจอที่ใหญ่ขึ้นได้อย่างลงตัว โดยทำให้ส่วนรอยบากให้มีขนาดที่เล็กลง แต่เราก็คุ้นเคยกับมันอยู่แล้วจนแทบไม่ได้สังเกตด้วยซ้ำ
นอกจากนั้น ยังมีอัตราการรีเฟรชของพาแนล LCD อยู่ที่ 60HZ ไม่ใช่ 120HZ เราต้องการอัตราการรีเฟรชที่ไวกว่าเพื่อความลื่นไหลของภาพที่มากขึ้น ซึ่งนั่นเป็นสิ่งที่แลพทอพ PC มีให้อย่างแน่นอน และมีราคามักค่อนข้างแรง แต่ในความจริง มันไม่ได้เป็นที่ต้องการของคนส่วนใหญ่นัก หากคุณต้องการก็สามารถข้ามไปเล่นรุ่นใหญ่อย่าง MACBOOK PRO ที่มีพาแนล MINI-LED ให้สว่างกว่าเพื่อรองรับอัตราการรีเฟรชที่ 120HZ
ลำโพง 6 ตัวช่วยให้เสียงดียิ่งขึ้น
ระบบเสียงที่มาพร้อมกับภาพ MACBOOK AIR รุ่น 15 นิ้ว มีการจัดเรียงลำโพง 6 ตัวแบบใหม่ทั้งหมด ซึ่งยกระดับเสียงให้เหนือกว่ารุ่น 13 นิ้วมาก APPLE ได้สร้างชื่อเสียงให้ตัวเองในเรื่องระบบเสียง ด้วย MACBOOK PRO รุ่น 16 นิ้ว โดยเสียงที่ได้นั้นเหลือเชื่อมาก ถึงแม้ว่ารุ่น AIR จะไม่ได้เสียงในระดับนั้น แต่ก็ยังอยู่ในระดับที่ดีมาก เสียงนั้นรองรับ SPATIAL AUDIO ของ APPLE เมื่อเล่นเนื้อหาในระบบ DOLBY ATMOS ซึ่งจะทำให้เสียงมี 3 มิติได้อย่างน่าประหลาด เสียงทุกอย่างที่ได้เต็มอิ่ม และมีระดับเบสส์ที่เหมาะสม
สิ่งสำคัญภายใน
เช่นเดียวกับที่เราเคยกล่าวไว้ในรีวีว MACBOOK AIR รุ่น 13 นิ้วก่อนหน้า “M2 ที่อยู่ภายในนั้นเป็นตัวที่ยกระดับขึ้นไปอีกขั้นจริงๆ... งานหลายอย่างที่เคยทำได้ใน MACBOOK PRO จะสามารถทำ ได้บน AIR ด้วยเช่นกัน ใช่เลย มันแรงขนาดนั้นจริงๆ” ซึ่งคำกล่าวนั้นยังเป็นจริงอยู่-และสิ่งที่ MACBOOK AIR รุ่น 15 นิ้ว มีก็คือ ชิป M2 จัดว่าเป็นการจับคู่ในอุดมคติเลยก็ว่าได้
หน้าจอ YASSS
พาแนลขนาด 15.3 นิ้วที่ใหญ่กว่านั้นคุ้มค่า พื้นที่หน้าจอที่ใหญ่ขึ้นแสดงเนื้อหาได้ดีกว่า ในขณะที่ความสว่างถึง 500 บิท และกระจกลดการสะท้อนแสงยังทำให้ภาพดูดีเมื่อใช้งานภายใต้แสงอาทิตย์
มีอยู่ 2 ด้านที่จะดูว่าชิพ M2 ทำงานอย่างไร ใช่ ตัวชิพนั้นถูกจำกัดความสามารถลงเล็กน้อย และมันไม่มีพัดลมระบายความร้อน ดังนั้น ด้านล่างของ MAC รุ่นนี้จะร้อนกว่า MACBOOK PRO เมื่อเทียบกัน แต่เราอยู่ในยุคของการออกแบบไร้พัดลม และการทำ งานที่เงียบเชียบ การที่จะต้องมีแลพทอพจำนวนมากที่มีเสียงการทำงานที่ดังเหมือนจรวด หากมี MAC เครื่องนี้อยู่ตรงหน้าเราแทน เสียงการทำงานของเครื่องก็จะน้อยกว่ามาก
