รถยนต์ในปัจจุบันอัดแน่นไปด้วยเทคโนโลยีใหม่ๆ มากมาย ต้องยอมรับอย่างหนึ่งว่า เทคโนโลยีทั้งหลายเหล่านั้น ผู้ใช้รถอย่างเราอาจยังไม่คุ้นชินกับเทคโนโลยีเหล่านี้ เนื่องจากเป็นช่วงเปลี่ยนผ่านเทคโนโลยีที่ก้าวกระโดดเลยก็ว่าได้ ด้วยการสนับสนุนจากภาครัฐในเรื่องมาตรการ EV 3.0 ทำให้หลายๆ คนตัดสินใจเปลี่ยนรถ ซึ่งถือเป็นการก้าวกระโดดของเทคโนโลยี เพราะจากรถที่มีระบบอำนวยความสะดวก หรือความปลอดภัยในระดับพื้นฐาน พอมาเจอระบบใหม่ๆ เทคโนโลยีใหม่ๆ จึงสับสน และกังวล เพราะมีหลายสิ่งหลายอย่างแตกต่างไปจากรถยนต์ที่เคยสัมผัสมาตลอด ลองมาดูว่ามีเทคโนโลยีอะไรบ้าง ที่ทำให้หลายคนเข้าใจผิด และรู้สึกกังวลใจในการใช้งาน
รถจอดเฉยๆ แต่ระบบไฟฟ้าทำงาน ?
ในรถยนต์ปกติทั่วไปนั้น เราเคยชินว่าเมื่อลอครถจอดเอาไว้แล้ว โดยปกติรถจอดนิ่ง ต้องไม่มีระบบใดทำงาน หรือส่งเสียงให้เรารู้สึก ไม่ว่าจะเป็นพัดลมไฟฟ้า ระบบแอร์ทำงาน มีน้ำแอร์หยด หรือมีเสียงอะไรดังมาจากตัวรถ ถ้าจะมีก็ควรจะมีแต่ระบบกันขโมยทำงานเพียงอย่างเดียว คราวนี้รถยนต์ที่ใช้แบทเตอรี และต้องมีการชาร์จไฟฟ้า ไม่ว่าจะเป็นรถ BEV ที่เราคุ้นเคยกันว่า “รถไฟฟ้า 100 %” รถ FHEV หรือ “รถพลัก-อิน ไฮบริด” รถกลุ่มนี้ ต้องมีการชาร์จไฟ หรือประจุแบทเตอรี ประเด็นนี้ที่ทำให้หลายคนสงสัย เพราะจอดรถชาร์จตอนกลางคืน แล้วได้ยินเสียงเหมือนพัดลมทำงาน ได้ยินเสียงคอมเพรสเซอร์ทำงาน หรือเห็นมีร่องรอยของน้ำหยดลงที่พื้น
ทำไมรถดับเครื่องแล้วลอครถไว้ ระบบเหล่านี้จึงทำงาน การชาร์จแบทเตอรีรถยนต์นั้น ก็ไม่ต่างอะไรจากการชาร์จโทรศัพท์มือถือ เมื่ออุณหภูมิแบทเตอรีร้อนมากขึ้น ระบบก็จะมีการลดกระแสในการชาร์จ เพื่อลดอุณหภูมิของแบทเตอรี เพื่อป้องกันความเสียหาย หรือการลุกไหม้
ในสมาร์ทโฟนรุ่นใหม่ๆ แบทเตอรีเมื่อประจุถึง 80 % ระยะเวลาในการชาร์จจะนานขึ้น เพื่อลดอุณหภูมิของแบทเตอรี ในรถยนต์ BEV และ PHEV ก็เช่นกัน แต่การอัดประจุไฟฟ้าเข้าแบทเตอรีรถยนต์นั้น อุณหภูมิของแบทเตอรีจะสูงมาก เพื่อป้องกันความเสียหายทั้งเรื่องของการเสื่อมสภาพ และปัญหาความร้อนอันจะทำให้เกิดอุบัติเหตุถึงขั้นลุกไหม้ได้
ความเย็นจากระบบแอร์ คือ คำตอบ
ทางแก้ไข คือ การลดกำลังไฟในการชาร์จลง แต่คงไม่เหมาะกับการใช้งาน เพราะเราคงต้องใช้เวลาชาร์จกันมากขึ้นหลายเท่าตัว ดังนั้น การแก้ไขที่ถูกต้อง คือ ต้องมีการระบายความร้อนของแบทเตอรี เป็นการควบคุมอุณหภูมิของแบทเตอรีให้อยู่ในอุณภูมิที่เหมาะสม ถ้าเป็นประเทศเมืองร้อนอย่างบ้านเรา จะใช้การระบายความร้อนผ่านระบบหล่อเย็นด้วยน้ำ หรือใช้ความเย็นจากระบบแอร์มาช่วยในการระบายความร้อนของแบทเตอรี ส่วนในเมืองหนาวนั้นต้องมีการอุ่นแบทเตอรี เพื่อให้มีอุณหภูมิที่เหมาะสมในการชาร์จ การอุ่นนั้นระบบจะต้องมีการเปิดการทำงานของระบบฮีทเตอร์เพื่อให้เกิดความร้อน
ดังนั้น รถยนต์ในกลุ่มนี้แม้เราจอดไว้เฉยๆ แต่มีการเสียบชาร์จ ก็ไม่แปลกที่จะมีบางระบบทำงานดังที่กล่าวมา หรือบางครั้ง รถที่มีระบบการอัพเดทข้อมูลผ่านอินเตอร์เนท เมื่อมีการอัพเดทอัตโนมัติ อาจจะมีการติดสว่างของหน้าจอ หรือมีไฟกะพริบขึ้นมา จำเป็นอย่างยิ่งที่ต้องศึกษาข้อมูลให้ละเอียด จะได้ไม่กังวลใจในการทำงานแบบอัตโนมัติของตัวรถ