PORSCHE MACAN EV TURBO

มอเตอร์ไฟฟ้า กำลังสูงสุด 639 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 115.3 กก.-ม. ความจุแบทเตอรี 100 กิโลวัตต์ชั่วโมง ระบบส่งกำลัง อัตโนมัติ ระบบขับเคลื่อน 4 ล้อตลอดเวลา

ครอสส์โอเวอร์รุ่นใหม่ของ PORSCHE

PORSCHE MACAN (โพร์เช มาคัน) ถือเป็นอนุกรมลำดับที่ 2 ของสายพันธุ์ เปิดตัวด้วยทางเลือกขุมพลังแบบมอเตอร์ไฟฟ้า เส้นสายโดยรวมยังคงความโฉบเฉี่ยวในสไตล์ของ PORSCHE ไฟหน้าแอลอีดีทรงเรียว ดูคล้ายกับรถยนต์ไฟฟ้าร่วมค่ายอย่าง TAYCAN (ไทย์คาน) รูปทรงโดยรวมเน้นความเรียบง่าย แต่แฝงความสปอร์ทด้วยสันเหลี่ยมตามจุดต่างๆ อย่างลงตัว รุ่นทอพ TURBO ใช้ล้อแมกขนาด 21 นิ้ว ขณะที่รุ่นเริ่มต้น คือ MACAN 4 ใช้ล้อแมกขนาด 20 นิ้ว

มอเตอร์ไฟฟ้า 639 แรงม้า

PORSCHE MACAN TURBO ใช้มอเตอร์ไฟฟ้า 2 ชุด กำลังสูงสุด 639 แรงม้า แรงบิดสูงสุดถึง 115.3 กก.-ม. ขับเคลื่อน 4 ล้อตลอดเวลา อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ใน 3.3 วินาที ความเร็วสูงสุด 260 กม./ชม. ภายใต้แบทเตอรีความจุ 100 กิโลวัตต์ชั่วโมง มีระยะทำการสูงสุดที่ 591 กม. (มาตรฐาน WLTP) รองรับการชาร์จกระแสไฟฟ้าตรง DC ได้สูงสุดถึง 240 กิโลวัตต์ ส่วนรุ่น MACAN 4 กำลังสูงสุด 408 แรงม้า อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ใน 5.2 วินาที ระยะทำการสูงสุด 613 กม.

ห้องโดยสารล้ำสมัยสไตล์ดิจิทอล

ห้องโดยสารของ PORSCHE MACAN รุ่นล่าสุด เน้นการแสดงผล และการใช้งานแบบดิจิทอล ปุ่มกดต่างๆ เป็นระบบสัมผัสบนพื้นผิวสีดำแวววาว จอแสดงผลขนาดใหญ่พาดยาวตลอดช่วงความกว้างของคอนโซลหน้า ปรับเปลี่ยนการแสดงผลได้หลากหลาย คันเกียร์ขนาดเล็กอยู่บนคอนโซลหน้าใกล้กับคอพวงมาลัย รุ่น TURBO ติดตั้งเบาะนั่งแบบสปอร์ท เบาะด้านหลังสามารถพับเก็บได้แบบ 60:40 ตกแต่งห้องโดยสารด้วยวัสดุชั้นดี และยังมีนาฬิกาแบบแอนาลอกดั้งเดิมด้วย

รู้หรือไม่

1. PORSCHE MACAN EV จัดเป็นรถยนต์ไฟฟ้ารุ่นที่ 2 ของ PORSCHE ถัดจาก TAYCAN รวมถึง TAYCAN CROSS TURISMO (ไทย์คาน ครอสส์ ตูริสโม) กับทางเลือกตัวถังสไตล์เอสยูวีขนาดเล็ก แต่มีมาดสปอร์ทจัดเต็ม รวมถึงการขับขี่ที่เน้นสมรรถนะไม่แพ้เอสยูวีมาดสปอร์ทเครื่องยนต์สันดาป

2. PORSCHE กำลังก้าวเข้าสู่ยุทธศาสตร์ใหม่ของโลกยานยนต์ นั่นคือ การเน้นทำตลาดด้วยรถยนต์ไฟฟ้าประสิทธิภาพสูง จากเดิมที่ก่อนหน้านี้ทำตลาดรถยนต์หลายรุ่นด้วยเครื่องยนต์แบบพลัก-อิน ไฮบริด เช่น ในรถยนต์รุ่น PANAMERA (พานาเมรา) และ CAYENNE (คาเยนน์) 

3. ถัดจาก MACAN รุ่นล่าสุด รถยนต์ที่ถูกคาดหมายว่าจะถูกเพิ่มทางเลือกพลังงานไฟฟ้าเข้ามา คือ เอสยูวีรุ่นใหญ่ของค่ายอย่าง CAYENNE โดยมีกำหนดเปิดตัวในช่วงปี 2025 อย่างไรก็ตาม ขุมพลังแบบไฮบริดจะยังคงเป็นหนึ่งในทางเลือกเช่นกัน