ที่น่าสนใจ คือ MACBOOK AIR รุ่น 15 นิ้วตัวนี้มาพร้อมกับ CPU 8-CORE และการกำหนดค่า GPU ที่ 10-CORE โดย M2 เป็นค่าเริ่มต้น ในขณะที่คุณต้องจ่ายเพิ่มสำหรับ GPU ในรุ่น 13 นิ้ว (ไม่เช่นนั้นคุณจะได้ 8+8 CORE CPU รวม GPU) ทำให้ AIR รุ่นใหญ่กว่าคุ้มค่ามากขึ้น
ตัดต่อวีดีโอ 4K หลายตัวได้
มาดูตัวเลขกัน เราทดสอบผ่าน GEEKBENCH และ MACBOOK AIR รุ่น 15 นิ้ว ให้ผลลัพธ์ที่เหมือนกับ M2 ในรุ่น 13 นิ้ว (1,880 คะแนนำหรับ SINGLE-CORE, 8,000+ สำหรับ MULTI-CORE และ 30,000+ สำหรับการทดสอบประมวลผลของ METAL) ดังนั้น จึงมีพลังในโลกความเป็นจริงที่มากกว่าชิพ M11 รุ่นก่อนหน้าอยู่ที่ประมาณ 12 %
แต่ตัวเลขนั้นไม่ใช่จุดจบ เนื่องจากประสิทธิภาพนั้นวัดผลได้จากการใช้งานจริง เราพบว่า M2 แทบจะตอบสนองทันทีในการโหลดไฟล์ขนาดใหญ่ และมีศักยภาพสมบูรณ์ในการตัดต่อวีดีโอ 4K พร้อมการสตรีมิงหลายช่องทาง และยังสามารถรับมือกับการใช้งานแทบของ BROWSER หลาย 10 หน้าต่างได้โดยไม่มีปัญหา อีกทั้ง M2 ก็มีความสม่ำเสมอมากกว่า M1 โดยไร้อาการกระตุก หรือค้างที่มีให้เห็นบ้างในชิพของ APPLE รุ่นก่อนหน้า
เน้นความบาง
ถึงแม้จะมีขนาดหน้าจอใหญ่ขึ้น แต่ MACBOOK AIR ยังคงบาง และเบาอย่างน่าทึ่ง-โดยมีน้ำหนักมากกว่ารุ่น 13 นิ้ว เพียง 270 ก. และความหนาที่มากกว่าเพียง 0.2 มม.
ช่องเสียบชาร์จ
AIR ตัวใหม่นำเอาพอร์ทชาร์จไฟ MAGSAFE จาก MACBOOK PRO รุ่น 14 และ 16 นิ้ว ทำให้มีช่องพอร์ท THUNDERBOLT ว่างเพิ่ม
เต็มพลัง
เมื่อ APPLE เปิดตัวหน้าจอ MACBOOK AIR ที่มีรอยบากให้แก่ MACBOOK AIR แล้ว APPLE ยังเพิ่มระบบชาร์จแบบ MAG SAFE เข้าไปให้ด้วย M1 รุ่นเก่าของ MACBOOK AIR นั้นมีพอร์ท USB-C 2 พอร์ท แต่เนื่องจากบางครั้งคุณต้องใช้พอร์ทหนึ่งสำหรับชาร์จ ทำให้คุณเหลือพอร์ทใช้งานเพียงพอร์ทเดียว การเพิ่ม MAGSAFE ในรุ่นใหม่นี้ ทำให้คุณมีพอร์ท USB-C/ THUNDERBOLT 4 ว่างสำหรับใช้งานจริงๆ ถึง 2 พอร์ทตลอดเวลา
