เยอรมนี-สัปดาห์แรกของเดือนที่มีเพียง 29 วัน ค่าย “ใบพัดเครื่องบินสีฟ้าขาว” เติมเต็มให้แก่รถเก๋งสุดหรูอนุกรม BMW 5 SERIES (บีเอมดับเบิลยู ซีรีส์ 5) โดยการเปิดตัวรถตรวจการณ์ติดป้ายชื่อ BMW 5 SERIES TOURING (บีเอมดับเบิลยู ซีรีส์ 5 ทัวริง) หลังจากเปิดตัวรถซีดานติดป้ายชื่อ BMW 5 SERIES LIMOUSINE (บีเอมดับเบิลยู ซีรีส์ 5 ลีมูซีน) ไปก่อนแล้วเมื่อเดือนพฤษภาคม ปีกระต่าย
ก่อนหน้านี้ ยอดผู้ผลิตรถหรูเมืองเบียร์นำรถเก๋งตรวจการณ์ BMW 5 SERIES TOURING ออกสู่ตลาดไปแล้วรวม 5 รุ่น คือ รถรหัส E34 ในปี 1991 รถรหัส E39 ในปี 1997 รถรหัส E61 ในปี 2004 รถรหัส F11 ในปี 2010 และรถรหัส G31 ในปี 2017 รถรุ่นล่าสุดนี้จึงเป็นรถรุ่นที่ 6 และเป็นรุ่นแรกที่มีรถพลังไฟฟ้าล้วนๆ ให้เลือกใช้ด้วย เมื่อนับจนถึงสิ้นเดือนธันวาคม 2023 รถเก๋งตรวจการณ์ขนาดกลางอนุกรมนี้ทำยอดขายทั่วโลกไปแล้วมากกว่า 245,000 คัน
ตัวถังทรง 2 กล่อง ยาว 5.060 ม. กว้าง 1.900 ม. และสูง 1.515 ม. ซึ่งมีช่วงฐานล้อยาว 2.995 ม. และมีค่าสัมประสิทธิ์แรงต้านอากาศต่ำสุด 0.24 ดัดแปลงจากตัวถังทรง 3 กล่องของรถซีดาน โดยไม่มีการแตะต้องใดๆ กับตัวถังหน้า (ตั้งแต่ปลายจมูกจนถึง B-PILLARS หรือเสาค้ำยันหลังคาคู่ที่ 2) ที่เปลี่ยนไป คือ ประตูข้างบานหลังที่ออกแบบขึ้นใหม่ ประตูท้ายที่ออกแบบขึ้นใหม่ หลังคาที่ยาวกว่าเดิม และอุปกรณ์อากาศพลศาสตร์บางชิ้นที่ติดตั้งเพื่อให้กระแสอากาศไหลผ่านหน้าต่างบานท้ายได้อย่างราบเรียบ
เป็นตัวถังที่ยาวขึ้นถึง 9.7 ซม. กว้างขึ้น 3.2 ซม. และสูงขึ้น 1.7 ซม. เมื่อเทียบกับตัวถังของรถรุ่นเดิม ในขณะที่ช่วงฐานล้อก็ยาวขึ้น 2.0 ซม. ผลลัพธ์ คือ ห้องโดยสารที่กว้างขวางขึ้น และนั่งยืดแข้งยืดขาได้สบายขึ้น แต่ห้องเก็บของท้ายรถยังจุเท่าเดิม คือ 570 ลิตร และจะเพิ่มเป็น 1,700 ลิตร เมื่อพับราบพนักเบาะหลัง ข้อได้เปรียบ คือ การยกข้าวของขึ้น/ลงทำได้สะดวกกว่าเดิม เพราะประตูบานท้ายกว้างกว่าเดิม
เมื่อเริ่มการจำหน่ายในเดือนพฤษภาคม ปีมังกรไฟ จะมีรถให้เลือกรวม 4 โมเดล เป็นรถขับเคลื่อนด้วยพลังของเครื่องยนต์ดีเซลพร้อมระบบ MILD HYBRID หรือไฮบริดแบบอ่อน 2 โมเดล คือ รถขับเคลื่อนล้อหลัง BMW 520D TOURING (บีเอมดับเบิลยู 520 ดี ทัวริง) กับรถขับเคลื่อนทุกล้อ BMW 520D XDRIVE TOURING (บีเอมดับเบิลยู 520 ดี เอกซ์ดไรฟ ทัวริง) ทั้งคู่ติดตั้งเครื่องยนต์เทอร์โบดีเซลฉีดตรง 4 สูบเรียง 16 วาล์ว 1,995 ซีซี 145 กิโลวัตต์/197 แรงม้า และมอเตอร์ไฟฟ้า 8 กิโลวัตต์/11 แรงม้า ได้กำลังรวมสูงสุด 145 กิโลวัตต์/197 แรงม้า
ส่วนอีก 2 โมเดล เป็นรถขับเคลื่อนด้วยพลังไฟฟ้าล้วนๆ ไม่มีการติดตั้งเครื่องยนต์ใดๆ คือ รถขับล้อหลัง BMW I5 EDRIVE40 TOURING (บีเอมดับเบิลยู ไอ 5 อีดไรฟ 40 ทัวริง) กับรถขับทุกล้อ BMW I5 M60 XDRIVE TOURING (บีเอมดับเบิลยู ไอ 5 เอม 60 เอกซ์ดไรฟ ทัวริง) โมเดลแรกใช้มอเตอร์ไฟฟ้า 250 กิโลวัตต์/340 กิโลวัตต์ ขับล้อคู่หลัง วิ่งได้ไกล 483-560 กม. เมื่อชาร์จไฟเต็ม และวัดตามมาตรฐาน WLTP ส่วนโมเดลหลังใช้มอเตอร์ไฟฟ้า 192 กิโลวัตต์/261 แรงม้า ขับล้อคู่หน้า ใช้มอเตอร์ไฟฟ้า 250 กิโลวัตต์/340 แรงม้า ขับล้อคู่หลัง ได้กำลังรวมสูงสุด 442 กิโลวัตต์/601 แรงม้า และวิ่งได้ไกล 445-506 กม. เมื่อชาร์จไฟเต็ม
ราคารวมภาษีมูลค่าเพิ่มร้อยละ 19 ของเยอรมนี เริ่มต้นที่ 72,000 ยูโร หรือประมาณ 2.81 ล้านบาทไทย