สิ่งหนึ่งที่ทำให้เรานึกถึงการชาร์จแบบ MAGSAFE นั่นคือ สายเคเบิลซึ่งหุ้มด้วยวัสดุอย่างดี เรามักจะทำให้การเชื่อมต่อแม่เหล็กของ MAGSAFE หลุดโดยไม่รู้ตัว แต่นั่นยังดีกว่าการเผลอเตะสายชาร์จ USB-C จนทำให้ตัวเครื่องปลิวหล่นลงพื้น
แต่การเสียบชาร์จเครื่องทิ้งไว้ ไม่ใช่เรื่องที่เราต้องกังวล เมื่อได้รับเครื่องมา เราได้กำหนดการใช้งานในแต่ละวัน, การทดสอบ BENCHMARKS และรวมทั้งหมดไว้ หลังจากการใช้งาน 9 ชม. ติดต่อกัน ตัวแลพทอพยังคงเหลือแบทเตอรีที่ 35 % ไม่มีการเชื่อมต่อ WI-FI, ลดความสว่างหน้าจอ, เล่นเพลง หรืออะไรทำนองนั้นเลย นี่คือ MACBOOK AIR ที่ใช้งานอย่างมีความสุขได้ถึง 14 ชม. สำหรับการใช้งานทั่วไป เช่น การใช้แอพพลิเคชัน ประมวลผลคำ และเล่น BROWSER ต่างๆ นั่นหมายความว่ามันเป็นแลพทอพที่เหมาะกับการใช้งานทั่วไปเป็นเวลานาน
เนื่องจากเราต้องการทดสอบในหลากหลายรูปแบบ เราจึงทดสอบการใช้งานแบทเตอรีผ่านการเปิดวีดีโอที่ความละเอียด 2160P ทาง YOUTUBE พร้อมเปิดเสียง ตัวเครื่องไม่สามารถทำงานได้นานถึง 18 ชม. ตามที่ APPLE กล่าวเสียทีเดียว แต่เกี่ยวข้องกับการใช้ WI-FI ช่วย รวมถึงการลดความสว่างหน้าจอ ถ้าทำทั้ง 2 อย่างก็สามารถใช้งานได้ถึง 18 ชม.
แน่นอนว่า การทำสิ่งต่างๆ แบบเต็มที่ เช่น ตัดต่อวีดีโอคุณภาพ 4K อย่างหนัก ทำให้แบทเตอรีนั้นไม่สามารถอยู่ยาวในระดับนั้นได้ หากคุณไม่หยิบสายชาร์จมาช่วยชีวิตเครื่องของคุณ แต่เนื่องจากเป็นอุปกรณ์ที่พกพาได้สะดวก และใช้งานได้หลากหลายแล้ว แบทเตอรีของ MACBOOK รุ่น 15 นิ้วนี้ก็สามารถใช้งานได้นานจนทำให้ทีมงานของเราประทับใจ
ทำให้ใหญ่ขึ้น
ตลอดสัปดาห์แห่งการทำงานที่เราได้ใช้ MACBOOK AIR รุ่น 15 นิ้ว เราพบว่า MAC ที่มีขนาดใหญ่ขึ้นนั้น ใช้งานดีกว่าอย่างเห็นไดชัด
รุ่น 15 นิ้วที่ได้มานั้นเป็น MACBOOK AIR สุดเรียบง่ายที่บาง, เบา และพกพาสะดวก และมีหน้าจอที่ใหญ่กว่า (รวมถึงเสียงที่เต็มที่กว่าเป็นของแถม) ไม่มีเหตุผลให้ใช้หน้าจอ 15.3 นิ้ว เว้นแต่คุณจะยอมจ่ายเพิ่ม และมีน้ำหนักที่มากกว่าอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
ดังนั้น MACBOOK AIR ขนาด 15 นิ้วนั้นดีจริง เรายอมนำรุ่น AIR 13 ของเดิมไปแลกเอารุ่น 15 นิ้วมาสานฝันการใช้งานประจำวันของเราแทน...
ใหญ่ และเอาอยู่
AIR นั้นใช้งานได้หลากหลาย เช่น สามารถรับชมวีดีโอ ติดต่อกันได้กว่า 15 ชม. เหมาะอย่างยิ่งเวลาเดินทาง
สรุปคะแนนจาก T3
เราประทับใจ : แบทเตอรีใช้งานได้ยาวนาน; การทำงานเงียบ; ชิพ M2 แรง บาง และเบา
เราอยากให้ปรับปรุง : รอยบากบนหน้าจอที่ไม่เข้ากัน สาย MAG SAFE ที่พันกันง่าย
สรุป : MACBOOK จอใหญ่ในฝันของคุณ... ตอนนี้เป็นความจริงแล้ว
พบกับข้อเสนอดีๆ ของ MACBOOK AIR 15 นิ้ว ได้ที่: bit.ly/t3mbair15
อุปกรณ์เสริมสุดเจ๋ง
INSTA360 LINK เริ่มต้นที่ 318.99 ปอนด์, insta360.com
แม้ว่าเวบแคมของ MACBOOK จะได้รับการปรับปรุงให้ดีขึ้นมากแล้ว แต่ฟังค์ชัน 1080P ที่ได้ก็ยังไม่เจ๋งพอ คุณสามารถอัพเกรดเป็น 4K ได้ด้วย INSTA360 LINK ที่ได้รับรางวัลชนะเลิศจาก T3-AWARD ด้วยฟังค์ชันติดตามตัวอัตโนมัติ และการควบคุมด้วยท่าทาง
LINDY DST PRO DOCKING STATION 451.54 ปอนด์, lindy.co.uk
ถึงแม้ว่าจะมีพอร์ทชาร์จ MAGSAFE แล้ว แต่ MACBOOK AIR ก็ยังมีพอร์ท THUNDERBOLT ให้เพียง 2 พอร์ทเท่านั้น ดังนั้น การซื้อตัวเชื่อมต่อ USB จึงเป็นสิ่งจำเป็น โดย LINDY ให้พอร์ท USB-C 3 พอร์ท, ETHERNET, 4K HDMI และพอร์ทดิสพเลย์ 4K
AIRPODS MAX 549 ปอนด์, apple.com
หากคุณต้องการช่วงเวลาที่ไม่มีใครรบกวน แต่ก็ไม่ต้องการบอกลา SPATIAL AUDIO สุดดื่มด่ำ AIRPODS MAX เป็นตัวเลือกเดียวที่ให้เสียงดีเหลือเชื่อ พร้อมระบบตัดเสียงรบกวนคุณภาพสูง และระบบเสียง 3D สุดหรูหรา
ROG สุดเทพ
ASUS ROG ALLY 699 ปอนด์, asus.com
ระดมขุมพลังมากมายเพื่อมอบประสบการณ์การเล่นเกมแบบพกพาที่ดีในการเล่นเกมมากมายไว้ในอุปกรณ์พกพา
หากคุณรักการเล่นเกม ก็น่าจะมีเครื่องเล่นเกมที่บ้านอยู่แล้ว แต่ถ้าคุณไม่ได้อยู่บ้าน แล้วอยากเล่นเกมขึ้นมา จะทำอย่างไร ? เราขอแนะนำ ASUS ROG ALLY ซึ่งโดยพื้นฐานแล้วเป็น WINDOWS PC แบบพกพาที่ใช้ WINDOWS 11 เวอร์ชันเต็ม ช่วยให้คุณสามารถเข้าเล่นเกมต่างๆ ได้ทุกที่ ทุกเวลา
ROG ALLY มาในสีขาวด้าน พร้อมใส่ความเป็นบแรนด์ และสไตล์ที่อ่อนโยนไว้ที่ขอบ และด้านหลังของตัวเครื่อง ตัวมือจับได้รับการออกแบบมาเพื่อความสะดวกสบายสูงสุด และมันทำหน้าที่ได้ดีจริงๆ ตัวเครื่องแม้จะดูใหญ่กว่าที่คาดไว้มาก แต่ก็ถือได้สบาย และให้ความรู้สึกเป็นธรรมชาติขณะใช้งาน
ภายในเครื่องเป็นพโรเซสเซอร์ AMD RYZEN ที่ออกแบบพิเศษสามารถรองรับการทำงานได้ทั้งในส่วน CPU และ GPU มันเป็นชิพ 8-CORE ขนาด 4 นาโนเมตร และทำงานได้ดีมาก การเล่นเกมระดับ AAA ไม่มีปัญหา ให้ภาพ ANIMATION ที่ลื่นไหล และเกมพเลย์ที่ไร้ข้อผิดพลาด ที่ด้านหน้ามีพาแนล FHD ขนาด 7 นิ้ว พร้อมอัตราการรีเฟรชที่ 120HZ และความสว่างสูงสุดที่ 500 นิท นอกจากนี้ หน้าจอยังมีเวลาตอบสนองที่ 7MS เพื่อรองรับแอคชัน และการกดปุ่มที่รวดเร็วภายในเกม
ระบบเสียงแบบ 2 ลำโพงบนตัวเครื่อง และรองรับระบบ DOLBY ATMOS แน่ใจได้เลยว่าจะได้รับเสียงคุณภาพสูง ซึ่งจากการใช้งาน มันก็ยอดเยี่ยมจริงๆ ความดังของเสียงก็มากเกินพอ จากการเปิดความดังแค่ 20 %
ผลที่ได้จากการใช้งาน อยู่ในระดับเดียวกับเครื่องคอนโซล เราไม่เคยสังเกตเห็นเฟรมเรทที่ตกลงเลยสักครั้ง แถมไม่พบอาการกระตุกอย่างชัดเจนอีกด้วย
ฟีเจอร์ที่ทำให้ ROG ALLY ใช้งานง่าย คือ ซอฟท์แวร์ ARMOURY CRATE ซึ่งช่วยให้ผู้ใช้สามารถเปิดคลังเกมทั้งหมดได้จากที่เดียว หมายความว่าคุณไม่ต้องลอคอินไปมาระหว่างหลายพแลทฟอร์มเพื่อเล่นเกมแต่ละเกม ซึ่งทำให้การเข้าเล่นเกมนั้นเร็วขึ้นมาก
ALLY มาพร้อมกับเดสค์ทอพ และคอนทโรเลอร์เกมแพดเป็นการตั้งค่าพื้นฐาน การตั้งค่าเหล่านี้ใช้งานได้ดี แต่บางครั้งเราอาจจะไม่ชิน เนื่องจากเกมบางเกมมีการควบคุมที่ค่อนข้างเฉพาะเจาะจง แต่ไม่ต้องกังวล การแมพเลย์เอาท์ใหม่ ทำได้ง่ายผ่าน GAME PROFLIES
สิ่งที่ ROG ALLY น่าผิดหวังจริงๆ คือ อายุการใช้งานแบทเตอรี เราทดสอบผ่านเกม 2 เกมบน ALLY ผลลัพธ์ที่ออกมาแตกต่างกันมาก การทดสอบผ่านเกม Football Manager นั้น ROG สามารถเล่นไปได้ 5-6 ชม. อย่างสบายๆ โดยไม่ต้องเสียบชาร์จ แต่เมื่อเล่น GRAND THEFT AUTO V แบทเตอรีโดนผลาญไปกว่า 40 % ภายในครึ่งชม.
ท้ายที่สุด หากคุณมองหาเครื่องเล่นเกมทุกเกมในแบบพกพา นี่คือสิ่งที่คุณต้องการ มันให้ประสบการณ์การเล่นเกมที่ยอดเยี่ยม และใช้งานง่าย แต่มัน คือ ตัวจบของเครื่องเล่นเกมพกพาหรือไม่ ? คำตอบ คือ ไม่ ยกเว้นว่า ASUS จะอัพเดทซอฟท์แวร์ ภายในเพิ่มอีกสักหน่อย ก็อาจทำให้มันเป็นรุ่นตัวจบที่แท้จริงได้เลย
สรุปคะแนนจาก T3
เราประทับใจกับ : ประสิทธิภาพชั้นยอด; อินเตอร์เฟศที่คุ้นเคย; ปรับแต่งง่าย; เล่นแล้วยากที่จะวางมือ
เราอยากให้ปรับปรุง : อายุการใช้งานแบทเตอรี ตัวเครื่องเทอะทะไปนิด
สรุป : เครื่องเล่นเกมแบบพกพาที่เหมาะสม และคู่ควร อินเตอร์เฟศที่ให้ความรู้สึกคุ้นเคยด้วย WINDOWS 11 และประสิทธิภาพการเล่นเกมที่ยอดเยี่ยม พร้อมสามารถตั้งค่าเครื่องให้เหมาะกับสไตล์การใช้งานของคุณ
พบกับข้อเสนอดีๆ ของ ROG Ally ได้ที่: bit.ly/t3rogally
ABOUT THE AUTHOR
T
T3
ภาพโดย : T3นิตยสาร 417 ฉบับเดือน ธันวาคม ปี 2566
คอลัมน์ Online : เรื่องเด่นจาก GADGET/HOW IT WORKS
คำค้นหา